ท่องกาต้าร์ 2022 อย่างไรไม่ให้ผิดกฎ

ฟุตบอลโลก 2022 นั้น นับว่าเป็นการจัดการแข่งขันทีเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในตะวันออกกลาง และเป็นครั้งแรกที่ผู้คนทั่วโลกจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมของประเทศมุสลิมอย่างแท้จริง ด้วยความที่เป็นศาสนาอิสลาม ทำให้กฎหมาย หรือข้อห้ามที่เกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในกาต้าร์ จึงเคร่งครัดมาก สำหรับการซื้อขาย หรือให้บริการ จึงต่างไปจากเจ้าภาพฟุตบอลโลกตลอดทั้ง 21 สมัยที่ผ่านมา และน่าจะเป็นครั้งแรกที่การแข่งขันฟุตบอล และแฟนบอลต้องอยู่ห่างจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ขณะเดียวกันการจัดการแข่งขันในทวีปเอเชียกลางซึ่งดินแดนส่วนใหญ่เป็นทะเลทราย ทำให้กิจกรรมกลางแจ้งนั้นต้องเริ่มตั้งแต่เวลา 17.00 น. ช่วงเวลากลางวันอาจเป็นช่วงเวลาที่แฟนบอล และนักท่องเที่ยวต้องจัดตารางให้กับตนเองให้คุ้มค่าที่สุด
 
บทความเรื่องนี้จะพาไปดูกันว่า วิธีการ กิน ดื่ม เที่ยวในฟุตบอลโลก 2022 นั้นต้องทำอย่างไรให้ไม่ผิดกฎหมายเจ้าภาพ ขณะเดียวกันก็ไม่พลาดการดื่มด่ำกับบรรยากาศฟุตบอลโลก
 

ข้อห้ามและข้อกำหนดที่ไม่ควรทำสำหรับแฟนบอลต่างถิ่นในกาต้าร์  

เริ่มต้นกันที่กฎหมายเกี่ยวกับเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ซึ่งระบุเอาไว้ว่า “หากมีการดื่มของมึนเมา หรือแสดงอาการจากการดื่มในที่สาธารณะ” มีโทษจำคุก 6 เดือนปรับเป็นเงิน 825 ดอลลาร์สหรัฐ

“หากนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เข้าประเทศมีความผิดทางกฎหมาย” ทั้งนี้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นั้นแฟนบอลสามารถหาซื้อได้จากโรงแรม ร้านอาหาร หรือ บาร์ ที่มีใบอนุญาตให้จำหน่าย แต่นั่นหมายความว่าคุณต้องมีอายุมากกว่า 21 ปี ในบริเวณ แฟนเฟส ที่ใกล้โดฮา มากที่สุดคือ Arcadia Festival

นอกจานี้สถานที่เฉพาะกิจที่สามารถจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ อยู่ห่างจากเขตเมืองโดฮา ประมาณ 3.2 กิโลเมตร โดยจะเริ่มจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลา 19 ชั่วโมงเริ่มจาก 10.00 น.ไปจนถึง 05.00 น.(ตีห้า) กันเลยทีเดียว
 
โดยในระหว่างการแข่งขันฟุตบอลโลกนั้น แฟนบอลที่ไปชมการแข่งขันในสนาม ส่วนใหญ่แล้วจะต้องซื้อเครื่องดื่มจากร้านในสนาม ทั้งก่อนการแข่งขัน ระหว่างพักครึ่ง และหลังการแข่งขัน แต่สำหรับฟุตบอลโลกครั้งนี้จะไม่มีการจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในสนามการแข่งขันเด็ดขาด (ยกเว้นในบ็อกซ์สำหรับรับรองแขกวีไอพีเท่านั้น)
 
แต่ถึงอย่างไรก็ตามยังคงมีเบียร์ให้บริการภายในสนามการแข่งขันแต่จะเป็น เบียร์แอลกอฮอล์ศูนย์เปอร์เซ็นต์ของ บัดไวเซอร์ ให้บริการ ภายใต้ชื่อ ‘บัด ซีโร่’ ส่วนแฟนบอลที่ไม่ได้ชมการแข่งขันในสนาม และอยู่ในแฟนเฟส สามารถดื่มได้แต่ห้ามเดินถือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และดื่มอย่างเปิดเผยบนท้องถนน
 
