ปีศาจแดงยุคใหม่ !! ขวบปีที่ 2 ของ เอริค เทน ฮาก

10 สิงหาคม 2566 - 10:19

Manu-Ten-Hag-Project -SPACEBAR-Thumbnail
  • เจาะความพร้อมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อนที่ฟุตบอลอังกฤษจะกลับมาระเบิดเปิดศึกกันในอีกไม่กี่วัน การเสริมทัพในขวบปีที่สองของ เอริค เทน ฮาก จะพาปีศาจแดงกลับมาครองความยิ่งใหญ่ได้หรือไม่ ?

แม้สอบผ่าน…แต่ยังไม่เพอร์เฟ็ค 

ขวบปีแรกบนเมืองแมนเชสเตอร์ของกุนชือดัตช์แมน จัดว่าอยู่ระดับน่าพึงพอใจ แม้จะไม่ได้เลิศเลอเพอร์เฟ็ค แต่กับสไตล์การเล่นที่เริ่มชัดเจนมากขึ้น ครองเกมขโยกเหล่าทีมสมันน้อยได้จมเขี้ยวมากขึ้น บวกด้วยผลงานตามเป้าหมายอย่างการติดท็อปโฟว์ และน้ำจิ้มอย่างการคว้าถ้วยลีกคัพมาครอง ก็ทำให้ศรัทธาในตัวของ เอริค เทน ฮาก เพิ่มพูนขึ้นหลายขั้น 

แต่หากจะมีสิ่งหนึ่งที่ยังเห็นได้ชัดว่ามีช่องว่างให้พัฒนาเพิ่มเติมได้อีก คือฟอร์มของเกมเยือน ที่ยังไม่สม่ำเสมอและเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม โดยเฉพาะเวลาทัพปีศาจแดงมีอันต้องพานพบกับบรรดาทีมใหญ่ การออกไปแพ้คู่แข่งตลอดกาลอย่างลิเวอร์พูลโดยโดนกระซวกถึง 7 ดอก สร้างสถิติตลอดกาลอันไม่น่าจดจำ การออกไปโดนเพื่อนบ้านผู้น่ารำคาญกระทุ้งถึง 6 เม็ด แถมพ่ายซ้ำอีกครั้งในรอบชิงฟุตบอลเอฟเอคัพ และการออกไปพ่ายเซบีญ่าจนตกรอบถ้วยยูโรปาอย่างน่าเสียดาย ดังนั้นในขวบปีที่ 2 นี่คือสิ่งที่เทนฮากต้องพัฒนาให้ได้ เพราะการที่คุณจะประสบความสำเร็จ การเก็บชัยชนะจากคู่แข่งระดับเดียวกันย่อมเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ 

จิตใจย่ำแย่…ต้องแก้ให้เด็ดขาด 

ซึ่งอีกสาเหตุที่เรามักได้เห็นสะท้อนออกมาจากการแพ้เกมเยือน และเกมใหญ่ คือสภาพจิตใจของนักเตะอันย่ำแย่ที่แสดงออกมาบ่อยครั้งด้วยภาษากายต่างๆ ซึ่งมันมีผลอย่างมากเวลาคุณไปเยือนสนามที่เต็มไปด้วยกองเชียร์เจ้าบ้าน หรือเจอบรรดาทีมใหญ่ๆ ในเกมใหญ่ๆ ที่ลำพังแค่วิธีการและฝีเท้าเพียวๆ อาจจะเอาไม่อยู่ จิตวิทยาที่ดีของนักเตะก็เป็นสิ่งสำคัญ  

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหาใช่ความผิดของ เอริค เทน ฮาก แต่อย่างใด เพราะก่อนเขาเข้ามาคุมทีม สถิติเกมเยือนของผีแดงอยู่ในขั้นย่ำแย่ไม่ชนะใครมา 6 เกมติดอยู่แล้ว แต่นั่นแสดงให้เห็นว่ามันคือปัญหาที่หยั่งรากลึก และเทนฮากก็รู้ดีว่ามันต้องการวิธีแก้ไข 

