ไขสูตรลับความสำเร็จ: ทำไม โธมัส ทูเคิ่ล ถึงพาเชลซีคว้าถ้วยบิ๊กเอียร์ได้ภายในเวลาไม่ถึง 5 เดือน

16 มกราคม 2566 - 03:20

Thomas-Tuchel-key-success-to-Chelsea-UCL-winners-SPACEBAR-Thumbnail
  • โธมัส ทูเคิ่ล หนึ่งในโค้ชที่แฟนๆ เชลซี รักมากที่สุดไม่น้อยไปกว่า โชเซ่ มูรินโญ่ จากความสำเร็จที่เขาทำไว้ด้วยการเสกให้ทีมก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ได้ภายในระยะเวลาไม่ถึง 5 เดือน จากสภาพทีมที่อาการไม่ค่อยดีเลยตอนเขาเข้ามารับงาน

วันที่ 7 กันยายน 2022 คือวันสุดท้ายในการทำงานของ โธมัส ทูเคิ่ล กับบทบาทเฮดโค้ชของหนึ่งในสโมสรที่เขาพูดออกมาว่ารักมากที่สุดตั้งแต่เริ่มเส้นทางอาชีพนี้มาอย่าง เชลซี ทำให้กลายเป็นวันที่สิ้นสุดยุคของ โรมัน อบราโมวิช อย่างเป็นทางการ 

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าครั้งหนึ่งยอดโค้ชชาวเยอรมันคนนี้ เคยทำให้แฟนบอลสิงห์บลูหัวใจพองโตแบบสุดๆ เมื่อเขาก้าวเข้ามารับไม้ต่อจาก แฟรงค์ แลมพาร์ด ในช่วงกลางฤดูกาล 2020-21 แล้วพาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ได้อย่างยิ่งใหญ่ในแบบที่แฟนบอลเองก็ไม่คิดว่าจะทำได้ 

ตัดภาพมาที่สถานการณ์ปัจจุบันของทีมกับเฮดโค้ชที่เข้ามารับไม้ต่อจากเขาอย่าง แกรห์ม พอตเตอร์ ที่ดูจะเป็นการคาดหวังจาก ท็อดด์ โบห์ลี่ย์ เจ้าของทีมคนใหม่ว่า ชายผู้นี้คืออนาคตอันยาวไกลของสิงโตแห่งเวสท์เอนด์ แต่ในวันนี้ดูเหมือนมันจะเริ่มห่างไกลภาพที่จินตนาการออกไปทุกทีแล้ว ด้วยผลงานที่เมาหมัดมาต่อเนื่องตั้งแต่ก่อนเริ่มฟุตบอลโลก มาจนจบฟุตบอลโลกก็ยังไม่มีวี่แววจะหายมึน หลังพิงเชือกชนิดที่ว่าโดนเสยคางอีกรอบก็น่าจะนับถึง 10 แน่ๆ 

แฟนบอลเริ่มกลับมาตั้งคำถามแล้วว่าทีมตัดสินใจพลาดใช่ไหมที่ปลด ทูเคิ่ล ‘เร็วเกินไป’ ความคิดถึงทั้งโค้ชและเจ้าของทีมคนเก่าทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ ในกลุ่มแฟนบอล จนในแมตช์ที่บุกไปแพ้ฟูแล่ม 2-1 เมื่อวันที่ 13 มกราคม แฟนสิงห์บลูในสนามถึงขั้นตะโกนชื่อ โรมัน อบราโมวิช และ โธมัส ทูเคิ่ล กันแล้ว 

จากทีมอันดับ 1 ของโลกที่ใครๆ ต่างก็บอกว่าเจอเชลซีแล้วลำบากแน่ เพราะเล่นด้วยยากหากอยากจะเอาชนะ กลายเป็นทีมกลางตารางที่ทีมไหนก็ไม่กลัวอีกต่อไปแล้ว ตอนนั้นทูเคิ่ลใช้สูตรไหนทีมถึงขึ้นไปอยู่จุดนั้นได้ วันนี้เราเลยจะพาทุกคนไปย้อนดูความสำเร็จ ว่าเพราะอะไรทำไมเขาจึงเข้ามาทำภารกิจที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ให้กลายเป็นเรื่องจริงด้วยเวลาอันน้อยนิด ติดตามไปพร้อมๆ กันได้เลย 

