ชีวิตรถไฟเหาะของ ‘แจ็ค บัตแลนด์’ นายทวารคนล่าสุดของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

9 ม.ค. 2566 - 04:11

  • ชีวิตคนเรามีขึ้นย่อมมีลง แต่สำหรับ แจ็ค บัตแลนด์ ว่าที่นายด่านเลือดผู้ดีคนใหม่ของ ‘ปีศาจแดง’ ชีวิตการค้าแข้งของเขาดูท่าจะขึ้นลงบ่อยกว่าใครเพื่อนราวกับนั่งรถไฟเหาะ

Jack-Butland-Story-SPACEBAR-Thumbnail
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ได้ประกาศดึงตัว มาร์ติน ดูบราฟก้า กลับจากการยืมตัวก่อนกำหนด ทำให้ตำแหน่งผู้รักษาประตูสำรองของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ว่างลงหนึ่งตำแหน่ง ทัพปีศาจแดงที่กำลังเกาะกลุ่มหัวตารางลีกผู้ดีอยู่ในขณะนี้ จึงต้องพยายามเสริมขุมกำลังเพื่อรักษาโมเมนตัมให้มีความต่อเนื่อง

และหวยครั้งนี้ก็ไปออกที่การเซ็นสัญญายืมตัว ‘แจ็ค บัตแลนด์’ นายด่านสำรองจากสโมสร คริสตัล พาเลซ เชื่อว่าแฟนบอลส่วนใหญ่ย่อมเคยได้ยินชื่อของเขาวนเข้าหูซ้ายเวียนออกหูขวามาเป็นร่วมเกือบสิบปี แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่านายด่านรายนี้เพิ่งมีอายุเพียง 29 ปีเท่านั้น ซึ่งสำหรับตำแหน่งนี้ถือเป็นวัยที่กำลังแตะจุดพีคของอาชีพ ทำไมดาวรุ่งที่เคยถูกทีมใหญ่จ้องกันตาเป็นมัน กลับกลายมาเป็นผู้รักษาประตูระดับตัวสำรองที่สองปีหลัง ถูกส่งลงสนามในลีกสูงสุดไม่ถึง 10 นัด เราจะไปหาคำตอบกัน 
 

เริ่มต้นราวกับฝัน 

หลังจากผ่านการฝึกฝนในระดับเยาวชนกับ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ อยู่พักหนึ่ง ไอ้หนู แจ็ค บัตแลนด์ ในวัยเพียงแค่ 18 กะรัต ก็ได้ประเดิมสนามลงเฝ้าเสาในเกมฟุตบอลระดับอาชีพครั้งแรก จากการไปยืมตัวกับสโมสรระดับลีกทู อย่าง เชลแน่ม ทาวน์ ที่เปิดบ้านอัด แม็คเคิ่ลสฟิลด์ ทาวน์ ไปสองประตูต่อศูนย์ ซึ่งสำหรับเกมฟุตบอล ถ้าชัยชนะเปรียบเสมือนอาหารจานหลัก การไม่เสียประตูหรือที่เราเรียกกันว่า ‘คลีนชีท’ ก็คือของหวานสำหรับบรรดาผู้เล่นในตำแหน่งเกมรับ  ซึ่งไอ้หนูแจ็คของเราก็ได้โซ้ยของหวานตั้งแต่เกมแรกในระดับอาชีพ
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/3Dq1SHZqdJn1GCVQIvqSJ/1b9a9a0678081053626be13ca63ec918/Jack-Butland-Story-SPACEBAR-Photo01
สรุปในฤดูกาลนั้น บัตแลนด์ได้ลงเฝ้าเสาให้กับ เชลแน่ม ทาวน์ ทั้งหมด 24 เกม และเก็บคลีนชีทไปถึง 11 นัดด้วยกัน ทำให้ทีมจบอันดับ 6 บนตารางลีกทู ด้วยฟอร์มอาชีพปีแรกทำให้ชื่อเสียงของบัตแลนด์เริ่มกระจายออกไป ว่ากันว่าในแต่ละเกมที่บัตแลนด์ลงเล่น มีแมวมองจากสโมสรชั้นนำมาดูฝีมือไม่ต่ำกว่า 50 คนเลยทีเดียว   
 
