Here We Go! ฟาบริซิโอ โรมาโน่ เทพนักข่าว TIER 1 แห่งวงการซื้อขายนักเตะ

เชื่อว่าบรรดาแฟนฟุตบอลส่วนใหญ่น่าจะรู้จักชายที่ชื่อว่า ฟาบริซิโอ โรมาโน่ นักข่าวชาวอิตาเลียน ผู้เป็นเบอร์ 1 ในแวดวงซื้อขายนักเตะ ที่เมื่อไหร่บอลปิดฤดูกาล พร้อมกับตลาดซื้อขายผู้เล่นเปิดทำการ เขาคือคนที่ทำให้แฟนบอลอย่างเราๆ มีอะไรให้ติดตามในช่วงที่เกมลูกหนังเงียบเหงา ยิ่งเวลาที่เขาพิมพ์ประโยคซิกเนเจอร์อย่าง Here We Go! หัวใจแฟนๆ ก็ยิ่งเต้นแรง เพราะมันแทบจะการันตีเลยว่า ผู้เล่นคนนั้นย้ายทีมแน่นอน 

จากความแม่นยำในการรายงานข่าวทำให้ ฟาบริซิโอ โรมาโน่ ในวัยแค่ 30 ปี กลายเป็นนักข่าวฟุตบอลสายซื้อขายนักเตะระดับ TIER 1 หรือง่ายๆ ก็คือ มีความน่าเชื่อถือเป็นอย่างมาก ซึ่งเมื่อปีที่แล้วเขายังอยู่ในลิสต์ Forbes 30 จากการเป็นหนึ่งในคนแวดวงสื่อที่มีอิทธิพลมากที่สุด จัดอันดับโดย Forbes นิตยสารธุรกิจระดับโลก และปัจจุบันเขามีผู้ติดตามในโลกโซเชียลมีเดียบนแพลตฟอร์มหลักๆ รวมแล้วกว่า 58 ล้านคน  

กว่าที่ ฟาบริซิโอ โรมาโน่ จะกลายเป็นเบอร์ 1 หรือ เจ้าพ่อนักข่าววงการซื้อขายนักเตะ ชีวิตเส้นทางอาชีพของเขาเดินทางมาอย่างไร ติดตามไปพร้อมกันได้เลยที่ Spacebar VIBE 

จุดเริ่มต้นในเส้นทางสายฟุตบอล 

ฟาบริซิโอ โรมาโน่ เริ่มต้นเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับฟุตบอลครั้งแรกในวัยเพียงแค่ 16 ปี ตั้งแต่ที่เขายังเรียนอยู่ในช่วงไฮสคูล ก่อนเข้ามหาวิทยาลัย ด้วยความหลงใหลในกีฬาชนิดนี้ เนื่องจากเกิดในเมือง เนเปิ้ลส์ ประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่ผู้คนคลั่งไคล้กีฬาลูกหนังเป็นอย่างมาก 

เส้นทางอาชีพนักข่าวซื้อขายของ โรมาโน่ เริ่มขึ้นตอนอายุ 18 ปี จากการเป็นนักข่าวของสื่อกีฬาท้องถิ่นเล็กๆ ในบ้านเกิด ประเทศอิตาลี หลังจากเริ่มงานได้ไม่นาน เขาก็ได้รับข้อมูลวงในจากเอเยนต์นักเตะอิตาลีคนหนึ่งที่ทำงานให้กับ บาร์เซโลน่า ยักษ์ใหญ่แห่งลีกกระทิง โดยเอเยนต์คนนั้นขอให้เขาเขียนข่าวเกี่ยวกับดาวรุ่งสองคนจากศูนย์ฝึก ลา มาเซีย นั่นก็คือ เคราร์ด เดโลเฟว และ เมาโร อิคาร์ดี้ ให้ได้รับความสนใจ  

