การประกาศเวลาคิ๊กออฟอย่างเป็นทางการของฟีฟ่า ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่มีเจ้าภาพเป็นประเทศกาตาร์ ประเทศจากโซนตะวันออกกลาง นั้นถือว่าเป็นการจัดเวลาการแข่งขันเพื่อให้ได้จำนวนผู้ชมจากทั่วโลกได้อย่างทั่วถึงมากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในไทม์โซนของเอเชีย ยุโรป และ แอฟริกาใต้
จะลำบากหน่อยไปจนถึงมากก็คือประเทศโซนอเมริกาเหนืออย่างประเทศแคนาดา และ สหรัฐอเมริกา ที่ได้รับชมคู่แรกในรอบแบ่งกลุ่มเวลาตีห้า ซึ่งเอาจริงๆ คงไม่ใช่เวลาที่เหมาะในการรับชมกีฬาเท่าไหร่ แต่ก็ยังเชื่อว่าจำนวนแฟนบอลที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในทวีปอเมริกาเหนือที่ปีนี้ทั้งทีมชาติสหรัฐฯ และ แคนาดา ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายได้นั้นก็คงจะเฝ้าติดตามเชียร์ประเทศของตัวเองแน่นอน
ฟุตบอลโลก 2022 เวลาไทม์โซนของกาตาร์ คือ GMT+3 เวลาดีในบางทวีป
สำหรับการรับชมการถ่ายทอดสดนั้นเรียกได้ว่าเป็นการเลือกเวลาคิ๊กออฟ ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่ฟีฟ่าวางเอาไว้คือในเอเชีย และ ทวีปยุโรป โดยทางฟีฟ่าได้กำหนดเวลาลงสนามในการแข่งขันที่กาตาร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยในรอบแบ่งกลุ่มลงสนามในเวลา 13.00 น. 16.00 น. 19.00 น. และ 22.00 น. ซึ่งเวลาที่กาตาร์จะเร็วกว่าที่อังกฤษซึ่งเป็นจุดของ Greenwich Mean Time หรือ GMT +3 (หรือเร็วกว่า 3 ชั่วโมง)
ซึ่งจะทำให้การแข่งขันฟุตบอลโลกในครั้งนี้แฟนบอลในฟากยุโรป และ อังกฤษ จะได้ชมการแข่งขันคู่แรกในรอบแบ่งกลุ่มในช่วงเวลาประมาณ 10.00 น. และเป็นเวลา 13.00 น. 16.00 น. และ 19.00 น. ตามลำดับ
ขณะที่รอบน็อคเอาท์ของแต่ละกลุ่มนั้นจะลงสนามในเวลา 18.00 น. และ 22.00 น. ซึ่งในฝั่งอังกฤษ และ ยุโรปนั้นจะอยู่ในเวลา 15.00 น. และ 19.00 น. ส่วนรอบรองชนะเลิศจะแข่งที่เวลา 22.00 น. ซึ่งเท่ากับ 19.00 น. ในขณะที่รอบชิงที่สามจะเตะกันในเวลา 18.00 น. เช่นเดียวกับรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งตรงกับเวลาประมาณ 15.00 น. ในฟากยุโรป และ อังกฤษ
ขณะที่รัสเซียมี Time Zone เดียวกับกาตาร์ ส่วนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเมืองไทยนั้น ต้องบอกว่าการแข่งขันฟุตบอลโลกในครั้งนี้คือเวลาไพรม์ไทม์จริงๆ เพราะคู่แรกเวลา 13.00 น. ซึ่งเมืองไทยและประเทศในโซนนี้จะเร็วกว่ากาตาร์อยู่ประมาณ 4 ชั่วโมงเท่ากับคู่แรกจะได้ชมกันในเวลา 17.00 น. เป็นเวลาที่บางคนเลิกงานพอดิบพอดี แล้วก็จะไล่ไปเรื่อยๆ ที่ 20.00 น. 23.00 น. และ 02.00 น. ตามลำดับ
ทวีปอเมริกาเหนือยังไม่ใช่ลูกรักของฟีฟ่าเมื่อแฟนบอลต้องชมฟุตบอลโลกในเวลาตีห้า