“เขามีทุกอย่างพร้อมที่จะก้าวไปเป็นผู้รักษาประตูระดับท็อป โดยเฉพาะทัศนคติอันน่าเหลือเชื่อสำหรับเด็กวัย 18” สตีฟ เอลเลียต อดีตนักเตะ เชลแน่ม ทาวน์ พูดถึงบัตแลนด์ 
 
กราฟชีวิตของบัตแลนด์ยังคงพุ่งทะยานต่อเนื่อง ปีนั้นเขามีชื่อเป็นหนึ่งในขุนพลของทัพสิงโตคำรามชุดลุยศึกยูโร 2012 ที่แม้บัตแลนด์จะได้แค่เพียงนั่งดูพี่ๆ อยู่ที่ข้างสนาม แต่การถูกเรียกติดธงฟุตบอลรายการใหญ่ด้วยวัยเพียงเท่านี้ ก็ทำให้เข้าใจได้เลยว่า วงการฟุตบอลอังกฤษประเมินค่าของบัตแลนด์ไว้สูงเพียงใด
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/1R2neM5tPMwZ68nR3ZFsUz/555a465b7bdb9eca5bdbd1b6fe608cf4/Jack-Butland-Story-SPACEBAR-Photo02

โอกาสแรกที่หลุดมือ 

หลังจากฟุตบอลยูโรจบลง โอกาสก็ครั้งใหญ่ก็วิ่งเขาหาบัตแลนด์อีกครั้ง เพราะมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติอย่าง โอลิมปิคเกม 2012 อุบัติขึ้นที่ลอนดอน สจ๊วต เพียร์ซ กุนซือจิตเดือด ผู้ได้รับมอบหมายให้กุมบังเหียนทัพ สหราชอาณาจักร ในขณะนั้น ก็ได้เรียกตัว แจ็ค บัตแลนด์ ติดมาในฐานะผู้รักษาประตูเบอร์หนึ่งของทีม  
 
ในรอบแบ่งกลุ่มเขาโชว์ฟอร์มได้ไม่เลว ช่วยเซฟจังหวะสำคัญหลายครั้งจนทีมสามารถฝ่า เซเนกัล ยูเออี และ อุรุกกวัย ผ่านเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม เข้าไปพบกับเกาหลีใต้ ที่ในรอบแบ่งกลุ่มแม้จะไม่แพ้ใคร แต่ก็ทำประตูได้น้อยและเน้นความเหนียวแน่น ดังนั้นด้วยตัวผู้เล่นที่เหนือกว่า และความเป็นเจ้าภาพ นี่จึงเป็นเกมที่สหราชอาณาจักรต้องชนะสถานเดียวเท่านั้น  
 
แต่เมื่อเกมผ่านมาได้เพียงแค่ 29 นาที จี ดอง-วอน แนวรุกพลังโสม ยิงบอลนอกกรอบเขตโทษด้วยซ้ายเต็มแรง ลูกบอลพุ่งมาด้วยความเร็ว แต่ทิศทางไม่ได้ห่างตัวของแจ็คบัตแลนด์มากนัก จริงๆ ฝีมือระดับเขาคงปัดทิ้งไปได้ไม่ยาก แต่กับลูกยิงลูกนี้ เพียงพริบตาเดียวลูกบอลก็ลอยผ่านมือเขาที่กะจังหวะปัดบอลพลาดเข้าประตูไปดื้อๆ
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/3dfYOyw3622qARkLSZ2bpS/56b469e56d91cd5d7ff618ac01e92c44/Jack-Butland-Story-SPACEBAR-Photo03
แม้ อารอน แรมซีย์ จะช่วยยิงตีเสมอในอีกไม่กี่นาทีต่อมา แต่ความผิดพลาดของบัตแลนด์ครั้งนั้น ก็ทำให้สกอร์จบลงที่ผลเสมอ 1-1 ยาวไปถึงฎีกา ซึ่งเป็นโอกาสที่เขาจะได้แก้ตัวอีกครั้ง แต่เหมือนเทพีแห่งโชคจะหันหลังให้ ในเกมวันนั้นเจ้าตัวไม่สามารถเซฟจุดโทษได้เลยแม้แต่ลูกเดียว จนสุดท้าย แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ยิงพลาด ส่งผลให้เจ้าภาพตกรอบไปแบบน่าผิดหวัง 
 

