แลมพาร์ดไม่รอดแล้ว มองเอ็นริเก้เลยดีกว่า ดูผลงาน หลุยส์ เอ็นริเก้ ว่าที่โค้ชใหม่เชลซีในซีซันหน้า

18 เม.ย. 2566 - 09:57

  • แพ้เป็นพระ ชนะเป็นไหม? คือคำถามที่แฟนเชลซียังไม่ได้คำตอบซักที

  • บางคนมองข้ามแลมพาร์ดไป มองไปถึง หลุยส์ เอ็นริเก้ ว่าที่โค้ชคนใหม่ (ถ้าเขาไม่เลือกสเปอร์สก่อนนะ) เรียบร้อยแล้ว

Luis-Enrique-profile-and-honours-SPACEBAR-Thumbnail
แพ้เป็นพระ ชนะเป็นไหม? คือคำถามที่แฟนเชลซียังไม่ได้คำตอบซักทีนับตั้งแต่ทีมปลด แกรห์ม พอตเตอร์ ออกจากการเป็นกุนซือใหญ่ และแต่งตั้ง แฟรงค์ แลมพาร์ด อดีตตำนานของทีมกลับมาคุมทีมรอบสองจนจบซีซั่น ถ้านับย้อนไปตอนโค้ชฮอกวอตส์ยังอยู่ ‘สิงห์บลู’ สะกดคำว่า ‘ช น ะ’ ไม่เป็นมาทั้งหมด 6 นัดรวดในทุกรายการ ไล่ตั้งแต่เสมอเอฟเวอร์ตัน 2-2, แพ้แอสตัน วิลล่า คาบ้าน 0-2, เสมอลิเวอร์พูล 0-0, บุกไปแพ้วูลฟ์ 1-0, บุกไปแพ้เรอัล มาดริด 2-0 และล่าสุดเล่นในบ้านยังแพ้ไบรท์ตันไปอีก 1-2  

โดยนัดล่าสุดเป็นผลงานของแฟรงค์ แลมพาร์ด ที่แฟนบอลเชลซีแทบทั้งโลกส่ายหัวเหมือนกันว่านี่ทีมเล่นในบ้านจริงเหรอ เพราะทีมของ ‘ซูเปอร์แฟรงค์’ เป็นรองทุกกระบวนท่า ทั้งๆ ที่มีโอกาสขึ้นนำไปก่อน แต่ก็โดนแซงและแพ้ตามระเบียบเหมือนเดิม จบเกมด้วยสถิติครองบอลแค่ 43% มีโอกาสยิงตลอด 90 นาทีแค่ 8 ครั้ง ค่า xG หรือความน่าจะเป็นของการได้ประตูมีแค่ 0.54 กลับกันทางฝั่งทีมเยือนครองบอลเหนือกว่าที่ 57% มีโอกาสทำประตูทั้งหมด 26 ครั้ง!!! ค่า xG ปาไป 2.94 เล่นเอาแฟนบอลงงกันเป็นไก่ตาแตกนึกว่าทีมบุกไปเยือนไบรท์ตันที่ เอเม็กซ์ สเตเดียม  

ถึงกันตรงนี้บอกตามตรงเลยว่าเกมแชมเปียนส์ ลีก คืนนี้ที่รอเปิดบ้านรับการมาเยือนของทัพ ‘ราชันชุดขาว’ ดูแล้วยังไงก็ไม่น่ารอด จบแบบโคม่าหามส่งโรงบาลแน่นอน ส่วนเกมในลีกที่เหลืออีก 7 เกมไม่ต้องพูดถึง แม้กระทั่งฟุตบอลถ้วยเล็กสุดอย่าง ยูโรป้า คอนเฟอร์เรนซ์ ลีก ก็ไม่ได้ไปแน่ๆ ฤดูกาลหน้าเตรียมนอนเร็วกันได้เลย เพราะตอนนี้คะแนนห่างจากอันดับ 6 อยู่ 11 คะแนน กับอีก 7 เกมที่มีเจอทั้ง แมนฯ ยูไนเต็ด, แมนฯ ซิตี้, อาร์เซน่อล และ นิวคาสเซิล ถ้าจะบอกว่าชนะหมดใครๆ ก็คงบอกว่า ‘คุณหลอกดาว’ เอาแค่มีสักแต้มได้ กับทรงบอลไม่ป้อแป้ก็ดีใจกันตัวลอยแล้ว 

แฟนเชลซีหลายคนเวลานี้คงดูบอลกันแบบปล่อยจอยแล้ว หวังแค่สิ่งที่บอกตรงย่อหน้าข้างบนเกิดขึ้นบ้างก็พอ บางคนมองข้ามแลมพาร์ดไปแล้ว อยากเห็นการทำทีมในโฉมของ หลุยส์ เอ็นริเก้ ว่าที่โค้ชคนใหม่ที่เคยเดินทางมาลอนดอนก่อนหน้านี้สักที วันนี้เราเลยขอเอาประวัติและผลงานเด่นๆ ตลอดการคุมทีมของ เอ็นริเก้ มาฝากแฟนๆ สิงโตน้ำเงินครามกันซักหน่อย จะมีอะไรให้ได้ลุ้นบ้าง (ถ้าเขามาจริงๆ ไม่เลือกไปสเปอร์สก่อนนะ เพราะตอนนี้สเปอร์สกำลังเร่งตามจีบอยู่) ตามไปดูได้เลย 

