แมนนี่ ปาเกียว เคยดำรงตำแหน่ง ส.ว. !?

22 กรกฎาคม 2566 - 08:08

Manny-Pacquiao-Senator-SPACEBAR-Thumbnail
  • รู้หรือไม่ว่า อดีตยอดมวยโลกชาวฟิลิปปินส์อย่าง แมนนี่ ปาเกียว ที่จะมีคิวกลับมาสวมนวมขึ้นชกกับยอดมวยชาวไทยอย่าง บัวขาว ต้นปีหน้า ในอดีตเขาเคยดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาของฟิลิปปินส์มาก่อน แถมยังเคยลงสมัครชิงตำแหน่งผู้นำประเทศอีกด้วย

  • โดย “THE MATCH OF LEGEND” ระหว่าง ปาเกียว ปะทะ บัวขาว จะจัดขึ้นในช่วงควอเตอร์แรกของปี 2567 ในกติกาพิเศษของเดอะแมตช์ ภายใต้กฎมวยสากลมาตรฐาน 6 ยกๆ ละ 3 นาที พักยกละ 2 นาที พร้อมกับมีเงินรางวัล และเข็มขัดแชมป์ที่จัดทำขึ้นพิเศษของ WBC มอบให้กับผู้ชนะอีกด้วย

ปฎิเสธไม่ได้ว่าชื่อเสียงในวงการกีฬาของนักมวยฉายา “แพคแมน” ผู้นี้ อยู่ในระดับโลกอย่างไม่ต้องสงสัย ครั้งหนึ่งเขาถึงกับถูกขนานนามว่านักมวยสากลที่เก่งที่สุดในโลก บนรุ่น บนสไตล์แบบเขา ในช่วงพีกเขาน็อคเอาชนะคู่แข่งแบบไม่เลือกหน้า กวาดเข็มขัดแชมป์มวยสากลระดับโลกมาครอง เรียกได้ว่ากว่าทศวรรษที่ “Pride of Philippines” คือนักมวยในระดับปอนด์ต่อปอนด์ที่ยากจะหาใครต่อกรได้
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/617XRDCwW0lvpgpJlHyG3q/627a4ade7b53be0ec68242fbd1df88da/Manny-Pacquiao-Senator-SPACEBAR-Photo02
แต่สำหรับเส้นทางการเมืองในประเทศฟิลิปปินส์บ้านเกิด แมนนี ปาเกียว ที่ได้ฉายาว่า ความภูมิใจของชาวฟิลิปปินส์ กลับเริ่มต้นเส้นทางการเมืองด้วยความพ่ายแพ้ในปี 2007 ที่เขาลงสมัครสภาผู้แทนราษฏรท้องถิ่นในขณะที่มีวัยเพียงแค่ 28 ปี เหตุผลก็เพราะแม้ความนิยมชมชอบในตัวชาว ฟิลิปปินส์ ที่มีต่อ ปาเกียว จะมากขนาดไหน แต่ในวัยเท่านี้ ผู้คนยังมองไม่เห็นศักยภาพของเขาที่จะบริหารบ้านเมือง การศึกษาก็ไม่มี อีกทั้งผู้คนคงคิดว่าอยากเก็บเขาไว้เป็นฮีโร่ของประเทศแบบนั้นมากกว่า เพราะเมื่อคุณลงมาเกลือกกลั้วกับการเมืองที่มีการแบ่งขั้ว ความนิยมชมชอบในฐานะกีฬาของคุณมันจะถูกแยกส่วนออกมาทันที ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ผู้ชนะการเลือกตั้งในครั้งนั้นใช้มันเล่นงานปาเกียว “เหนือสิ่งอื่นใด ผมคิดว่าผู้คนยังไม่อยากเสียขวัญใจนักมวยอย่างเขาไป”  
 