กลับสู่เส้นทาง 

ความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ในนักฟุตบอลทุกคน นักบอลระดับโลกล้วนแต่ก็เคยพลาดแบบไม่น่าให้อภัยกันมาแล้วทั้งนั้น ด้วยวัยที่ยังเหลือช่องว่างให้พัฒนาได้อีก บัตแลนด์ จึงกลับมาในเส้นทางของตัวเองได้ไม่ยาก ไม่นานหลังจากผิดหวังกับโอลิมปิค เขาก็ได้โอกาสลงเล่นกับทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่เป็นครั้งแรก ในเกมกระชับมิตรกับทีมชาติอิตาลี ที่รอย ฮอดจ์สัน กำลังทดลองปรับจูนทีม แม้จะเป็นการเล่นแค่ 45 นาทีแรก และเสีย 1 ประตู แต่สถิติผู้รักษาประตูอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ ที่ได้ลงเล่นให้กับทัพสิงโตคำราม ก็ถือว่าเป็นอะไรที่พิเศษพอสมควร 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/3V1dFZvrunZxhv5ZS2UE2i/481ac6539df2f0554a56308fcdf6bfaa/Jack-Butland-Story-SPACEBAR-Photo04
บัตแลนด์กลับมาโฟกัสบอลลีกด้วยการเป็นตัวหลักให้กับเบอร์มิงแฮมซิตี้ ในเดอะแชมเปี้ยนชิพ ฟอร์มของเขาดีวันดีคืนในระดับที่ถูกโหวตให้เป็นดาวรุ่งยอดเยี่ยมของสโมสรในปีนั้น แต่เบอร์มิงแฮมที่ประสบปัญหาทางการเงิน ก็เริ่มพิจารณาข้อเสนอจากบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ต่างๆ และก็เป็นเชลซี ทีมจ้าวยุโรปในขณะนั้นที่มาแรงกว่าใครเพื่อน แต่บัตแลนด์บอกกับสโมสรว่า ในตอนนี้เขาแสวงหาโอกาสลงเล่นฟุตบอลอย่างต่อเนื่อง มากกว่าชื่อเสียงและเงินทอง  
 
“ผมคิดว่ามันเป็นวุฒิภาวะที่น่าเหลือเชื่อสำหรับเด็กอย่างเขา ที่กล้าปฏิเสธทีมระดับเชลซีเนื่องจากไม่เห็นหนทางที่ตัวเองจะแทรกไปอยู่ในทีมชุดใหญ่ได้ในเร็ววัน” ลี คลาร์ก อดีดโค้ชเบอร์มิงแฮม พูดถึงบัตแลนด์ 
 
สุดท้ายบัตแลนด์ตัดสินใจเซ็นสัญญาระยะยาว กับสโมสร สโต๊ค ซิตี้ ทีมระดับกลางตารางพรีเมียร์ลีก แรกๆ ลีกระดับสูงอย่างพรีเมียร์ลีกไม่ได้มีโอกาสให้เขาได้ลงเล่นอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยมากนัก แต่หลังจากสามปีที่บัตแลนด์ระหกระเหินอยู่กับการถูกปล่อยยืม ในที่สุดโอกาสของเขาก็มาถึง  
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/3Api1xh3MJmcm331qJQJR9/64d5a2f2c1ffe1f6cba46c11ac035758/Jack-Butland-Story-SPACEBAR-Photo05
การย้ายทีมของนายด่านตัวเก๋าอย่าง อัสเมียร์ เบโกวิช ในฤดูกาล 2015/2016  ทำให้บัตแลนด์ถูกส่งลงเล่นมากขึ้น เขาสานรอยต่อของทีมได้อย่างไร้ที่ติ ถึงขนาดเซฟลูกสำคัญพาทีมเขี่ยเชลซีตกรอบบอลถ้วยได้ ชื่อของบัตแลนด์เริ่มได้รับการพูดถึงในระดับสากลอีกครั้งในฐานะผู้รักษาประตูความหวังใหม่ของทีมชาติอังกฤษที่จะต้องมีคิวกรำศึก ยูโร 2016 ถึงขนาดว่าอาจจะได้ขึ้นเป็นมือ 1  ซึ่งดูเผินๆ ก็เหมือนว่าฤดูกาลนี้จะเป็นขาขึ้นของชีวิตค้าแข้งอันสดใสที่เขาเคยวาดไว้ แต่สุดท้ายมันก็ต้องพังทลายลงอีกครั้งในเวลาอันรวดเร็ว 
 

