เจาะจุดเด่น ‘ไรอัน กราเวนเบิร์ช’ กองกลางเป้าหมายใหม่หงส์แดงหลังดีล ‘จู๊ด’ ส่อแววล่ม

18 เม.ย. 2566 - 08:33

  • ถือว่าเป็นข่าวช็อคตาตั้งบรรดาเดอะค็อปส่งท้ายสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังมีรายงานว่าสโมสรลิเวอร์พูลถอนตัวออกจากดีลกองกลางเลือดผู้ดีของเสือเหลืองอย่าง ‘จู๊ด เบลลิ่งแฮม’ เนื่องจากมองว่ามีราคาสูงเกินไป

  • ทำให้บรรดาชื่อของผู้เล่นกองกลางมากมายทั่วโลกถูกบรรดาสื่อยกมาเชื่อมโยงไปยังสโมสรสีแดงแห่งลุ่มแม่น้ำเมอซี่ไซด์อีกครั้ง ซึ่งหนึ่งในชื่อที่มาแรงที่สุดในตอนนี้ก็คือกองกลางชาวเนเธอร์แลนด์สังกัดเสือใต้อย่าง ‘ไรอัน กราเวนเบิร์ช’

  • ซึ่งถ้าจะให้วิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ในการคว้าตัวในตอนนี้ก็อาจจะยังเร็วไปสักหน่อยกับสถานการณ์ที่ยังคงเปิดกว้างอยู่ เราจึงขอนำข้อมูลจุดเด่นจุดจุดด้อยของมิดฟิลด์รายนี้มาเรียกน้ำย่อย ให้แฟนหงส์จินตนาการ ให้จิตใจกระชุ่มกระชวยก่อนตลาดเปิด

Ryan-Gravenberch-liverpool-SPACEBAR-Thumbnail

รับได้ รุกเด่น เล่นฉลาด 

ถ้าให้เกริ่นภาพรวมของสไตล์การเล่นสมัยที่ ไรอัน กราเวนเบิร์ช โด่งดังขึ้นมากับอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม นี่คือมิดฟิลด์บ็อกซ์ทูบ็อกซ์ ที่ถูกขนานนามว่า “นิวพอกบา” โดดเด่นที่สุดคือการไปกับบอลที่เนียนตา เรามักจะได้เห็นกราเวนเบิร์ชควบบอลตะบึงทำเกมรุกเข้าเขตโทษคู่แข่ง จ่ายบอลคีย์พาสในจังหวะสำคัญที่นำไปสู่การทำประตูของทีม ยิงประตูนอกกรอบเขตโทษได้ดี ทั้งลูกปั่นเล่นทาง และลูกไฟที่ต้องอาศัยความแรงเข้าว่าก็มีให้เห็น ที่สำคัญคือแม้จะถนัดเท้าขวา แต่ถ้าจังหวะเหมาะสมก็เล่นได้ทั้งสองเท้า นอกจากนี้ยังมีความเร็วไม่น้อยสำหรับผู้เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ 
 
ในด้านเกมรับเจ้าตัวก็ทำได้อย่างไม่บกพร่อง แม้จะไม่ได้โดดเด่นขนาดมิดฟิลด์ตัวรับธรรมชาติ แต่ก็ทดแทนด้วยระเบียบวินัยในเกมรับทั้งความเข้าใจ การยืนตำแหน่ง ซึ่งเกิดจากการเติบโตมาในอคาเดมี่ฟุตบอลสมัยใหม่ที่ปลูกสร้างให้นักฟุตบอลเพียบพร้อมในทุกด้าน แถมด้วยสรีระที่สูงกว่า 190 ซม. ทำให้เจ้าตัวโดดเด่นไม่แพ้ใครในลูกกลางอากาศ 
 