“สิ่งที่เราต้องทำ คือเรื่องของตัวตนของนักเตะ คาแรคเตอร์เฉพาะของนักเตะแต่ละคน คืออะไรที่เราต้องการยกระดับและเผชิญหน้ากับมัน” 

“สำหรับผม มันไม่มีความแตกต่าง สนามมันก็ขนาดเท่ากันทุกที่ มีกรรมการ 3 คน ผู้ช่วยที่ 4 อีกคน ลูกบอลก็ทรงกลมมีลมอยู่ข้างในเหมือนกันทุกลูก” 

“ดังนั้น เราต้องลงเล่นและทำให้เกมมันเป็นของเรา และการชนะเกมเยือนหรือเกมกับทีมใหญ่ คือก้าวต่อไปที่เราต้องทำให้สำเร็จ” 

แม้ประโยคเหล่านี้ของเทนฮากอาจจะทำให้สื่อเอาไปโจมตีต่างๆ นาๆ เพราะหลังจากพูดแล้วบุกไปพ่ายลิเวอร์พูลยับเยิน แต่ถ้าเราตัดเรื่องราวเหล่านั้นออก เราจะสัมผัสได้ว่าปรัชญาของกุนซือชาวดัตช์ที่น่าในใจคือเขาไม่เชื่อในเกมเยือนเกมเหย้า และมุ่งมั่นจะทำให้ทีมของเขาลงไปเล่นในรูปแบบของทีมให้ได้ในทุกเกมๆ ซึ่งมันก็ต้องการสภาพจิตใจของนักเตะในระดับเยี่ยมยอด 

เสริมทัพแบบฉบับ…เทนฮาก 

https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/2hK6lebfJvS0jz8ud1AZVP/f7bafbd7b2e4cdaf26d831a2a9fdf0be/Manu-Ten-Hag-Project_-SPACEBAR-Photo01
การจากลาของผู้รักษาประตูระดับตำนานอย่าง เด เกอา แน่นอนว่ามันนำมาสู่การตั้งคำถามต่อสโมสร และตัวตายตัวแทนอย่าง อังเดร โอนาน่า ที่โดนจับตาจากแฟนบอลบางส่วน แถมในเกมพรีซีซั่นเจ้าตัวยังพึ่งพลาดถูกยิงระยะครึ่งสนามจากสไตล์การเล่นที่มักจะออกมาดันสูงแบบที่ เทน ฮาก ต้องการ ซึ่งจริงๆ แล้ว มันเกิดจากความผิดพลาดของ ดาโลต์ ที่จ่ายบอลเสีย 

เพราะหากตัดอคติออกไป เราจะเห็นได้ว่าจากเกมพรีซีซั่นสิ่งที่ผู้รักษาประตูชาวแคมเมอรูน แสดงให้เราได้เห็นคือการเล่นของผู้รักษาประตูสมัยใหม่ที่ เทน ฮาก ต้องการ การใช้เท้าอันแม่นยำ เซนส์ความเข้าใจในการขึ้นบอลของระบบแบบเทนฮากที่อยู่ในระดับที่มากกว่านักเตะชุดปัจจุบันเนื่องจากเคยร่วมงานกันมาตั้งแต่สมัยอาแจกซ์  

