สนทนาดราม่าบอลโลกกับ ‘เดื่อ-ธีรพัฒน์’ อะไรก็เกิดขึ้นได้บนสนามหญ้าสีเขียว

27 พ.ย. 2565 - 03:02

  • พูดคุยกับพี่ใหญ่ของวงการพิธีกรและผู้บรรยายฟุตบอลในเมืองไทยทีเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทั้งในระดับพรีเมียร์ลีก ไปจนถึงรายการพรีวิวฟุตบอลโลก

  • อย่าง ‘เดื่อ ธีรพัฒน์ อัครเศรณี’ ผู้ที่บอกว่า “ในฟุตบอลโลก อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นบนสนามขนาด 68x105 เมตรแม้ว่าบางเรื่องจะ ถึงจะเหลือเชื่อก็ตาม”

INTERVIEW-WORLD-CUP-2022-DUER-SPACEBAR-Thumbnail
เทศกาลฟุตบอลโลก ได้เริ่มเปิดฉากอย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หลายคนกำลังเชียร์ให้ทีมโปรดเข้าไปสู่รอบลึก แต่อีกหลายคนกำลังสนใจดราม่าในการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกครั้งนี้ของกาต้าร์
  
บรรทัดต่อจากนี้ ทีมงานได้นั่งพูดคุยกับพี่ใหญ่ของวงการพิธีกรและผู้บรรยายฟุตบอลในเมืองไทยทีเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทั้งในระดับพรีเมียร์ลีก ไปจนถึงรายการพรีวิวฟุตบอลโลก อย่าง ‘เดื่อ ธีรพัฒน์ อัครเศรณี’ ผู้ที่บอกว่า “ในฟุตบอลโลก อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นบนสนามขนาด 68x105 เมตรแม้ว่าบางเรื่องจะ ถึงจะเหลือเชื่อก็ตาม”
 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/7w5qU9YrxWbjEiV7X5pKLS/8a40b78fbf4b31b22762bf0ecf6e4d18/INTERVIEW-WORLD-CUP-2022-DUER-SPACEBAR-Photo01

จุดเริ่มต้นของการเข้าสู่วงการฟุตบอลโลก 

เริ่มชมมาตั้งแต่ปี 1978 ที่อาร์เจนตินาเป็นเจ้าภาพครับ แล้วอาร์เจนตินาก็เป็นแชมป์โลกด้วย ตอนนั้นอายุยังไม่ถึง 10 ขวบเลยครับ อายุน่าจะประมาณ 9 ขวบ จำได้ว่าถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกตอนนั้นดึกมาก ต้องหลบต้องแอบคุณพ่อคุณแม่มาดู ก็ตื่นมากลางดึกแล้วก็ไปลุ้นดูนัดชิงชนะเลิศอาร์เจนตินาพบกับฮอลแลนด์ ซึ่งสนุกมากครับเพราะเกมมันพลิกไปพลิกมา แล้วก็เล่นกันดุเดือด ตื่นเต้นเร้าใจมาก สุดท้ายอาร์เจนตินาไปชนะในช่วงต่อเวลา เป็นความประทับใจในวัยเด็กที่ยากที่จะลืม แล้วก็มีโอกาสทุก 4 ปีก็ต้องกลับมาดูฟุตบอลโลกอีกครั้งหนึ่ง เป็นแบบนี้ทุกครั้ง ๆ มาจนถึงปัจจุบัน
 
ส่วนช่วงที่เข้าสู่วงการจริงๆ ก็คือการเริ่มทำงานในสายผู้สื่อข่าวกีฬา ครั้งแรกในฟุตบอลโลกปี 2002 ครับ ปีนี้ 2022 นี่ก็ผ่านมา 20 ปีแล้วสิ ตอนนั้นเกาหลีใต้กับญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพ แล้วพี่ก็ได้ไปเป็นผู้จัดรายการที่สถานีไทยทีวี ทำเกี่ยวกับรายการฟุตบอลโลก ไปวิเคราะห์ วิเคราะห์กับคุณบี แหลมสิงห์นี่แหละ ไม่น่าเชื่อเลยว่าอีก 20 ปีก็ยังต้องกลับมาจัดกับคุณบี แหลมสิงห์เหมือนเดิมในเดื่อ-บีขยี้บอล (หัวเราะ) นั่นก็คือบันไดก้าวแรกที่เริ่มเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับฟุตบอลโลกในฐานะคนทำงานไม่ใช่ในฐานะผู้ชมครับ
 
