รุก ‘จัดจ้าน’ รับ ‘แจกโชค’!! ความพร้อม ‘หงส์แดง’ หลังเริ่มโปรเจกต์ ‘รีบิวด์’ เต็มตัว

6 ส.ค. 2566 - 03:07

  • ก่อนฤดูกาลใหม่ของฟุตบอลพรีเมียร์จะระเบิดเปิดศึกขึ้นในอีกไม่กี่วัน เราจึงขอพาคอบอลทุกท่านโดยเฉพาะเดอะค็อปตัวกลั่น ไปสำรวจความพร้อมของยอดทีมจากลุ่มแม่น้ำเมอซี่ไซต์ หลังตัดสินใจทุ่มเม็ดเงินเพื่อรีบิวด์ทีม ไปดูกันว่าแนวโน้มที่นายใหญ่อย่าง เยอร์เก้น คล็อปป์ หมายมั่นปั้นมือจะล้างคำว่า ‘อาถรรพ์ 7 ปี’ ที่บรรดาสื่อต่างประเคนให้ จะมีแววสำเร็จขนาดไหนในปีนี้

Heavy-Metal-Version-Two-SPACEBAR-Thumbnail
หลังฟอร์มแรงจนลุ้น 4 แชมป์ทุกนัดแบบเหลือเชื่อ แต่เมื่อปลายทางพลาดท่าคว้าได้เพียงแค่ 2 รางวัลบอลถ้วย เริ่มฤดูกาลต่อมาหรือฤดูกาลที่แล้ว ผลงานของหงส์แดงกลับพังพาบลงอย่างไม่เป็นท่า ความล้าสะสม อาการบาดเจ็บ จากการกรำศึกหนักทุกนัดทุกรายการ ก็ทำให้นักเตะชุดนั้นกรอบจนหมดสภาพ แนวรุก และ แดนกลางสลับกันบาดเจ็บอย่างต่อเนื่องแทบจะทั้งฤดูกาล แถมสภาพจิตใจอันย่ำแย่หลังพลาดหวัง 4 แชมป์ ก็ส่งผลไม่น้อย ขนาดดาวยิงอย่าง โม ซาล่าห์ ที่ความมุ่งมั่นไม่เคยลดยังยิงจุดโทษพลาดถึง 2 ครั้งติด ส่วนนักเตะใหม่อย่างค่าตัวแพงอย่าง ดาร์วิน นูเญซ ก็ยังอยู่ในช่วงปรับตัว ไม่สามารถทดแทนการขาดหายไปของ ซาดิโอ มาเน่ ได้เลย เมื่อกองกลางไร้พลัง กองหน้าไร้ความมั่นใจ ก็ทำให้แผลที่มีอยู่ในแดนหลังแต่เดิมปริแตกจนพังพาบในที่สุด เทร้นต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ กลายเป็นจุดอ่อนในเกมรับ เยอร์เก้น คล็อปป์ ที่พยายามปรับจูนทีมก็หาสมดุลไม่เจอ กุนซือที่เคยยึดมั่นในแผนการเดียวตลอดศก มีอันต้องเปลี่ยนแผนสลับไปมาหลายครั้ง ส่งผลให้จบฤดูกาลที่แล้ว ลิเวอร์พูล มือเปล่า จบอันดับ 5 บนตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก พลาดโควต้าฟุตบอลยุโรปถ้วยใหญ่ในรอบหลายปี
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/4DcEdyNHQZtCS8AqNW7fMU/721fc6d0bbd7f9646636cb4e55771683/Heavy-Metal-Version-Two-SPACEBAR-Photo01__1_
Photo: AFP