ยอดเฮดโค้ชที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด 

ย้อนกลับไปตั้งแต่ตอนที่เขาเริ่มทำงานนี้เต็มตัวครั้งแรกในเยอรมันกับ ไมนซ์ ก่อนที่จะก้าวมาเป็นยอดโค้ชในทุกวันนี้ โธมัส ทูเคิ่ล คือคนที่ใส่ใจตั้งแต่เรื่องใหญ่ ๆ ไปจนถึงเรื่องเล็ก ๆ ที่ใครก็ไม่คิดว่าเขาจะต้องทำอย่างเรื่อง ‘สนามหญ้า’
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/4RicG2O96gx1zD3JWp00GM/cd3acb537947435c435619acbf5de4f5/Thomas-Tuchel-key-success-to-Chelsea-UCL-winners-SPACEBAR-Photo01
Photo: AFP
“เราอยู่ในแคมป์ฝึกซ้อมในออสเตรีย เพื่อเตรียมพบกับ โอลิมเปียกอส โธมัสมองดูสนามหญ้าแบบจดจ่อ เขากำลังวัดความสูงของหญ้า เขาตื่นเต้นกับสนามนี้มากจนอยากให้ผมเอาคนดูแลสนามนี้ไปทำงานที่ ไมนซ์ พอวันรุ่งขึ้น คนดูแลสนามโทรมาหาผมและพูดว่า: 'ผมได้ยินมาว่าเรากำลังจะคุยกันเรื่องสัญญา' ซึ่งถึงดีลนี้จะไม่เกิดขึ้น แต่มันแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นคนชอบความสมบูรณ์แบบ” คริสเตียน ไฮเดิล ผู้อำนวยการกีฬาของไมนซ์ ให้สัมภาษณ์กับ เดอะ การ์เดียน ถึงความละเอียดแม้กระทั่งเรื่องเล็ก ๆ ของ โธมัส ทูเคิ่ล 

พอมาถึงตอนที่เขาได้รับตำแหน่งกับ เชลซี เมื่อเดือนมกราคม 2021 ถ้าจะบอกว่าคุณภาพทีมในตอนนั้นสามารถกลับมาจบท็อปโฟร์ใน พรีเมียร์ลีก เพื่อคว้าตั๋วไปเล่นยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก หรือการคว้าโทรฟี่สักถ้วยได้สำเร็จคงจะเป็นอะไรที่ดูยากมาก ๆ ไม่ก็คงโดนหาว่าบ้าแน่ ๆ  

เพราะสิงห์บลูตอนนั้นขาดทั้งความเชื่อมั่นในตัวเอง ความคิดของการเป็นแชมเปียน รวมไปถึงคงจะไม่สามารถต่อกรกับทีมอย่าง เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า, บาเยิร์น มิวนิค, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล เพื่อคว้าชัยชนะในทุกรายการได้แน่นอน สิ่งแรกที่ควรทำเลยคือการพัฒนาจิตใจในเกมการแข่งขัน ทีมจำเป็นต้องคิดถึงชัยชนะทุกครั้งที่ลงเล่น ซึ่งนั่นเป็นจุดที่ทูเคิ่ลคิดและลงมือทำเป็นอย่างแรกกับทีมใหม่ของเขา 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/2meNbdTweFXNRYKTKeCaAr/e93e53406a98ebfe2d1a74ac38bcf041/Thomas-Tuchel-key-success-to-Chelsea-UCL-winners-SPACEBAR-Photo02
Photo: AFP
“ทั้งหมดมันเป็นความพยายามของทีมเสมอ เราพยายามอย่างหนักเหมือนกับทีมอื่นๆ เพื่อให้ประสบความสำเร็จมากที่สุด มันรู้สึกถูกต้องที่สุดที่เราอยู่ที่นี่ตอนนี้ และนั่นคือสิ่งที่ผมมีความสุขมาก งั้นเราก็ทำต่อไป ผมพยายามดึงสิ่งที่ดีที่สุดในตัวเองออกมาทุกวัน พวกเรามีนัดชิงชนะเลิศใหญ่สองนัดแล้ว และอีกสามนัดใหญ่ในลีก” ทูเคิ่ล ให้สัมภาษณ์หลังพาทีมเข้าชิงบอลถ้วยทั้งสองรายการ ทำให้เห็นว่าเขาเริ่มจากตัวเองและถ่ายทอดสิ่งเหล่านี้ให้กับลูกทีม 