ซึ่งมันก็ได้ผล เมื่อหนึ่งในสองคนนั้นอย่าง เมาโร อิคาร์ดี้ ได้รับความสนใจจากสโมสรใน กัลโช่ เซเรีย อา และในที่สุดเขาก็ได้ย้ายไปอยู่กับ ซามพ์โดเรีย ต่อจากนั้นข่าวที่ทำให้เขาเริ่มโด่งดังก็คือข่าวของ อิคาร์ดี้ คนเดิมที่ย้ายจาก ซามพ์โดเรีย ไปอยู่กับ อินเตอร์ มิลาน โดยได้รับข้อมูลจากการมีคอนเนคชั่นกับเอเยนต์ของนักเตะ ตั้งแต่สมัยที่นักเตะยังอยู่ในศูนย์ฝึกของบาร์เซโลน่า 

ก้าวสู่สื่อใหญ่ระดับโลกตั้งแต่วัย 19 ปี 

หลังจากข่าวการย้ายทีมของ อิคาร์ดี้ ไปยัง อินเตอร์ มิลาน เขาก็ยังตั้งหน้าตั้งตาทำงานไปเรื่อยๆ ตามปกติ จนมาวันหนึ่งก็ไปเตะตา จานลูก้า ดิ มาร์ซิโอ นักข่าวอาวุโสในแวดวงซื้อขายผู้เล่น ที่เชี่ยวชาญในเรื่องนี้มาก่อนโรมาโน่ โดยเจ้าตัวก็เคยบอกเอาไว้ว่า ดิ มาร์ซิโอ คือคนที่มีอิทธิพลมากๆ ในเส้นทางอาชีพของเขา 

“ไม่มีอะไรต้องสงสัยเลย จานลูก้า ดิ มาร์ซิโอ เป็นนักข่าวที่ยอดเยี่ยมมากๆ ผมเรียนรู้การทำงานทุกอย่างมาจากเขา” ฟาบริซิโอ โรมาโน่ พูดถึง จานลูก้า ดิ มาร์ซิโอ 

นั่นเลยทำให้ ดิ มาร์ซิโอ ดึงตัว โรมาโน่ เข้ามาทำงานกับ Sky Sports Italia ตั้งแต่วัย 19 ปี ด้วยการหมายมั่นปั้นมือว่าจะทำให้โรมาโน่กลายมาเป็นตัวแทนของเขาในอนาคต ซึ่งตัดภาพมาในปัจจุบันก็ไม่มีคำถามเลยว่าเขาเป็นตัวแทนได้ไหม เพราะตอนนี้เขากลายเป็นเบอร์ 1 ในสายข่าวซื้อขายนักเตะไปแล้วเรียบร้อย 

โดยทาง ดิ มาร์ซิโอ ได้ถ่ายทอดวิชาทั้งหมดที่เขามีให้กับ โรมาโน่ จนหมดเปลือก ตั้งแต่การเช็คข่าวจากบรรดาสโมสรต่างๆ รวมไปถึงการสร้างคอนเนคชั่นกับเอเยนต์นักเตะและตัวแทนการซื้อขาย ด้วยการพาโรมาโน่ไปผูกมิตรสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับหลากหลายสโมสรในยุโรป 

“ความคิดในการทำงานของเขา (ดิ มาร์ซิโอ) ไม่ได้มีแค่การเช็คข้อมูลที่ถูกต้องกับสโมสรเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสร้างความสัมพันธ์ที่ยอดเยี่ยมกับบรรดาเอเย่นต์และนายหน้าซื้อขาย ทำให้ตอนนี้เรามีคอนเนคชั่นมากมายกับหลายสโมสร” โรมาโน่ พูดถึงวิธีการทำงานของ ดิ มาร์ซิโอ ที่ถ่ายทอดมาถึงเขา 

อย่างที่บอกไปแล้วว่าเขามีคอนเนคชั่นมากมายกับหลายๆ ทีม นั่นทำให้วิธีการทำงานของเขาแตกต่างจากนักข่าวยุคเก่าๆ เพราะเขามักจะพาตัวเองไปอยู่ใกล้ๆ กับโรงแรมรอบๆ สโมสร, สำนักงานใหญ่ของสโมสร เพื่อไปเจอเอเยนต์นักเตะหรือแม้กระทั่งผู้อำนวยการกีฬาของทีมนั้นๆ ทำให้ตอนนี้เขามีคอนเนคชั่นที่เป็นวงในมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เอเยนต์, เจ้าหน้าที่สโมสร, โรงแรมที่เป็นพาร์ทเนอร์ของสโมสร และ บอร์ดบริหารของสโมสร 