อาการบาดเจ็บ ‘ฝันร้ายที่สุดของนักฟุตบอล’ 

หลังจากได้ลงเล่นอย่างต่อเนื่องกับช่างปั้นหม้อในฤดูกาล 2015/2016 ไป 39 นัด เก็บ 12 คลีนชีท บัตแลนด์ ถูกเรียกไปเฝ้าเสาให้กับเกมกระชับมิตรทีมชาติ ที่อังกฤษ พบกับเยอรมัน แต่หลังจากลงเล่นไปได้แค่ 45 นาที เขาถูกเปลี่ยนตัวออก หลังเกมได้รับแจ้งว่าเขามีอาการบาดเจ็บกระดูกข้อเท้าแตก จากการประเมินเบื้องต้นน่าจะพลาดการลงเล่นเกมที่เหลือของซีซันแและอาจใช้เวลาพักราวเดือนถึงสองเดือน โชคดีที่ยังมีลุ้นเล็กๆ ที่จะมากรำศึกยูโรได้ทัน บัตแลนด์ได้แต่ภาวนาอย่างนั้น แต่เหมือนพระเจ้าจะไม่แยแสคำภาวนาของเขา
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/3SB0X9RtGMUgnzLYyrktKI/299ef446f73cc005a7897226b0f57e34/Jack-Butland-Story-SPACEBAR-Photo06
369 วัน คือจำนวนวันที่บัตแลนด์ ไม่ได้สัมผัสสนามฟุตบอลอีกเลยนับตั้งแต่วันนั้น เขาต้องเข้ารับการผ่าตัดเพิ่มเติมอีกสองครั้ง พลาดการทั้งการลงเล่นฟุตบอลยูโร และเกมกับสโต๊คอีกราว 40 นัด และเมื่อเจ้าตัวสลัดอาการบาดเจ็บกลับมาได้เล่นเต็มๆ ในฤดูกาล 2017/2018 ทีมช่างปั้นหม้อก็ไม่เหลือฟอร์มเดิมๆ อีกต่อไป ผู้เล่นชุดแกร่งเริ่มโรยรา ลำพังบัตแลนด์เองก็ไม่สามารถช่วยทีมเอาไว้ได้ เขาเสียประตูไปถึง 63 ลูก เก็บคลีนชีทได้เพียง 6 ครั้ง จากการลงเล่น 36 นัดทุกรายการ สโต๊คตกชั้นลงมาเล่นในลีกแชมเปี้ยนชิพ ในปีนี้ตัวบัตแลนด์ถูกเรียกไปติดทีมชาติอังกฤษชุดลุยบอลโลกที่รัสเซียด้วย แต่ถึงทีมจะเข้ารอบลึกได้ บัตแลนด์ก็ยังคงทำได้แค่นั่งอยู่ข้างสนามเท่านั้น 
 
ปีต่อมา บัตแลนด์ ยังคงอยู่กับสโต๊คต่อไปในซีซั่นแรกของลีกรอง ซึ่งเขาก็กลับมาเรียกฟอร์มเก่งได้สำเร็จ ถูกแฟนโหวตให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมของสโมสรในปีนั้น แต่สโต๊คที่หมายมั่นปั้นมือว่าจะขึ้นชั้นกลับไปได้ในปีแรก ผลงานดันสวนทางกับฟอร์มของบัตแลนด์ พวกเขาจบอัน 16 ซึ่งถือว่าย่ำแย่เอามากๆ สำหรับทีมระดับพรีเมียร์ลีกที่ตกลงมาเล่นในลีกรอง และความผิดหวังที่ไม่สามารถพาทีมเลื่อนชั้นกลับไปได้นี้เอง ทำให้นี่คือปีสุดท้ายที่เราได้เห็นฟอร์มที่ดีที่สุดของบัตแลนด์  
 