หลังจากครั้งแรก ปาเกียวเองไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เขาต่อยมวยควบคู่ไปกับการศึกษาเพิ่มเติมจนจบหลักสูตรที่จำเป็นต่างๆ นาๆ ต่อการบริหารบ้านเมือง จนทำให้ผู้คนเริ่มประทับใจในตัวเขา ปาเกียวแสดงให้เห็นถึงทัศนคติของผู้ไม่ยอมแพ้ทั้งในและนอกสนาม ประชาชนรับรู้ได้ว่าการเข้ามาเล่นการเมืองของปาเกียวหาใช่การลงมาเกาะกระแสจากชื่อเสียงตัวเองอย่างที่คิดกัน แต่เขาอยากเข้ามาปรับเปลี่ยนโครงสร้างบ้านเมืองอย่างจริงจัง จากประวัติชีวิตในวัยเด็กที่ยากจนข้นแค้น ต้องเข้ามาปากกัดตีนถีบในเมืองหลวงตั้งแต่อายุ 14 เพื่อส่งเงินกลับไปเลี้ยงดูครอบครัว ทำให้ผู้คนเชื่อว่า ปาเกียว ที่เคยลำบากมากก่อนน่าจะเข้าใจระบบอันเลวร้ายของบ้านเมืองดีและพร้อมจะปรับเปลี่ยนมัน ทำให้ในที่สุดในปี 2010 ปาเกียว ก็ได้รับชัยชนะทางการเมืองครั้งแรกของตนในการลงสมัครสภาผู้แทนราษฎรในเขตบ้านเกิดของภรรยา ด้วยชัยชนะระดับถล่มทลายทิ้งห่างคู่แข่งกว่าเท่าตัว เขาได้เข้าสภาสมใจ แต่นั่นอาจเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของเขาเท่านั้น 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/64Keibpfk5VLMnjU8XjZEi/258f7b10c957c7bb1ed3aecbd790118a/Manny-Pacquiao-Senator-SPACEBAR-Photo01
อีก 3 ปีต่อมา ปาเกียว ลงสมัครตำแหน่งวุฒิสมาชิกของสภาฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่สำคัญมากของประเทศ มีสมาชิกเพียง 24 คน แต่ละคนดำรงตำแหน่งวาระละ 6 ปี และที่สำคัญผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่ง ส.ว. จะต้องถูกโหวตจากคนทั่วประเทศ โดยตำแหน่งนี้มีอำนาจสามารถตีตกกฏหมายของประเทศได้เลย ซึ่ง ปาเกียว ก็ทำสำเร็จ เขาได้รับเลือกจากประชาชนด้วยเสียงถึง 16 ล้านเสียง ระหว่างที่อยู่ในตำแหน่งการเมืองร่วมทศวรรษ ปาเกียว ก็เป็นที่จับจ้องจากผู้คนมากขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ เขาถูกจัดว่าเป็นนักการเมืองอนุรักษ์นิยมคนหนึ่งหลังจากเคยวิพากษ์วิจารณ์เรื่องเพศที่ 3 แบบไม่เท่าทันโลกซักเท่าไรนัก ก่อนจะต้องออกมาขอโทษในภายหลัง แต่ภายใต้ขั้วการเมืองเดียวกับผู้นำขวัญใจประชาชนอย่าง โรดรีโก ดูแตร์เต ที่โหด ดิบ ปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง ก็ทำให้ชื่อเสียงของปาเกียวในฐานะนักการเมืองยังคงมีคะแนนนิยมอยู่ไม่น้อย 
 
หลังจาก ปาเกียว ได้ดำรงตำแหน่งอันทรงเกียรติเป็นระยะเวลา 6 ปี ดั่งที่กล่าวไป ซึ่งเมื่อครบวาระ เขาก็จะมีอายุ 43 ปี สามารถลงสมัครตำแหน่งประธานาธิปดีได้พอดี และด้วยความที่กฏหมายของ ฟิลิปปินส์ ทำให้ไม่สามารถเสนอชื่อ ดูแตร์เต ซ้ำได้ ปาเกียวจึงหมายมั่นปั้นมือว่าเขาจะถูกเสนอชื่อจากพรรคในฐานะแคนดิเดตประธานาธิปดีคนต่อไป ปาเกียวถึงกลับประกาศแขวนนวมในปีนั้น พร้อมลั่นวาจาว่าจะกลับไปช่วยประเทศบ้านเกิดอย่างเต็มตัวด้วยการลงสมัครในตำแหน่งประธานาธิปดี 
 