Here We Go! วลีฮิตที่ไม่ชัวร์จริง ไม่ลงเด็ดขาด 

การทำงานของ โรมาโน่ ถูกปลูกฝังมาจาก ดิ มาร์ซิโอ เสมอว่าการจะเสนอข่าวแต่ละครั้งนั้นต้องมีความแม่นยำและถูกต้องมากที่สุด ตั้งแต่การเช็คข่าวกับสโมสร เข้าหาหรือติดต่อแหล่งข่าวจากหลายๆ ที่ และทั้งหมดต้องถูกต้องตรงกันเท่านั้น เขาถึงจะมั่นใจว่าสามารถเผยแพร่ข่าวนั้นออกไปสู่สาธารณชนได้ 

นั่นแสดงให้เห็นว่าเขาตั้งใจและทุ่มเทให้กับการทำงานมากขนาดไหน โดยเคยมีการเปิดเผยว่าในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะเปิด เขานอนเพียงแค่วันละ 5 ชั่วโมง รวมไปถึงการโทรเข้าและรับสายโทรศัพท์กว่า 50 ครั้งต่อวัน เพื่อทำการพูดคุยกับแหล่งข่าวต่างๆ ที่อยู่ในมือของเขา และล่าสุดเขาก็เพิ่งเปิดเผยว่าตัวเองใช้เวลาอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์วันละเกือบๆ 18 ชั่วโมง ซึ่งเลยค่ามาตรฐานที่เว็บไซต์ Exploding Topics เคยทำการสำรวจไว้ในปีนี้ว่า คนทั่วไปใช้เวลากับโทรศัพท์มือถือเฉลี่ยวันละ 3 ชั่วโมง 15 นาที แต่โรมาโน่ใช้ไปเกินกว่านั้นถึงเกือบ 3 เท่า 

จากความชัวร์ของการนำเสนอข่าวก็ทำให้เกิดวลีฮิตอย่าง ‘Here We Go!’ ที่กลายเป็นประโยคประจำตัวของโรมาโน่ไปแล้วเรียบร้อย โดยจุดเริ่มต้นของคำนี้เกิดขึ้นมาจากตอนที่เจ้าตัวรายงานข่าวการย้ายทีมของ พอล ป็อกบา มายัง แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เรียกว่าเป็นมหากาพย์ซีรีส์หนึ่งของการย้ายทีมบนโลกฟุตบอล จนแฟนบอลหลายๆ ทีมขอให้เขารายงานข่าวการย้ายทีมด้วยคำพูด Here We Go!  

“เมื่อไม่กี่ปีก่อน ตอนผมรายงานการย้ายตัวของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่กินเวลานานเป็นเดือนๆ จนค่อนข้างชัวร์แล้ว ผมเลยพิมพ์ไปว่า Here We Go! และหลังจากนั้นแฟนบอลหลายๆ ทีม ก็ขอให้ผมใช้คำนี้เวลาที่ดีลต่างๆ ลุล่วงแล้ว” โรมาโน่ พูดถึงที่มาของวลีฮิต Here We Go!

ในปัจจุบัน ฟาบริซิโอ โรมาโน่ เจริญเติบโตในเส้นทางอาชีพสุดๆ เขาทำงานให้กับทั้ง Sky Sports, The Guardian,  CBS Sports และ Calciomercato หรือ SOS Fanta ซึ่งเป็นสำนักข่าวของเขาเองที่กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย ซึ่งเขามีรายได้จากการทำงานในแต่ละปีมากถึง 1 – 5 ล้านเหรียญสหรัฐ 

ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวชีวิตการทำงานของ ฟาบริซิโอ โรมาโน่ นักข่าวสายซื้อขายนักเตะระดับ TIER 1 ของโลกฟุตบอลในปัจจุบัน และด้วยวัยเพียงแค่ 30 ปี ก็เชื่อว่าเขาจะยังคงเป็นเบอร์ 1 ในวงการนี้ไปอีกยาวนานแน่นอน