เมื่อข้ามมาดูเวลาถ่ายทอดสดการแข่งขันในอีกซีกโลกหนึ่งอย่างทวีปอเมริกาเหนือโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกาที่ ฟอกซ์ (FOX) ได้ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด เพราะจากเวลาคิ๊กออฟที่ฟีฟ่าประกาศออกมาจะเห็นว่าเป็นเวลาที่ไม่ค่อยดีนักสำหรับคู่แรกและคู่ที่สอง เพราะต้องเริ่มชมกันตั้งแต่ตีห้าเลยทีเดียว
ซึ่งเวลาคิ๊กออฟในฟุตบอลโลก 2022 นั้นเรียกได้ว่าเป็นเป็นลักษณะเดียวกับการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ซึ่งมี Time Zone เดียวกับกาตาร์ ทำให้แฟนบอลจะได้ชมนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกในช่วงบ่าย ไม่ใช่ช่วงเวลาไพรม์ไทม์เหมือนฝั่งเอเชีย หรือ ยุโรป
ขณะที่ฝั่งอเมริกาใต้ และ แอฟริกานั้น เรียกว่าแมทช์แรกที่คิ๊กออฟในเวลา 13.00 น. เป็นช่วงเวลาที่น่าสนใจพอสมควร เพราะทวีปแอฟริกานั้น Time Zone ของกาตาร์เท่ากับ GMT+2 ขณะที่กาตาร์กับทวีปอเมริกาใต้นั้น GMT+6
จากการเลือกเวลาคิ๊กออฟในฟุตบอลโลก 2022 นั้นดูจะสอดคล้องกับรายงานของฟีฟ่าที่ระบุว่าแฟนบอลในทวีปแอฟริกา และ อเมริกาใต้นั้นเป็นกลุ่มแฟนบอลสำคัญของการแข่งขันฟุตบอล โดยตัวเลขแฟนบอลในทวีปยุโรป และ เอเชียก็จะลดหลั่นกันตามลำดับ
นั่นเท่ากับว่าแฟนบอลที่ทางฟีฟ่า คาดการณ์ว่าจะรับชมการแข่งขันผ่านการถ่ายทอดสดกว่าสามพันล้านรายที่รับชมผ่านการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ และ แพลตฟอร์มอื่นจะมาจากสี่ทวีปหลักคือ แอฟริกา, อเมริกาใต้, ยุโรป, และ เอเชีย
กาต้าร์ 2022 การแข่งขันฟุตบอลโลกที่คาดว่าจะมีผู้ชมการแข่งขันมากที่สุด
ผลการสำรวจของ นีลเซ่น ระบุว่านับตั้งแต่ทางกาตาร์ ได้ปล่อยสัญลักษณ์การแข่งขันฟุตบอลโลกออกมาในปี 2019 ความสนใจจากทั่วโลกต่อการแข่งขันเพิ่มขึ้น 37% ในปี 2020 และเพิ่มขึ้นเป็น 46% ในปี 2021 และเชื่อว่าจำนวนตัวเลขจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเริ่มเข้าใกล้การแข่งขัน
ทั้งนี้มีการคาดการณ์ว่าจะมีผู้รับชมกว่า 3 พันล้านราย และคาดหมายว่าในนัดชิงชนะเลิศจะมีผู้ชมมากถึง 1 พันล้ายรายจากตัวเลขดังกล่าวพอจะทำให้เห็นว่าตัวเลขของผู้รับชมการถ่ายทอดสดในปีนี้จะเพิ่มขึ้นจากฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซียแน่นอน
ประกอบกับเวลาถ่ายทอดสดที่เอื้อให้ผู้ชมในภูมิภาคที่เป็นตลาดของฟีฟ่า รับชมกันได้ง่ายขึ้นและการรับชมที่มีทั้งในรูปแบบเดิม และ มีสตรีมมิ่งให้ชมทางแพลตฟอร์มออนไลน์ ทำให้ผู้ชมไม่พลาดในทุกนัดที่ต้องการรับชม
ด้วยเหตุผลและปัจจัยดังกล่าวถ้ามีการประกาศตัวเลขผู้ชมการแข่งขันผ่านการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก จะมีจำนวนแฟนบอลรับชมเพิ่มมากกว่าเมื่อ 4 ปีที่แล้วก็ไม่น่าจะใช้เรื่องแปลกอะไร และน่าจะส่งผลดีต่อเจ้าภาพอย่างกาตาร์มากๆ เพราะความหวังต่อไปของกาตาร์คือการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกปี 2032 นั่นเอง