และที่สำคัญภาพการสั่งการอันดุเด็ดเผ็ดร้อน กล้าปรี่เข้าไปตะคอกอดีตกัปตันอย่าง แฮรี่ แมกไกวร์ ที่ทำพลาด ที่แฟนผีอาจไม่ได้เห็นมานานตั้งแต่สมัย ยักษ์เดนส์ ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล ยืนเฝ้าเสา หรือจะเป็นการยืดอกยอมรับผิดกับลูกยิงครึ่งสนามทั้งๆ ที่อาจจะไม่ใช่ความผิดของเขาขนาดนั้น ทั้งหมดทั้งมวลมันก็สะท้อนได้ดีถึงสภาพจิตใจอันเข้มแข็งและตัวตนอันแข็งแรงที่เทน ฮาก ต้องการจากนักเตะของเขา ซึ่ง อังเดร โอนาน่า ก็เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์หลายๆ ข้อได้อย่างดี 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/kRmKpYNLyrDzlpP1qbK21/019af778f0cc69cc55efa18b5358c049/Manu-Ten-Hag-Project_-SPACEBAR-Photo02
หากคุณเป็นคนที่ดูฟุตบอลแบบไร้อคติ คงไม่มีใครกังขาในฝีเท้าของ เมสัน เมาท์ อีกแล้วจากผลงานประจักษ์ตาในปีที่เจ้าตัวแจ้งเกิดขึ้นมากับ เชลซี เซนส์ฟุตบอลสมัยใหม่ในระดับสูงที่เข้าใจทั้งการเล่นเกมรุกเกมรับ ฝีเท้าก็จัดอยู่ในระดับที่ยอดเยี่ยมไม่ว่าจะเป็นการจ่ายบอล ไปกับบอล หาพื้นที่ หรือยิงประตู เป็นกองกลางที่จะเข้ามาเติมเต็มในโควตา ของ คริสเตียน อิเร็คเซ่น ที่โรยราเต็มที และ ส่งผลให้กัปตันทีมคนใหม่อย่าง บรูโน่ เฟอร์นานเดส เล่นได้ง่ายขึ้น แต่ปัญหาเดียวเลยที่แฟนๆ อาจจะเกิดข้อสงสัย คือฟอร์มเจ้าตัวในช่วงปีล่าสุดกับเชลซีที่รูดกราวจนน่าใจหาย ทั้งจากอาการบาดเจ็บและหมดแรงจูงใจ กับทีมที่มีปัญหาเรื่องสภาพจิตใจอยู่แล้วอย่างแมนยู เราจะเผชิญหน้ากันสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับ ซานโช่ หรือ ฟาน เดอะ เบค อีกครั้งหนึ่งหรือไม่ 

ประการแรกคือ เมสัน เมาธ์ ลาจากเชลซีมาเพราะหมดแรงจูงใจในบางสิ่ง และต้องการหาความท้าทายใหม่ในเส้นทางฟุตบอลฟอร์มตกลงไปและมีความต้องการพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง ซึ่งมันสอดคล้องไปกับสถานการณ์ในทีมที่แมนยูในตอนนี้กำลังฟื้นฟูตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง ต่างจากตัวดอนนี่ และ ซานโช่ ย้ายมาในขณะที่ทั้งคู่ฟอร์มพีค มาเจอกันแมนยูในยุคที่ปัญหาอยู่ในช่วงคาราคาซัง มันคือช่วงของการฟื้นฟูซากปรักหักพังที่อยู่ในสเตจของการประเมินความเสียหายเลยด้วยซ้ำเรียกว่าหาแผลหาต้นตอกันอยู่เลย ทำให้ความมั่นใจของทั้งคู่ที่มีมาเต็มเต็มเปี่ยมค่อยๆ ถูกทำลายลงจนเป็นอย่างที่เห็นในที่สุด ส่วนประการที่ 2 ที่บางคนอาจจะยังไม่ทราบคือสิ่งที่ทำให้ เมสัน เมาท์ โดดเด่นขึ้นมาจากเพื่อนๆ ในรุ่นเดียวกันตั้งแต่สมัยยังเป็นผู้เล่นเยาวชน คือความเป็น “Mentality Monster” ขนาดที่โค้ชเยาวชนบอกว่าการที่จะทำให้เม้าท์หยุดซ้อมคือคุณต้องลากเขาออกมาจากสนาม เรียกได้ว่าทัศนคติอันยอดเยี่ยมคือสิ่งแรกที่โค้ชแทบทุกคนที่ได้ร่วมงานพูดถึงเขาเลยก็ว่าได้  
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/iDLETk91CTSkxe4XRup2j/8f6c386fa91388ab861d62dfe86a0b6d/Manu-Ten-Hag-Project_-SPACEBAR-Photo03
การสอย ราสมุส ฮอยลุนด์ กองหน้าร่างยักษ์วัยแค่ 20 ปี ที่ยังไม่ได้มีสถิติทำประตูกระฉูดแตกอะไรด้วยค่าตัวถึง 85 ล้านยูโร ย่อมทำให้ใครหลายคนตั้งคำถามต่อการตัดสินใจของ เอริก เทน ฮาก แต่อย่างที่อจจะได้เห็นจากสเปคของนักเตะ 2 คนด้านบนแล้ว อีกสิ่งที่เป็นจุดเด่นนอกจากสภาพร่างกายอันเหนือมนุษย์ที่ทั้งแกร่งและเร็วคือ “สภาพจิตใจ” เพราะเราเปิดประวัติก็จะพบได้เลยว่า ฮอยลุนด์ คือ นักเตะประเภทแบบเดียวกับ เมาท์ ที่คำชมของบรรดาแมวมองและโค้ชที่ไปเจอเขา ไม่ใช่ว่าเขามีทักษะหรือพรสวรรค์เหนือใคร แต่ทัศคติของการทำงานหนักที่โดดเด้งออกมาจากเด็กรุ่นเดียวกันต่างหากคือสิ่งที่ทำให้เขาถูกเลือก 