หลังจากนั้นก็เกี่ยวพันกับฟุตบอลโลกมาตลอดไม่มากก็น้อย มีทำพ็อกเก็ตบุ๊กรวมเล่มเกี่ยวกับฟุตบอลโลกให้กับสำนักพิมพ์บ้านพระอาทิตย์ครับ หลายสมัยทีเดียว แล้วก็ล่าสุดก็คือปีที่แล้วก็เป็นผู้จัด เป็นพิธีกรวิเคราะห์รายการที่ทรูวิชั่น พิธีเปิด และก็นัดชิงชนะเลิศของฟุตบอลโลกเมื่อ 4 ปีที่แล้วที่รัสเซียครับ
 

อะไรก็เป็นไปได้ คือจุดขายที่ทำให้ฟุตบอลโลกน่าสนใจ

ฟุตบอลโลกมันก็คือเป็นดราม่านะ ดราม่ามาก ในฟุตบอลโลกอะไรก็เกิดขึ้นได้ ทุกอย่างเป็นไปได้ในฟุตบอลโลก มันมีทั้งความผสมผสานของคนหลายเชื้อชาติมาอยู่รวมกัน มีทั้งอารมณ์ที่น่าตื่นเต้น มีอารมณ์เรียกว่าพลิกล็อก มีอารมณ์ที่เรียกว่าไม่คาดคิดไม่คาดฝันเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ชาติเล็ก ๆ ก็เอาชนะชาติใหญ่ได้ ใครจะไปคิดว่าเกาหลีใต้จะได้เข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ใครจะไปคิดว่าแคเมอรูนยังเคยผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ใครจะไปเชื่อว่าครั้งหนึ่งญี่ปุ่นเกาหลีก็เป็นเจ้าภาพมาแล้ว
 
ณ วันนี้ กาตาร์ประเทศเล็กๆ ในตะวันออกกลางก็จัดมาแล้ว คือทุกอย่างมันเป็นไปได้ทั้งนั้นในฟุตบอลโลก มันเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อ แต่ที่ประทับใจที่สุด จริงๆ ก็มีหลายเหตุการณ์ ทว่าที่สะเทือนใจก็คือตอนที่พอล แกสคอยน์ (Paul Gascoigne) ร้องไห้ในฟุตบอลโลกปี 1990 เขาโดนใบเหลืองที่ 2 ในทัวร์นาเมนต์ แล้วก็จะไม่มีโอกาสได้เล่นในนัดชิงชนะเลิศถ้าอังกฤษผ่านเข้าสู่รอบชิง แต่ว่าสุดท้ายแล้วอังกฤษก็ไม่ได้ผ่านเข้าสู่รอบชิง เพราะแพ้เยอรมนี โดนจุดโทษ ตอนนั้นคนไทยเชียร์อังกฤษกันเยอะ แล้วพี่เองก็ชอบ ส่วนหนึ่งก็ชอบแกสคอยน์ค่อนข้างจะมากอยู่ แล้วในปีนั้นแกสคอยน์เล่นได้ดีมาก แบบเหลือเชื่อจริง ๆ เสียใจแทนที่จะไม่ได้เข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศ
 

ฟุตบอลโลกเหรอ ทีมที่เชียร์ก็คือ? 