นอกเหนือจากเรื่องของการดื่ม ที่ทำให้ฟุตบอลโลกครั้งนี้แตกต่างจากฟุตบอลโลกในทุกครั้งที่ผ่านมาแล้ว พฤติกรรมของแฟนบอลก็จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายของกาต้าร์ ผู้ชายและผู้หญิงควรแต่งตัวให้สุภาพเรียบร้อยเมื่อต้องอยู่ในที่สาธารณะ ผู้หญิงควรจะใส่เสื้อที่ปิดหัวไหล่ หลีกเลี่ยงการใส่กางเกงหรือกระโปรงสั้น เช่นเดียวกันผู้ชายไม่ควรใส่กางเกงขาสั้น หรือเสื้อที่เปิดท่อนบนของร่างกาย  
นอกจากนี้การแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ในที่สาธารณะเป็นความผิดทางกฎหมายและจะถูกส่งกลับประเทศทันที
 
ขณะเดียวกันการแสดงความรักทางกายภาพในที่สาธารณะ ระหว่างหญิงชาย ผิดต่อกฎหมายของกาต้าร์ อาจถูกจับได้หรือ การแสดงตัวเป็นพวกรักร่วมเพศ ถือเป็นความผิดทางกฎหมาย เจ้าหน้าที่จะเข้าจับกุมและมีโทษถึงประหาร หากแต่ในแถลงของฝ่ายจัดการแข่งขันนั้นได้ระบุเอาไว้ว่า ไม่ได้มีข้อจำกัดต่อกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศ ที่จะอยู่ในห้องเดียวกันในโรงแรม และ คู่ชายรักชายสามารถเดินจูงมือกันได้ ในช่วงระหว่างฟุตบอลโลกโดยไม่ถูกลงโทษ 
  

สถานที่หลักในการรวมตัวของแฟนบอลในโดฮา  

ทั้งนี้การแข่งขันฟุตบอลโลกที่มีตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน - 18  ธันวาคม นั้น นอกเหนือจากฟุตบอลแล้ว ในช่วงกลางวันที่อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ  30 องศาเซลเซียส ทำให้ในระหว่างวันยังพอให้แฟนบอลเข้าร่วมกิจกรรมได้บ้าง ซึ่งฝ่ายจัดการแข่งขันนั้นระบุว่า จะมีงานและความบันเทิงให้แฟนบอลได้เข้าร่วมทุกวัน และ มีมากกว่า 90 รายการเพื่อสร้างสีสันให้กับฟุตบอลโลก 2022
  
อย่างงานที่แฟนบอลเข้าได้ฟรี จะมีที่สนามสวนสาธารณะ Al Bidda Park นอกจากจะมีจอยักษ์สำหรับชมการแข่งขันทั้ง 64 แมทช์แล้ว ยังมีดนตรีสดที่แสดงให้ชมทุกวัน รวมไปถึงร้านอาหารที่มาเปิดร้านภายในบริเวณ แฟนเฟสที่ Al Bidda Park ซึ่งเป็นส่วนของแฟนเฟส ที่อยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าสายหลักของโดฮา โดยพื้นที่ของ Al Bidda Park นั้นจะเปิดให้เข้าร่วมความสนุกตั้งแต่สิบโมงเช้าถึงตีสองกันเลยทีเดียว 
   

กิจกรรมในช่วงกลางวัน สำหรับนักท่องเที่ยวและแฟนบอล 

ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 กลางวันอาจเป็นช่วงเวลาที่หลายคนใช้เป็นเวลาพักผ่อน เพื่อรอชมการแข่งขันในช่วงเย็น แต่ทางเจ้าภาพยังมีสถานที่และกิจกรรมที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวและแฟนบอลให้ได้สัมผัสความเป็นชาวกาต้าร์ ตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆเหล่านี้ 
 

ศูนย์รวมร้านขายของฝาก Souq Waqif (ซูค์ วาคีฟ)