แต่ความเป็นจริงกลับไม่สวยหรูเช่นนั้น เพราะถ้าคุณจะส่งไม้ต่อให้ใครซักคนในระบบการเมือง คุณก็ต้องเลือกคนที่คุณมั่นใจว่าเขาจะไม่เล่นงานคุณย้อนหลัง จากสิ่งที่คุณอาจเคยทำพลาดไปตอนดำรงตำแหน่ง และคนนั้นคงจะไม่มีใครที่คุณจะเชื่อได้มากไปกว่าคนในครอบครัว แคนดิเดตของพรรคในตอนแรกจึงกลายเป็น ซารา ดูแตร์เต ลูกสาวแท้ๆ ของ ดูแตร์เต เอง ทำให้เกิดรอยร้าวระหว่างพรรคและ ปาเกียว นำไปสู่การย้ายขั้ว ทำให้ปาเกียวที่เคยได้รับความนิยมมาตลอดจากชื่อเสียงในฐานะนักมวย ถูกพิษของการเมืองเล่นงานเข้าอย่างจัง ปาเกียว ต้องลงสมัครแข่งกับพรรคเก่าของตัวเอง ที่ภายหลังเปลี่ยนเอา มาร์กอส จูเนียร์ ทายาทผู้นำเผด็จการที่มีฐานความนิยมเป็นของตัวเองไม่น้อย ลงชิงตำแหน่ง ประธานาธิปดี ควบคู่กับ ซารา ดูแตร์เต ลงตำแหน่ง รองประธานาธิปดี กลายเป็นการผนึกขั้วทางการเมืองที่แข็งแกร่งมาก
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/4JNKVDPXPYIAroNWvCffCV/0fdd0cd55dc9181cbbde4442447f9d1e/Manny-Pacquiao-Senator-SPACEBAR-Photo03
และเมื่อไม่มีมหาอำนาจคอยหนุนหลัง สถานการณ์ก็กลับตารปัด ปาเกียว อยู่ในสถานะตกปล่อง ครึ่งๆ กลางๆ จะชูนโยบายปราบโกงกินจากนักเมืองเก่าแก่ ก็โดนตั้งคำถามจากสังคมเพราะเคยอยู่ขั้วเดียวกับนักการเมืองเหล่านั้นมาก่อน แถมอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับคือการศึกษาของปาเกียว ไม่เพียงพอที่จะต่อกรกับนักการเมืองมืออาชีพที่สืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่น เขาถูกโจมตีเรื่องความคิด ความรู้ บ่อยครั้ง ทั้งจาก ดูแตร์เตเอง และประชาชนทั่วไปก็ตาม จนสุดท้าย มาร์กอส จูเนียร์ก็ได้รับการเลือกตั้งด้วยชัยชนะแบบแลนสไลด์ถล่มทลาย ส่วนปาเกียวได้คะแนนโหวตเพียงแค่ สี่ล้านกว่าเสียง ได้อันดับ 3 เท่านั้น ปาเกียว พ่ายแพ้นอกสังเวียนอีกครั้งแบบหมดรูป แต่ถ้าหากเปรียบอายุของเส้นทางการเมืองกับอายุนักมวย ในวัย 43 ปีเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเส้นทางนักการเมืองเท่านั้น เส้นทางของเขายังอีกยาวไกลมีโอกาสให้สั่งสมประสบการณ์และความรู้ได้อีกมาก แถมในอีกด้านแม้จะอยู่ในช่วงปลายของอาชีพนักมวยแล้ว ปาเกียวก็ยังจะมีคิวขึ้นชกกับยอดมวยไทยอย่างบัวขาวในช่วงต้นปีหน้า แสดงให้เห็นว่าไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับ แมนนี ปาเกียว ไม่ว่าจะพ่ายแพ้ในหรือนอกสนาม เขาก็คงจะเดินหน้าลุยต่อ เหมือนที่เขาเคยทำบนเวทีมวยให้คนทั้งโลกได้เห็นมาแล้ว

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์