(หัวเราะ) ปกติแล้วพี่ก็จะเชียร์แล้วแต่ครั้ง ไม่แน่นอน จะเชียร์ประมาณอิตาลีหรือไม่ก็เยอรมนี เพราะชอบทีมที่มีความแน่นอน มีทีมเวิร์กดี ใจสู้น่ะครับ เที่ยวนี้อิตาลีไม่ได้ไปก็เลยเชียร์เยอรมนีครับ
 
เที่ยวนี้เชียร์เยอรมนีเพราะว่าเยอรมนีเที่ยวที่แล้วผิดหวังตกรอบแรก ผลงานงานแย่ ฉะนั้น เที่ยวนี้พวกเขาต้องมุ่งมั่นในการที่จะกลับมาให้ได้ แล้วเยอรมนีเนี่ยทีมเวิร์กดีอยู่แล้ว มีนักฟุตบอลที่เล่นร่วมกันมานานทั้งทีม ส่วนใหญ่ได้มาจากทีมบาเยิร์น มิวนิกและโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทำให้ความเข้าขารู้ใจกันมันมีมากกว่าทีมอื่น ทีมชาติอื่น ๆ จะมีนักเตะจากหลาย ๆ สโมสร และโค้ชก็น่าสนใจด้วย โค้ชมีประสบการณ์คือ ฮันซี ฟลิก (Hansi Flick) เคยพาบาเยิร์นมิวนิกได้ 3 แชมป์มาแล้ว เยอรมนีเที่ยวนี้ถ้าดูรายละเอียดลงไปลึก ๆ ก็เป็นหนึ่งในทีมที่น่ากลัว ที่น่าจะมีลุ้นเหมือนกัน ก็เลยเชียร์เยอรมนีครับ
 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/rn3Q9PZdN0x6hHhdggbgw/76033250186d54028c61a1b3ec63562f/INTERVIEW-WORLD-CUP-2022-DUER-SPACEBAR-Photo02

ความผูกพันกับฟุตบอลโลกของคนที่รักฟุตบอล 

พูดถึงฟุตบอลโลกนี่น่าเสียดาย (หัวเราะ) แบบว่าไม่อยากจะเชื่อและไม่อยากจะเล่าให้ฟังว่าตัวเองยังไม่เคยไปดูบอลโลกสดๆ ที่สนามที่ประเทศเจ้าภาพเลย ทั้งที่บอลทัวร์นาเมนต์อื่นๆ ไปมาหมดแล้ว ที่จริงก็ยังคาใจอยู่อีกหนึ่งทัวร์นาเมนต์นี่แหละ อย่างบอลสโมสรต่างๆ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก พรีเมียร์ลีก บอลยูโร อะไรต่างๆ นี่ก็ไปมาหมดแล้ว เหลือฟุตบอลโลกที่ยังรอคอยอยู่ เที่ยวนี้ก็เตรียมไม่ทันแล้ว มันติดเรื่องโควิดด้วย อะไรต่างๆ แล้วก็เพิ่งจะกลับมาแข่ง ก็ไม่น่าจะมีความพร้อมเท่าไร แต่ตอนนี้นัดกับคุณบี แหลมสิงห์ไว้แล้ว อีก 4 ปีข้างหน้าจะไปดูด้วยกันที่เม็กซิโก ไม่รู้จะเป็นจริงได้หรือเปล่า (หัวเราะ)
 
ในฐานะแฟนบอลกับฐานะคนทำงาน ก็คือพูดถึงในฐานะคนทำงานก็แน่นอน มันไม่ได้สนุกเหมือนการเป็นคนดู เพราะว่าคนทำงานก็ต้องทำงาน หาข้อมูลก็ต้องทำงานไปด้วย รับผิดชอบไปด้วย แล้วก็มีความเป็นกลาง ในการวิเคราะห์อะไรต่างๆ ในการพูดจาก็ต้องเตรียมตัว ซึ่งมันก็ทำให้กินเวลาในการที่เราจะชมจะเชียร์ในฐานะแฟนบอลคนหนึ่ง แต่จริงๆ แล้วเราก็มีความสุขทั้งสองสถานะแหละ ไม่ว่าจะได้อยู่ในสถานะไหนในการชมในการเชียร์ฟุตบอลโลกก็มีความสุขทั้งสองสถานะ
 

เต็งแชมป์ในสายตาพี่เดื่อ ทีมเวิร์กสำคัญที่สุด! 