คนที่กล้าเปลี่ยนสไตล์บอลของบาซาร์ 

https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/4fWYhWNi4qXnLAf2nFnajm/45a1789bb0c5a4de8da6c955751857a0/Luis-Enrique-profile-and-honours-SPACEBAR-Photo01
หลุยส์ เอ็นริเก้ คือคนที่กล้าเปลี่ยนสไตล์ฟุตบอลของบาร์เซโลน่า ยักษ์ใหญ่ของฟุตบอลสเปนให้กลายเป็นฟุตบอลในแบบฉบับของเขาได้อย่างสิ้นเชิง จากก่อนหน้าที่เขาจะมาคุม เป๊ป กวาร์ดิโอลา, ติโต้ บิลาโนบา, เกราร์โด ‘ตาต้า’ มาร์ติโน ต่างใช้สไตล์การเล่นแบบครอบครองบอลหนักๆ ไปเรื่อยๆ แล้วค่อยเข้าทำ แต่เอ็นริเก้ไม่เลือกแบบนั้น เขาใช้แผนการเล่นที่เปลี่ยนจากเกมรับเป็นเกมรุกแบบรวดเร็ว แถมในช่วงสองปีแรกสถิติการคุมทีมของเขาดีกว่าเป๊ปแบบชัดเจน สามารถทำประตูได้มากกว่าและเสียน้อยกว่า มีเปอร์เซ็นต์อัตราการชนะที่สูงกว่า และอัตราชนะการแข่งขันที่ใกล้เคียงกัน จนเป๊ปถึงกับเคยออกมายกย่องบาซาร์ในยุคของเขาว่าเป็น ‘ทีมที่เล่นเกมโต้กลับได้ดีที่สุดในโลก’
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/4xe4U5IcIXHN75BdW2Ujp9/93915bc029bb41edfe2eb8225a1bd74c/Luis-Enrique-profile-and-honours-SPACEBAR-Photo02
โดยแท็คติกของเขาใช้การเล่นของสามประสาน ‘MSN’ ในเวลานั้นอย่าง ลิโอเนล เมสซี่, หลุยส์ ซัวเรส และ เนย์มาร์ เป็นหลัก ให้ทาง อิวาน ราคิติช รับบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนเกมรับเป็นเกมรุก และลดอิทธิพลเกมกลางสนามของ อันเดรส อิเนียสต้า และ ชาบี ลงไป นอกจากนี้ผลงานชิ้นโบว์แดงตอนอยู่บาซาร์ของเขาคือการพลิกนรกกลับมาชนะ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในแชมเปียนส์ ลีก หลังจากที่เลกแรกบุกไปแพ้ถึงฝรั่งเศสแบบเละเทะ 4-0 ซึ่งในเกมนั้นเขาเปลี่ยนมาเล่นแผน 4-4-2 ให้เมสซี่มาเล่นเป็นเพลย์เมกเกอร์ในแผงกองกลางแบบไดมอนด์ และให้บุสเก็ตส์เป็นกลางรับคอยตัดเกมคู่แข่งคนเดียว ใช้เนย์มาร์เป็นตัวรุกหลักในตำแหน่งกองหน้าฝั่งซ้าย ตัดเข้าในเพื่อไปเล่นร่วมกับซัวเรส จนทำให้วันนั้นบาซาร์พลิกกลับมาถล่มเปแอสเชไป 6-1 ผ่านเข้ารอบได้แบบไม่น่าเชื่อ 

เช่นเดียวกันกับตอนที่เขาทำทีมชาติสเปน เอ็นริเก้ ก็ยังคงเลือกใช้สไตล์การเล่นที่ถนัดในการเปลี่ยนจากรับเป็นรุกอย่างรวดเร็วในแผน 4-3-3 และ 3-4-3 ใช้กลางรับคนเดียว เล่นร่วมกับมิดฟิลด์บ็อกซ์ทูบ็อกซ์อย่าง โกเก้ หรือ เปดรี กับมิดฟิลด์ตัวกลางอีกคนคอยออกบอลเชื่อมเกมไปข้างหน้า โดยให้กองหน้าลงมารับบอลลึกตรงกลางสนาม และโจมตีด้วยปีกกับฟูลแบ็คเพื่อยืดพื้นที่ในสนามให้กว้างขึ้น ทำให้เกิดช่องว่างตรงกลางสนาม ซึ่งจะได้ผลดีกับทีมที่เล่นแบบรับลึกและรัดกุม 

ผลงานของ หลุยส์ เอ็นริเก้ 

https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/3jLzNG7QbQ3gaBiFjdJYl0/c42c5bf1a79c16613663ecbe2e169acd/Luis-Enrique-profile-and-honours-SPACEBAR-Photo03

บาร์เซโลน่า 

  • แชมป์ลาลีก้า 2 สมัย (2014/15, 2015/16) 
  • แชมป์โคปา เดล เรย์ 3 สมัย (2014/15, 2015/16, 2016/17) 
  • แชมป์ซูเปอร์ โคปา 1 สมัย (2016) 
  • แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 1 สมัย (2014/15) 
  • แชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ 1 สมัย (2015) 
  • แชมป์สโมสรโลก 1 สมัย (2015) 

ทีมชาติสเปน 

  • รองแชมป์ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก (2020/21) 

ผลงานส่วนตัว 

  • โค้ชยอดเยี่ยมลาลีก้า 1 สมัย (2015) 
  • โค้ชแห่งปีของฟีฟ่า 1 สมัย (2015) 
  • โค้ชสโมสรยอดเยี่ยมของโลกจาก IFFHS 1 สมัย (2015) 
  • ผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมจากนิตยสาร World Soccer 1 สมัย (2015) 
  • โค้ชแห่งปีของยุโรป หรือ Alf Ramsey Award 1 สมัย (2015) 
  • โค้ชแห่งฤดูกาลของยุโรป 1 สมัย (2014/15) 
  • ผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมประจำเดือนของลาลีก้า 1 ครั้ง (พฤษภาคม 2016) 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์