ยกเครื่องแดนกลาง 

และหนึ่งปัญหาสำคัญที่เหล่าแฟนหงส์กังวลมาตลอด คือเรื่องงบประมาณของหงส์แดงในการเสริมทีม แม้ไม่ได้น้อยนิดจนน่าเกลียด แต่ก็ต้องใช้อย่างระมัดระวัง เลือกทางประหยัดเอาไว้ก่อน ซึ่งหลายครั้งการละเลยเหล่านั้นมันก็ก่อให้เกิดปัญหา โดยเฉพาะในแดนกลาง ที่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทีมหงส์แดงได้เซ็นสัญญากับผู้เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ไปแค่ 1 คนเท่านั้น คือ ติอาโก อัลคันทารา ซึ่งสำหรับมิดฟิลด์ชาวสเปนรายนี้ แม้ยามลงสนามจะไม่มีใครกังขาในฝีเท้า แต่อาการบาดเจ็บที่เหมือนคำสาปติดตัวเขามานั้น ทำให้ประสิทธิภาพของเขาในการที่จะเข้ามายกระดับแดนกลางลิเวอร์พูลไม่ตรงอย่างที่หวัง แถมในปีล่าสุด มิดฟิลด์กัปตันทีมอย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และกลางรับอันดับ 1 ในทีม ฟาบินโญ่ ก็โรยราลงจนน่าใจหาย ทำให้ลิเวอร์พูลตัดสินใจเสริมผู้เล่นในแดนกลางทันทีที่ตลาดเปิด 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/6cfhhU7ILIFlgcQy3QSZFt/65e994a09433be14ec2fecb18c3f0ee1/Heavy-Metal-Version-Two-SPACEBAR-Photo02__1_
Photo: AFP
อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ กองกลางชาวอาร์เจนติน่าวัย 24 ปีของไบร์ตัน เข้ามารับตำแหน่งเบอร์ 10 คนล่าสุดของลิเวอร์พูล จากฟอร์มช่วงล่าสุดของเจ้าตัว ถือว่าเป็นการเซ็นสัญญาที่น่าสนใจ ด้วยดรีกรีแชมป์โลกกับอาร์เจนติน่า แถมมีแอดออนส์คือไม่ต้องปรับตัวกับฟุตบอลอังกฤษ สไตล์การเล่นที่จะนำมาช่วยทีมได้นอกเหนือจากพลังงาน คือการสร้างสรรค์เกมรุก ทั้งการจ่ายบอลเชิงรุก หรือพาบอลเข้าแดนคู่ต่อสู้ ที่ดีกว่ามิดฟิลด์ชุดเก่าของลิเวอร์พูลกว่าเท่าตัว การหาตำแหน่งยิงทำประตู และการวางเท้ายิงก็ถือว่าเป็นจุดเด่น กับสถิติทำประตูถึง 10 ลูกในลีกปีก่อน 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/6u5bYoUMbzwwVg8Dp2cHra/6ac469b88ac23863e01910689d91c6b6/Heavy-Metal-Version-Two-SPACEBAR-Photo03__1_
Photo: AFP
ส่วนอีกรายคือ โดมินิค โซบอสซ์ไล มิดฟิลด์รูปงามชาวฮังการี ที่ค่าตัวแพงไม่น้อยกว่า 70 ล้านยูโร จาก แอร์เบ ไลป์ซิก ที่สถิติในเชิงรุกเมื่อฤดูกาลที่แล้วดีกว่า แมคอัลลิสเตอร์ ไปอีกขั้น ด้วยความเล่นคนละลีกเลยอาจจะยังเทียบกันไม่ได้ แต่เมื่อมาเทียบกับมิดฟิลด์ของลิเวอร์พูลชุดฤดูกาลที่แล้วก็แน่นอนว่าชนะขาดลอย โดดเด่นกับการวางบอลแทบทุกรูปแบบและทุกระยะ หาตำแหน่งทำประตูได้ดี จ่ายให้เพื่อนทำประตูไปถึง 8 ลูกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว พลังงานล้นเหลือ และมีส่วนร่วมกับเกมรับบ่อยๆ แถมด้วยทีเด็ดลูกนิ่งที่ไม่แพ้ใคร 

เกมรุก ‘จัดจ้าน’ เกมรับ ‘แจกโชค’  