เที่ยวนี้มันเป็นฟุตบอลโลกที่หลาย ทีมมีเวลาเตรียมตัวน้อยที่สุด มันมาแข่งกันกลางฤดูกาลของฟุตบอลลีก ก็เลยมองว่าทีมที่มีโอกาสน่าจะเป็นทีมที่มีทีมเวิร์กดีอยู่แล้ว แล้วก็มีนักเตะที่ไม่ได้กระจัดกระจายมากนัก มันมีเวลาเตรียมตัวแค่ประมาณอาทิตย์เดียวเท่านั้นเอง ซึ่งไม่เคยมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในบอลโลก ปกติบอลโลกจะแข่งกลางปีแล้วก็เก็บตัวเป็นเดือน แต่นี่คือแค่ 7 วันเท่านั้นเอง ต่างคนต่างมาก็คือต้องมาเล่นกันเลย ก็ค่อนข้างจะวัดดวงพอสมควร เพราะฉะนั้น ปัจจัยที่สำคัญก็คืออย่างที่บอก “ทีมเวิร์ก” ข้อสองคือผู้จัดการ หัวหน้าโค้ชนี่แหละ ว่าจะเป็นคนควบคุมทุกอย่างได้ดีขนาดไหน ถ้าเขาเป็นคนที่มีความสามารถในการเปลี่ยนเกมแก้เกมหน้างานได้ดี ทีมนั้นก็จะมีโอกาสค่อนข้างสูง พี่ก็ดูสองประเด็นนี้เป็นหลัก
 
ฉะนั้น ก็จะตัดทีมที่เป็นพวกดาราหรือลีลาเยอะแต่ทีมเวิร์กไม่ดีออกไป เลยมองว่าทีมที่น่าจะมีลุ้นเที่ยวนี้ก็คือ ‘เยอรมนี’ ‘อาร์เจนตินา’ แล้วก็ม้ามืดนี่ให้ ‘ฮอลแลนด์’ ละกัน ฮอลแลนด์มีหลุยส์ ฟาน กัล (Louis van Gaal) เป็นผู้จัดการทีม คุมทีมสมัยที่ 3 แล้ว และมีประสบการณ์มาก ก็น่าจะเป็นทีมที่แอบ ๆ เป็นม้ามืดทีมหนึ่งเหมือนกัน ขอให้จับตาดูแล้วกัน แต่ก็นะไม่มีใครเขาคิดว่าเยอรมนีเป็นตัวเต็งหรอก (หัวเราะ)
 

ทำไมถึงคิดว่ามงไม่ลง บราซิล

ข้อหนึ่ง คือบราซิลเป็นทีมที่เล่นด้วยทีมเวิร์กค่อนข้างน้อย นักเตะก็เป็นพวกแบบเล่นด้วยความสามารถเฉพาะตัว เป็นซูเปอร์สตาร์เยอะ คำนึงถึงลีลา ความตื่นเต้นเยอะ ข้อสอง คือนักฟุตบอลบราซิลกระจายอยู่ทั่วโลกเลย กระจายเล่นกับทีมต่างๆ เพราะฉะนั้น ความพร้อมในการดึงกลับมารวมตัวกันก็อาจจะลำบากกว่าทีมอื่น แล้วก็ข้อสุดท้าย คือบราซิลยังไงก็แบกความหวัง ใครๆ ก็อยากจะเอาชนะบราซิล คือมาในฐานะตัวเต็ง เพราะฉะนั้นเขาจะต้องกดดันที่สุดอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่มองดูแล้วบราซิลจะเป็นแชมป์อีกครั้งหนึ่ง ก็เลยไม่คิดว่าจะเป็นบราซิล ส่วนทีมที่มีทีมเวิร์กดีอยู่แล้ว อาร์เจนตินาก็ทีมเวิร์กก็ค่อนข้างจะดีอยู่ จากแชมป์ฟุตบอลโคปาอเมริกาเมื่อปีที่แล้ว แล้วก็อีกทีมที่บอกก็คือเยอรมนี
 