ซูค์ วาคีฟ นับเป็นศูนย์รวมร้านขายของฝาก ของที่ระลึกที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในกาต้าร์ โดยตลาด ซูค์ วาคีฟ นี้อยู่ในกรุงโดฮา ซึ่งสินค้าที่มีจำหน่ายในตลาดแห่งนี้นั้นไม่ได้มีแค่ของฝากหรือของที่ระลึก แต่ยังมีงานแฮนด์คราฟท์ส, เครื่องเทศ และ ผ้าพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงของ กาต้าร์ นอกจากนี้ แฟนบอลยังสามารถหาของกินที่เป็นอาหารพื้นเมืองแท้ๆของชาวกาต้าร์ ได้ในตลาดแห่งนี้ด้วยเช่นกัน 
   

เรียนรู้เรื่องเหยี่ยวทะเลทรายที่ ฟัลคอน ซูค์  

ประวัติศาสตร์ของชาวตะวันออกกลางนั้นจะเลี้ยงเหยี่ยวไว้เพื่อใช้งานและล่าสัตว์ ทั้งนี้ ศูนย์การเรียนรู้เกี่ยวกับเหยี่ยวทะเลทราย ที่ฟัลคอน ซูค์ ซึ่งเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของประเทศกาต้าร์ โดยเหยี่ยวทะเลทรายที่ได้รับการฝึกเพื่อล่าสัตว์นั้น จะมีราคาสูงถึง 11,738 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 423,976 บาท) ภายในศูนย์ฝึกเหยี่ยว ฟัลคอน ซูค์ นั้น นักท่องเที่ยวจะได้เห็นการสาธิตการให้อาหารเหยี่ยว ขณะเดียวกันมีการจำหน่ายอุปกรณ์พื้นเมืองในการเลี้ยงเหยี่ยวด้วยเช่นกัน
 

พักผ่อนยามบ่ายริมอ่าวโดฮา ที่ Doha Corniche  

แม้ว่าการแข่งขันฟุตบอลโลกที่โดฮา จะมีขึ้นในช่วงฤดูหนาวแต่อุณหภูมิในช่วงกลางวันจะอยู่ในระดับ 30 องศาเซลเซียส ดังนั้นการพักผ่อนของเหล่าแฟนบอลและนักท่องเที่ยวคือควรอยู่ใกล้พื้นที่สีเขียว หรือใกล้น้ำให้มากที่สุด ทั้งนี้การพักผ่อนริมอ่าวโดฮา ที่ Doha Corniche นั้นน่าจะเป็นทางเลือกของนักท่องเที่ยวหลายคน เพราะนอกจากจะได้วิวริมอ่าวโดฮาแล้ว วิวแบบพานอราม่า ยังได้เห็นตึกระฟ้าที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโดฮา ได้เป็นอย่างดี  และในบริเวณดังกล่าวยังมีร้านกาแฟอารเบียน ที่ช่วยให้การชมวิว เป็นการพักผ่อนก่อนจะได้ชมเกมการแข่งขันในยามค่ำคืน 
  

เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ Islamic Art  

พื้นที่ติดกับ Doha Corniche นั้นคือที่ตั้งของ พิพิธภัณฑ์ Islamic Art ซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเยี่ยมชมประวัติศาสตร์ของชาวกาต้าร์ ก่อนที่คนทั่วโลกจะได้รู้จักประเทศนี้ในฐานะเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งการจัดแสดงผลงานทางศิลปะภายในพิพิธภัณฑ์นั้นได้รวบรวม ศิลปะในหลายแขนง ทั้งในรูปแบบเครื่องปั้นเซรามิก หนังสือโบราณเกี่ยวกับศาสนาอิสลาม รวมไปถึงความเป็นมาในการประดิษฐ์ตัวอักษรอารบิก  
  