การเซ็นมิดฟิลด์รวดเดียว 2 คน ดูจะเป็นสัญญาณเชิงบวกที่ แฟนหงส์ใจชื้นขึ้นมาไม่น้อย แถมทั้งสองคนที่เข้ามายังเป็นสเปคที่โดดเด่นในเกมรุก คล้ายกับว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนแนวทางการเล่นที่ยกระดับไปอีกขั้น เหลือก็เพียงแต่หากองกลางเชิงรับดีๆ สักคนเข้ามาเสริมที่มีอยู่ แต่ระหว่างที่ความหวังกำลังก่อตัวก็เหมือนฟ้าผ่ากลางแอนฟิลด์อย่างจัง เมื่อ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ ฟาบินโญ่ สองกองกลางเชิงรับของทีม ตกลงปลงใจย้ายไปซาอุดิอาระเบียอย่างกระทันหัน
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/2IccU2WB65HH2wqIrq1ubW/e58f407e67e0fd0703ed88b6b9508fe3/Heavy-Metal-Version-Two-SPACEBAR-Photo04__1_
Photo: AFP
ภาพรวมของเกมช่วงพรีซีซันที่ผ่านมา สิ่งที่ชื่นใจแฟนหงส์ไม่น้อย คือเราได้เห็นภาพการกระหน่ำบุกแบบเฮฟวี่เมทัลที่คุ้นเคย ด้วยความสดของบรรดาตัวรุกได้เรียนรู้ภาษา เริ่มปรับตัว และสลัดอาการบาดเจ็บ จนโชว์ฟอร์มได้ไม่เลว หมุนเวียนสับเปลี่ยนกันแอสซิสต์ และทำประตู กันกระหน่ำ โดย 4 นัดที่ผ่านมา ยิงรวมกันไปถึง 15 ประตู แต่ในขณะเดียวกันก็เสียไปถึง 9 ประตู และ 6 ประตูคือการเสียให้กับทีมลีกรองของเยอรมัน 

เพราะกับเกมรับ แม้เวอร์จิล ฟานไดจ์ กัปตันคนล่าสุดของทีมจะดูดีขึ้นพอสมควร จากฟอร์มที่รูดกราวในฤดูกาลที่แล้ว แต่กองหลังอย่าง โจ โกเมซ โจแอล มาติป หรือ กองหลังดาวรุ่งคนอื่นๆ ที่ได้โอกาสสลับสับเปลี่ยนลงสนามมาแทนตัวจริงอย่าง วานไดจ์ และ โคนาเต้ ในแต่ละเกม ภาพรวมของตัวสำรองที่ออกมาก็ต้องยอมรับว่า “น่าเป็นห่วง” การโดนบุกเข้ามายิงแต่ละชุดสะท้อนให้เห็นถึงระบบที่ยังต้องพึ่งนักเตะที่มีคุณภาพในขั้นท็อป นี่ยังไม่นับระบบการเล่น อินเวิร์ท ฟูลแบ็ค ที่คล็อปป์พึ่งจะติดตั้งมาแต่ท้ายฤดูกาลที่แล้ว ที่ยังดูไม่ใกล้เคียงกับคำว่าสมบูรณ์ซักเท่าไหร่ จินตนาการภาพไม่ออกว่าถ้าขาดสกิลการจ่ายบอลในระดับเหนือจริงของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาโนลด์ ที่ยินอินเวิร์ทฝั่งขวาไป ทีมจะเล่นในระบบนี้ได้อย่างไร แถมแพลนบี ที่คล็อปป์ และทีมงานพยายามทำอย่าง การเอา คอสตาส ซิมิกาส มาเล่นอินเวิร์ทอีกฝั่ง ก็ยังไม่ใกล้เคียงคำว่าลื่นไหลเช่นกัน 

เรียกได้ว่าถ้าหากหงส์แดงยังไม่ตามหามิดฟิลด์เชิงรับตัวหลักไห้ได้ในเร็ววัน และยังเฉยเมยกับการเสริมตำแหน่งกองหลังทั้ง 4 อยู่แบบนี้ แม้สัญญาณที่ส่งออกมาจากเกมรุกในตอนนี้จะดูดีเพียงใด แต่ปรัชญาที่ว่าโดนยิงเท่าไหร่ยิงคืนให้มากกว่า มันคงเป็นไปได้ยากที่จะประสบความสำเร็จในระดับสูงกับฟุตบอลในยุคนี้  

หากก่อนปิดตลาดซื้อขายรอบนี้ยังไม่มีอะไรคืบหน้า อาถรรพ์ของเยอร์เกน คล็อปป์ อาจจะต้องดำเนินต่อไปอีกอย่างน้อย 1 ปี!! 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์