ก็เข้าใจนะบราซิลเป็นเต็งแชมป์มาทุกสมัย แต่ออกมาก็เรียบร้อยทุกที คือดูแล้วก็เห็นว่าทีมยังไม่ค่อยสมดุลเท่าไร ไม่นักเตะแก่ไปเลยก็นักเตะหนุ่มไปเลย แล้วก็มีเนย์มาร์ (Neymar) ซึ่งก็ไม่ได้เป็นผู้เล่นที่เล่นเพื่อทีมเท่าไร ก็เลยยังไม่เชื่อว่าบราซิลจะเป็นแชมป์ แล้วอีกอย่างโค้ชก็ประกาศว่าจะเลิกด้วย จะอำลาทีมหลังทัวร์นาเมนต์ ทีมที่พวกโค้ชประกาศว่าจะเลิกหลังทัวร์นาเมนต์เนี่ย ส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จ เพราะนักบอลก็จะไม่ค่อยมีสภาพจิตใจที่ดี ต้องขอโทษแฟนบราซิลด้วยนะเนี่ยที่มองว่าไม่ได้เป็นตัวเต็ง
 

ถ้าตอนนี้พี่เดื่ออยู่นอกวงจรกีฬา กับบอลโลกจะเป็นอย่างไร? 

ก็อาจจะเชียร์ด้วยความเอามันมากกว่านี้ก็ได้มั้ง (หัวเราะ) อาจจะเชียร์ทีมใดทีมหนึ่งโดยไม่ต้องคำนึงถึงเหตุผลมากเหมือนเป็นคนทำงานด้านนี้ อาจจะไม่ต้องมีการวิเคราะห์อะไรต่างๆ มากมายนัก คืออาจจะแบบว่าฉันชอบอังกฤษฉันก็เชียร์อังกฤษไปเลย ไม่ต้องคิดว่าอังกฤษจะมีโอกาสได้แชมป์มากขนาดไหน ฉันก็เอามันแบบสมัยก่อนเด็ก ๆ ก็เชียร์ทีมง่าย ๆ แล้วแต่ว่าช่วงนั้นใครเล่นดี ใครเล่นน่าตื่นเต้น มีดาราเยอะเราก็เชียร์ไป แต่ทุกวันนี้มันต่างกัน ต้องวิเคราะห์ให้คนอื่นฟังด้วยว่าทำไม เพราะเหตุใดทีมนี้ถึงมีโอกาสหรือไม่ค่อยมีโอกาส นักเตะคนไหนที่จะน่าจับตา ทีมไหนที่จะเป็นม้ามืด มันกลายเป็นธรรมชาติที่จะต้องวิเคราะห์ตลอดเวลา
 
ถามว่าความสนุกลดทอนลงไหม มันก็คงไม่ได้ลดทอน แต่เป็นอีกอารมณ์มากกว่า ดูแล้วมันลึกๆ ด้วยความที่ต้องเข้าใจว่าที่มาที่ไปเป็นยังไง ทำไมมันถึงจะชนะ ทำไมมันถึงแพ้ ทำไมมันถึงบุกได้ ทำไมมันถึงยิงไม่ได้ อะไรต่างๆ แต่ว่าก็คนชอบฟุตบอลน่ะดูบอลยังไงก็มันก็สนุก ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหน อาจจะแตกต่างกันบ้างเป็นบางมุมเท่านั้นเอง ทำงานด้านนี้มันอาจจะอดคิดไม่ได้ถึงเรื่องสถิติ ถึงเรื่องข้อมูล เรื่องแนวโน้ม สถิติในอดีตที่ผ่านมาแล้วมาเจอกันอีก คราวสมัยนู้นมันเคยเจอกันแล้วนี่ เหตุการณ์มันจะเป็นแบบนั้นอีกหรือเปล่า ภาพมันก็ขึ้นมา หลอนไปหมด (หัวเราะ) 
 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/2cmfOegwP5xAJlkn2pG2ZZ/3c29f0b2ef47db43c4d051ab2937e31b/INTERVIEW-WORLD-CUP-2022-DUER-SPACEBAR-Photo03