และมันก็สอดคล้องกับสไตล์การเล่นของ เทน ฮาก ที่หน้าเป้าในอุดมคติของกุนซือรายนี้ ต้องมีลักษณะเฉพาะตัว เราจะเห็นได้จากสไตล์การเล่นของศูนย์หน้าที่เคยเป็นตัวจบอย่าง เว้าท์ เวิร์กฮอร์ส ที่เคยได้ผลไม่น้อยในฤดูกาลที่ผ่านมา ศูนย์หน้าที่ต้องทุ่มเท เข้าใจระบบ สามารถพักบอล และเปิดทางให้แนวรุกสปีดจัดจ้านทั้งซ้ายขวาทำประตู ซึ่งขนาด เวิร์กฮอร์ส ที่ต้องปรับตัวมาเล่นมายังส่งผลให้ทีมไปได้ไกลถึงการคว้าแชมป์ แล้วแนวรุกวัย 20 ปีที่คุณสามารถติดตั้งระบบเข้าไปใหม่ตั้งแต่แรก กับสภาพร่างกายและสภาพจิตใจที่อยู่ในระดับตรงตามสเป็คทุกอย่างแบบนี้ ฮอยลุนด์ จะพัฒนาการไปได้ไกลขนาดไหนถ้าหากอะไรเข้าที่เข้าทาง ก็นับว่าเป็นเรื่องที่น่าติดตามชม 

สุดท้ายนี้การที่ทีมมีปัญหาในการเผชิญหน้ากับทีมใหญ่ แม้ผลการแข่งขันในเกมเหล่านั้นอาจจะออกมาดูแย่ แต่จากตัวเลขสถิติอันเป็นรูปธรรมที่พัฒนาขึ้นในทุกด้าน มันก็พอจะอธิบายได้ว่าสิ่งที่ เทน ฮาก กำลังทำคือการยึดมั่นในสไตล์การทำทีมของเขา หาใช่การปรับแทคติคฉาบฉวยเพื่อเอาตัวรอดไปในแต่ละเกม เขาต้องการให้ลูกทีมเล่นในรูปแบบของตัวเองให้ได้ไม่ว่าจะเจอคู่ต่อสู้แบบใด มันจะมีพลาดพลั้งบ้างในบางเกม แต่ถ้ากุนซือชาวดัตช์ผู้นี้ทำได้ มันจะกลายเป็นระบบที่นำมาสู่ความสำเร็จระยะยาวที่แฟนๆ ถวิลหาได้อย่างแน่นอน  

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์