เช่าจักรยานขี่ชมสวน Museum of Islamic Art  

บริเวณอ่าวโดฮา น่าจะเป็นที่รวมตัวของนักท่องเที่ยวและแฟนบอลในช่วงฟุตบอลโลก เพราะนอกจากจะมีสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว ยังมีพื้นที่ให้ได้ทำกิจกรรมที่ถือเป็นการพักผ่อน ภายในพิพิธภัณฑ์ Islamic Art (Museum of Islamic Art) นั้นยังมีส่วนของเส้นทางจักรยาน ให้นักท่องเที่ยวได้ขี่ชมบรรยากาศริมอ่าวโดฮา ขณะเดียวกันมีสนามเด็กเล่น ที่มีเครื่องเล่นแบ่งตามอายุของเด็ก ถึงสามสนามด้วยเช่นกัน 
  

รู้จักกาต้าร์ ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติกาต้าร์  

วิธีหนึ่งที่จะทำให้คุณได้รู้จักและตกหลุมรักเมืองที่คุณไปท่องเที่ยวคือการเข้าชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ของประเทศนั้นๆ เช่นกันกับ กาต้าร์ นอกเหนือจากความเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกแล้ว ประวัติศาสตร์ของประเทศเล็กๆ ในตะวันออกกลางที่มีอาณาเขตติดทะเลประเทศนี้นับว่าน่าสนใจไม่น้อย ขณะเดียวกันภายในพิพิธภัณฑ์ยังจัดการแสดงแบบเสมือนจริง (Immersive Technology)
 

ท่องซาฟารี ทะเลทราย  

ฟุตบอลโลกในครั้งนี้ แฟนบอล และ นักท่องเที่ยว จะได้สัมผัสกับบรรยายกาศของฟุตบอลกันในช่วงเย็น ส่วนในช่วงเวลาเช้าและกลางวันนั้นเรียกว่าเป็นช่วงเวลาของการท่องเที่ยว หรือ วันไหนที่ไม่มีฟุตบอลก็สามารถจัดทริปเพื่อท่องเที่ยวในโดฮา หรือ เมืองใกล้เคียงได้ และอีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดคือการ ไปซาฟารี ทะเลทราย  
ซาฟารี ทะเลทรายคือหนึ่งในกิจกรรมท่องเที่ยวที่พลาดไม่ได้เมื่อคุณมาถึงกาต้าร์ นอกเหนือจากการขับรถท่ามกลางทะเลทรายสุดลูกหูลูกตาแล้ว ทริปซาฟารี ทะเลทรายอาจหมายรวมถึงการ ขี่อูฐ หรือนั่งรถโฟร์วีล เพื่อตะลุยเนินทราย แล้วตั้งแคมป์เพื่อชมพระอาทิตย์ตกยามเย็น นับว่าเป็นประสบการณ์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมีโอกาสมาเยือนกาต้าร์  
  

เล่นกีฬาทางน้ำที่ชายหาด Katara  

ชายหาด Katara เป็นชายหาดส่วนตัวและเป็นส่วนหนึ่งของ Katara Cultural Village นักท่องเที่ยวเดินทางมาที่ชายหาดแห่งนี้เพื่อพักผ่อน และชมทัศนียภาพอันงดงามของชายหาด Katara ขณะเดียวกันกีฬาทางน้ำ บริเวณชายหาด Katara นั้นมีให้เลือกเล่นหลากหลาย ทั้ง คายัค, สกีน้ำ, เวคบอร์ด หรือแม้แต่การล่องเรือใบ ซึ่งมีให้บริการบริเวณชายหาด Katara  
  

ช้อปให้กระจายในห้างใหญ่ที่สุดในกาต้าร์  

ห้างใหญ่ที่สุดในกาต้าร์อย่าง Doha Festival City มีร้านค้าแบรนด์เนมให้เลือกซื้อสินค้า กว่า 400 ร้าน มีโรงภาพยนตร์ภายในห้างฯอยู่ถึง 18 โรง นอกเหนือจากนั้นแล้วยังมีร้านอาหารให้เลือกมากมาย ถ้ายังไม่พอ ยังมีสวนสนุกหิมะ หรือ Snow Dunes Theme Park ซึ่งเป็นสวนสนุกฤดูหนาวที่ดีที่สุดในดินแดนเอเชียกลางเลยก็ว่าได้