ฤดูกาล 2019/2020 เขาเริ่มฟอร์มตกลงเรื่อยๆ จังหวะผิดพลาดโผล่มาให้เห็นบ่อยขึ้น ชัดสุดในเกมที่สโต๊คพบกับ เปรสตัน นอร์ธ เอนด์ บัตแลนด์รับลูกยิงง่ายๆ ไม่อยู่ถึงสองลูกในเกมเดียวกัน ทำให้เขาเริ่มถูกดรอปเป็นตัวสำรอง ก่อนจะมาพลาดครั้งใหญ่อีกครั้งในเกมกับมิลวอลล์ บัตแลนด์ไปเล่นมากจังหวะหน้ากรอบเขตโทษตัวเองจนถูกฉกไปยิง นาธาน โจนส์ กุนซือในตอนนั้นสั่งดรอปเขาไปเป็นผู้รักษาประตูมือสองแบบถาวรทันที จนเมื่อกุนซือใหม่ มาร์ติน โอนีลล์ เข้ามารับหน้าที่ต่อ ก็ได้มีความพยายามที่จะจ้างทีมงานเฉพาะมาเพื่อรื้อฟื้นฟอร์มบัตแลนด์อีกครั้ง แต่โชคชะตาเล่นตลก เมื่อปี 2020 เกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ทำให้เกมฟุตบอลต้องหยุดการแข่งขัน ฟอร์มของบัตแลนด์จึงหยุดชะงักลงไปอีกครา 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/4BwpLYtjyzcfzgSuh6TBxE/66cd76b79b044526b317915e8d55fe43/Jack-Butland-Story-SPACEBAR-Photo07
และเมื่อสัญญากับ สโต็ค ซิตี้ หมดลง บัตแลนด์ก็ได้ตัดสินใจเซ็นสัญญาร่วมทีมระดับพรีเมียร์ลีกอีกครั้งกับ สโมสร คริสตัลพาเลซ แต่เขาไม่สามารถแย่งตำแหน่งมือหนึ่งจาก บิเซนเต้ กูเอต้า จอมหนึบแดนกระทิงได้เลย ตลอดสองปีเขาได้โอกาสเล่นเกมลีกสูงสุดเพียงแค่ 9 นัดเท่านั้น มิหนำซ้ำก่อนเปิดฤดูกาล 2022/2023 เกมปรีซีซั่นที่เขาได้โอกาสลงเรียกฟอร์ม เจ้าตัวก็ดันมากระดูกนิ้วหักจากการเซฟลูกยิงของแข้งผีแดงอย่าง อองโตนี มักซิยาล ส่งผลให้เขาต้องพักยาวถึง 4 เดือน และเมื่อบัตแลนด์ฟื้นฟูร่างกายกลับมา เขาก็พบความจริงอันน่าเศร้า ว่าคริสตัล พาเลซ ไม่มีที่ว่างให้เขาอีกต่อไป ดังนั้นการถูกส่งมายืมตัวที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จึงเป็นทางเลือกที่บัตแลนด์ไม่อาจจะปฏิเสธได้ 
 
“ผมรู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองทำอะไรได้ แต่เหมือนผมสูญเสียความมั่นใจทั้งหมดไป” แจ็ค บัตแลนด์ ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของตนเองในอดีต 
“มันกลายเป็นวังวนไม่รู้จบของการพยายามอย่างหนัก แต่สุดท้ายคุณก็ไม่ได้ลงเล่น” บัตแลนด์ กล่าวเพิ่ม  
 
จากผู้รักษาประตูที่ฮอตจนเคยมีสื่อประเมินไว้ว่าค่าตัวจะสูงแตะหลัก 50 ล้านปอนด์ แม้แต่แมนยูฯ ก็เคยร่วมวงคว้าเขาแต่ไม่สำเร็จ บัตแลนด์ในตอนนี้กลายเป็นผู้รักษาประตูที่ทีมปีศาจแดงยืมตัวได้มาง่ายๆ  
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/3grMBtBFI9NYqPUjwuZknQ/2e176445f62ddd693546e01602c434c7/Jack-Butland-Story-SPACEBAR-Photo08
ก็ต้องดูกันต่อไปว่า การย้ายทีมครั้งนี้ เขาจะสามารถหาโอกาสเพื่อพลิกเส้นทางการค้าแข้งของตัวเองให้เข้ารูปเข้ารอยได้อีกครั้งหรือไม่ และถ้าโอกาสนั้นมาถึง บัตแลนด์ จะปล่อยให้มันหลุดมือแบบที่ผ่านมาไม่ได้อีกแล้ว

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์