ประสบการณ์ด่างพร้อยของบอลโลกในความทรงจำ 

น่าจะเป็นตอนที่ Hand of God มาราโดนา (Maradona) ชกบอลบอลเข้าประตู ซึ่งมีส่วนทำให้อังกฤษตกรอบ ตอนนั้นอังกฤษเล่นดีแล้วก็น่าจะเข้ารอบ แต่ว่าโดนโกงเลยตกรอบไป มันเป็นอารมณ์ที่แบบหดหู่ คือยอมรับไม่ได้เหมือนกันว่าต้องตกรอบเพราะเหตุนี้ น่าจะเป็นอารมณ์ที่ด่างพร้อยที่สุดในบอลโลก เหตุการณ์ปี 1986 มาราโดนาเขากระโดดแล้วเอามือชกบอลข้ามประตูเข้าไป มันคือแฮนด์บอล แต่ผู้ตัดสินไม่เห็นนึกว่ามาราโดนาโหม่ง แล้วมาราโดนาวันรุ่งขึ้นก็บอกว่าเป็น Hand of God หัตถ์ของพระเจ้าที่เจตนาให้อาร์เจนตินาได้เข้ารอบ แต่จริงๆ แล้วก็โกง
 
ตอนนั้นดราม่ามาก เพราะว่าแฟนอังกฤษก็เยอะทั่วโลก มีต่อว่าต่อขานมาราโดนา ต่อว่าต่อขานผู้ตัดสินที่ทำหน้าที่ว่ามองไม่เห็น หรือว่าทุจริตหรือเปล่า ในเมืองไทยข่าวขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์อย่างไทยรัฐ แล้วก็ยังจำได้ว่าเขียนว่าถึงว่าหัตถ์พระเจ้า ที่ถอดความออกมาจากภาษาอังกฤษ คือ Hand of God ก็คือใช้มือทำประตู ซึ่งมันเป็นลูกแฮนด์บอลอยู่แล้ว ก็เป็นอีกหนึ่งในเรื่องอื้อฉาวที่สุดของฟุตบอลโลก
 
พูดถึงมาราโดนา เกมนั้นเขาทำได้ 2 ลูก คือลูกหนึ่งโกง ที่ใช้มือ อีกลูกหนึ่งคือความมหัศจรรย์ เขาเลี้ยงเดี่ยวครึ่งสนามเข้าไปยิง เป็นทั้งเทวดาและซาตานในนัดเดียวกัน คนก็เลยให้ความยกย่องเขาด้วย แล้วก็เหมือนกับว่ามันเป็นความอื้อฉาวของเขาเช่นกัน Hand of God หัตถ์พระเจ้าคนก็เลยเรียกมาแบบนั้น แต่ก็คือก็ไม่ได้เรียกด้วยความยกย่องนะ อาจจะยกย่องเรื่องอื่นของเขามากกว่า เรื่องความสามารถเฉพาะตัว จริง ๆ อื้อฉาวมากนะ มาราโดนากับฟุตบอลโลก เคยไม่ผ่านตรวจโด๊ปยา ต้องส่งกลับปี 1994 ที่สหรัฐฯ
 

ถ้าตอนนี้พี่เดื่อเป็นแค่แฟนบอลธรรมดา ความอินในฟุตบอลโลกจะต่างออกไปอย่างไร 

พี่ว่ามันก็ไม่แตกต่างนะ ด้วยอาจจะอยู่ในวงการนี้มานาน ก็ยังอยากดูเหมือนเดิมไม่ว่าจะเป็นแฟนบอลหรือเป็นนักพากย์ จะได้ทำงานหรือไม่ได้ทำงาน ก็อยากดูแล้ว ลุ้นฟุตบอลมัน ๆ ดูว่าเกมในแต่ละครั้งมันมีพัฒนาการยังไง มันเปลี่ยนแปลงไปยังไงบ้างฟุตบอลแต่ละ 4 ปี บางทีมันก็มีแนวโน้มที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เหมือนกัน ใครจะตกลงไปใครจะขึ้นมา ระบบการเล่นมันจะเปลี่ยนแปลงไปยังไง มันก็มีเหตุการณ์ใหม่ ๆ เข้ามาอยู่เรื่อย รวมทั้งเรื่องของการจัดการแข่งขันที่เป็นสีสัน ก็อยากดูเหมือนกันว่าเจ้าภาพเขาจะทำได้ดีขนาดไหน ในการจัดครั้งแรกที่ตะวันออกกลาง ถือเป็นฟุตบอลโลกครั้งแรกที่ตะวันออกกลางด้วย ความรู้สึกก็แทบไม่แตกต่างกันในการเป็นคนดูกับเป็นคนทำงานด้านนี้
 