ส่วนจุดด้อยที่เห็นได้ชัดเจนคือเจ้าตัวมีสถิติในการเสียบอลสูงกว่ากองกลางทั่วไปอยู่บ้างจากการที่มักพาบอลควบใส่คู่แข่ง และอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างเทิร์นโอเวอร์ที่นำมาสู่การเสียประตูของทีมได้ อีกสิ่งหนึ่งที่อาจจะไม่ใช้จุดด้อยแต่ก็มองว่าช่องว่างที่พัฒนาได้ คือบอลยาวในระดับข้ามฟากหรือเปลี่ยนแกน ที่เราจะไม่ค่อยได้เห็นมากนัก เพราะสไตล์กราเวนเบิร์ชจะเป็นการจับจ่ายง่ายๆ และพุ่งขึ้นไปเอาบอลเพื่อต่อเกมรุกเพื่อจ่ายคีย์พาสบริเวณกรอบเขตโทษเพื่อนำไปสู่ประตูมากกว่า ซึ่งถ้าเพิ่มบอลยาวเข้ามาสำเร็จก็เรียกได้ว่าจะกลายเป็นกองกลางที่ครบเครื่องคนหนึ่งเลยทีเดียว 
 
ถ้าหากลำพังแค่ข้อมูลเปล่าๆ อาจจะยังไม่ได้ยืนยันความสามารถของ ไรอัน กราเวนเบิร์ช เพียงพอ เราจึงขอยกข้อความจากบรรดานักฟุตบอลชื่อดังมากมายพูดที่เคยถึงกองกลางรายนี้มาการันตีเพิ่มเติม 
 
“กราเวนเบิร์ช คือกองกลางที่มีความแข็งแกร่ง สมรรถภาพร่างกายยอดเยี่ยม อุดมไปด้วยเทคนิค และรูปร่างสูงชะลูด” 
 
“เรียกได้ว่ามันมีบางอย่างคล้ายๆ กับเขา (พอล พ็อกบา) แต่เราไม่อยากจะกดดันอะไรอันมากนัก อย่าลืมว่าเขายังเป็นเจ้าหนูจากปี 2002 เท่านั้น” 
 
นี่คือหนื่งในตัวอย่างคำพูดที่ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ อดีตผู้รักษาประตูระดับตำนานของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยกล่าวไว้ นอกจากนี้ เอริค เทน ฮาก ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และอดีตเฮดโค้ชของ อาแจ็กซ์ ที่เป็นผู้ปลุกปั้นกราเวนเบิร์ชอีกคนหนึ่ง ก็ได้กล่าวถึงมิดฟิลด์รายนี้ไว้ว่า 
 
“เขามีความสามารถมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของเกมรุก … แต่เขาก็เข้าใจ 'งานอื่นๆ ' ในสนามได้ดีขึ้นเรื่อยๆ”  
 
“เขากำลังเข้าใจมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าฟุตบอลระดับสูงเกี่ยวข้องกับอะไร นั่นคือการมองตัวเองน้อยลง เล่นเพื่อทีมให้มากขึ้น หากคุณขึ้นอยู่ในทีมชุดใหญ่ คุณต้องสลัดความคิดเด็กๆ ในตัวออกไป ซึ่งเขาได้ทำมันสำเร็จไปแล้ว” 

แม้ปัจจุบันการที่กราเวนเบิร์ชเลือกย้ายไปที่ บาเยิร์น มิวนิค จะส่งผลให้เราไม่ได้เห็นฟอร์มของกองกลางคนนี้มากนัก ซึ่งก็อาจจะเป็นเพราะความเอนกประสงค์ของเจ้าตัว เมื่อย้ายมาอยู่ในทีมเสือใต้ที่อุดมไปด้วยแดนกลางชั้นอ๋องมากมาย จึงถูกปรับมาเป็นมิดฟิลด์ที่คอยเป็นสำรองแสตนบายในการลงมาเล่นเกมรับเสียส่วนมาก ซึ่งเจ้าตัวก็เล่นได้ตามหน้าที่ไม่ได้โดดเด่นมากนัก 
 