กาตาร์ กับดราม่า “ผมยอมรับว่ามันเป็นเรื่องผิดพลาด” 

มันย้อนเวลากลับไปไม่ได้แล้ว พี่ก็ว่าเขาก็ไม่ควรพูด เพราะว่ามันให้ไปแล้ว เขาเป็นผู้ใหญ่ก็ไม่ควรจะไปพูดย้อนเหตุการณ์อีกว่าควรทำหรือไม่ควรทำ เจ้าภาพเขากำลังเริ่มจัดการแข่งขันกัน ฟุตบอลโลกจะเริ่มแล้ว มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะพูดอย่างนั้น แล้วก็อย่างที่บอกอะไรก็เกิดขึ้นได้ในฟุตบอลโลก ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปได้ในฟุตบอลโลก ถ้าเชื่อสโลแกนนี้ก็เดินหน้าต่อไปไม่เห็นเป็นไรเลย
 
ฟุตบอลโลกยังเคยไปจัดที่แอฟริกาใต้มาแล้วเลย คนก็บอกว่าไม่พร้อมอะไรต่างๆ แถมยังแทบจะไม่รู้จักฟุตบอล เขาเป็นชาติที่รักการเล่นรักบี้ คริกเก็ต สมัยจัดที่เม็กซิโกคนก็บอกไม่พร้อมเหมือนกัน ฟุตบอลโลก ต้องแข่งกันในช่วงเที่ยงวันของเม็กซิโก อากาศร้อน เพื่อให้ถ่ายทอดสดกลับมาที่ยุโรปได้ตรงเวลาที่คนยุโรปสะดวก ตอนสหรัฐฯ จัดก็มีคนวิจารณ์ว่าจะเป็นไปได้เหรอ ชาติที่เตะฟุตบอลแทบจะไม่เป็น ทุกครั้งมันก็เป็นอื้อฉาวหมด แต่สุดท้ายมันก็ผ่านไปได้ด้วยดี  มันเกิดปัญหาขึ้นมากมายอยู่แล้ว แต่ว่าทุกอย่างก็ผ่านไปได้
 
แล้วตัวเซปป์ แบลตเทอร์ (Sepp Blatter) เองก็เป็นคนขายนโยบายที่่ว่าฟุตบอลโลกจัดได้ทุกทวีป มันเป็นเรื่องดีนะ ถ้าพูดถึงว่ามันได้กระจายไปตามสัดส่วนต่าง ๆ แต่ละทวีปทั่วโลก เอเชียจัดมาแล้ว แอฟริกาจัดมาแล้ว อเมริกาก็จัดมาแล้ว แต่ตอนนี้กลับมาพูดว่าการให้กาตาร์เป็นเจ้าภาพไม่เหมาะสม โดยที่เขายังไม่ได้ทำยังไม่ได้เริ่มการแข่งขันจริง มันก็ไม่ควร มันต้องให้โอกาสเขาก่อน จะมาพูดว่าเขาไม่เหมาะสมก่อนที่เขาจะจัดเนี่ยมันไม่ได้ อย่างน้อยก็ต้องให้โอกาสเขาก่อนถึงจะแฟร์ กลับมาที่สโลแกน “ทุกอย่างเป็นไปได้ในฟุตบอลโลก” ถ้าเชื่อนิยามนั้นก็คือเดินหน้าต่อ แล้วก็ดูฟุตบอลโลกครั้งนี้กันอย่างมีความสุข 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์