แต่เหนือสิ่งอื่นใดตอนนี้กราเวนเบิร์ชมีอายุเพียงแค่ 20 ปีเท่านั้น เท่ากับแม้จะไม่เปรี้ยงกับเสือใต้ แต่ก็ยังเหลือเวลาอีกมากให้เจ้าตัวเค้นฟอร์มเก่าๆ ออกมา และช่องว่างที่จะพัฒนาให้ดีขึ้นไปอีกมาก ซึ่งจะเห็นได้ว่านักเตะสเปคแบบนี้ คือมาตรฐานนักเตะที่เยอร์เกน คล็อปป์ กุนซือหงส์แดงใช้ตัดสินใจเซ็นผู้เล่นมาตลอด  
 
และที่สำคัญการขยับขึ้นมามีอิทธิพลในเชิงแทคติกแบบมากขึ้นอย่างชัดเจนของผู้ช่วยโค้ชลิเวอร์พูลคนปัจจุบันอย่าง เป๊ป ลินเดอร์ส การที่เขาได้นักเตะสัญชาติเนเธอร์แลนด์ที่เป็นประเทศเดียวกัน ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันกลายมาเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ผู้เล่นจากเนเธอร์แลนด์ปรับตัวได้ไวขึ้น ไม่ว่าจะเพราะภาษา ความเข้าใจวิถีชีวิต นิสัยนอกและในสนาม หรือ กระทั่งความเชี่ยวชาญในการมองผู้เล่นจากลีกบ้านเกิดที่ลินเดอร์สมีอยู่เป็นทุนเดิมก่อนจะเลือกนักเตะเข้ามา ก็ทำให้เห็นได้ชัดเจนจาก โคดี้ กัคโป ที่แม้จะมาในช่วงที่ทีมกระท่อนกระแท่น แต่ก็เข้าใจแทคติกของ คล็อปป์ และ ลินเดอร์ส ได้อย่างรวดเร็วจนกลายมาเป็นแกนหลักตัวจริงในแนวรุกไปแล้ว  
 
สุดท้ายนี้อีกปัจจัยที่สำคัญ คือราคาค่าตัวของกราเวนเบิร์ช หากย้ายตัวในซัมเมอร์ที่จะถึงนี้ เจ้าตัวจะมีราคาประเมินอยู่ที่หลัก 20 ล้านปอนด์เท่านั้น ซึ่งจากการที่ลิเวอร์พูลยอมแพ้ในดีลของ จู๊ด เบลลิ่งแฮม ที่คาดว่าราคาจะสูงแตะหลัก 100 ล้านปอนด์ขึ้นไปแน่ๆ ก็แสดงให้เห็นว่าในตลาดรอบนี้ ราคานักเตะคือสิ่งที่ผู้บริหารหงส์แดงให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งจากข้อมูลเชิงสถิติตัวเลขผลงานในปีที่ดีสุดของ กราเวนเบิร์ช เมื่อนำมาเทียบกับ เบลลิ่งแฮม นั้น ตัวเลขทั้งหมดในเชิงรุกและรับออกมาในทิศทางเดียวกันหรือเรียกได้ว่าเป็นผู้เล่นไสตล์เดียวกัน แม้กราเวนเบิร์ชอาจจะด้อยกว่าประมาน 20 เปอเซ็นต์ แต่ถ้าหากเทียบราคาจะเห็นได้ว่าถูกกว่ามาก ดังนั้นถ้าหากได้ราคานี้จริง ไรอัน กราเวนเบิร์ช จึงนับว่าเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับหงส์แดง ก็ต้องมาดูกันว่า หากได้ตัวมาจริงๆ มันสมอง และสองมือของคล็อป กับ ลินเดอร์ส จะช่วยปลุกปั้นจนทดแทนช่องว่างระดับ 100 ล้านปอนด์นั้นได้หรือไม่

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์