ส่วนเรื่องของแทคติกทุกคนคงจะเห็นมาตลอดว่าเชลซีในยุคของ แฟรงค์ แลมพาร์ด เป็นทีมที่ถึงจะบุกสนุก มีเกมรุกดุดัน แต่พอมองมาที่เกมรับ การเสียประตูง่ายก็คือเรื่องปกติของทีม จนบางทีแฟนบอลยังพูดกันแบบติดตลกว่าโดนยิงก็ไม่เป็นไร เราแค่ต้องยิงให้มากกว่าก็พอ ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องที่ทูเคิ่ลดูจะชอบเท่าไหร่ 

โดยเกมแรกในฐานะโค้ชที่เจอกับ วูลฟ์แฮมป์ตัน เขาปรับแผนเป็น 3-4-2-1 ทันทีใช้เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ 3 คน มิดฟิลด์ตัวรับ 2 คน คอยช่วยเกมรับ และวิงแบ็คที่คุมพื้นที่ด้านกว้างของสนามให้ รวมไปถึงการเติมเกมบุกกับมิดฟิลด์ตัวรุก 2 คน กับกองหน้าตัวเป้า ด้วยแทคติกนี้เองทำให้มีเกมรับที่ดีขึ้นมาก โดยจาก 30 นัดที่เหลือในฤดูกาลนั้น ทีมเสียประตูไปแค่ 15 ประตู ตรงกันข้ามกับยุคของแลมพาร์ดที่เล่นไป 29 นัด เสียไปถึง 32 ประตู เรียกได้ว่าลดไปครึ่งต่อครึ่งเลย ส่งผลให้ทีมมีผลงานที่ดีขึ้นตามมา 

เหนือกว่า เป๊ป กวาร์ดิโอลา และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 

ต้องบอกว่าไม่ใช่แค่นัดชิงยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ที่โธมัส ทูเคิ่ล พาทีมเอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ แต่นั่นยังรวมถึงการพาลูกทีมเข้าชิงเอฟเอ คัพ ด้วยการเอาชนะทีมเรือใบสีฟ้าได้ในรอบตัดเชือก 1-0 ต่อด้วยการบุกไปยัดเยียดความพ่ายแพ้ครั้งที่สองถึงถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม ในเกมพรีเมียร์ลีก 1-2 ก่อนจะปิดฉากภารกิจด้วยการย้ำแค้นให้ทีมของเป๊ป ต้องช้ำใจเป็นหนที่สามในดินแดนฝอยทอง 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/2MLOd7QWRRlTYhjO2qvhJO/0d485fbdb66cb86f97ad3488edaf5ec1/Thomas-Tuchel-key-success-to-Chelsea-UCL-winners-SPACEBAR-Photo03
Photo: AFP
สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้ทีมดังจากลอนดอนกดซิตี้ได้ก็คือแผน 3-4-2-1 ของทูเคิ่ลที่จัดการพื้นที่ตรงกลางสนามได้อย่างอยู่หมัด ปิดเส้นทางการจ่ายบอลแบบหมดจด ซึ่งการลำเลียงบอลขึ้นเกมตรงกลางเป็นจุดเด่นของทัพเรือใบสีฟ้าอยู่แล้ว 

ในขณะเดียวกัน เกมรับเขาก็ใช้วิธีการมาร์คผู้เล่นที่ค่อนข้างจะดุดัน หมายความว่านักเตะของเขาจะต้องคอยเป็นเหมือนวิญญาณตามติดคู่แข่งอยู่เสมอ ซึ่งนี่เป็นแทคติกที่มีประสิทธิภาพมาก ๆ ที่ทูเคิ่ลเลือกใช้เมื่อเข้ามาทำทีมตอนกลางซีซั่นด้วยเวลลาอันน้อยนิด การมาร์คคู่ต่อสู้แบบนี้ง่ายกว่าการต้องมาเรียนรู้ระบบหรือแผนการเล่นใหม่ทั้งหมด
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/37PWOgvfHpTz2ayPvNKE0z/922ec134348990f3188e27bd0f920cfd/Thomas-Tuchel-key-success-to-Chelsea-UCL-winners-SPACEBAR-Photo04
Photo: AFP
ทีนี้ก็มาถึงคีย์หลักที่ทำให้เชลซี เอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้นั่นก็คือเกมสวนกลับ อย่างที่ทุกคนเคยเห็นกันอยู่แล้วว่าลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา จะดันขึ้นมาสูงถึงเส้นครึ่งสนามเสมอ เพื่อเพรสซิ่งฝั่งตรงข้ามไม่ให้ออกบอลสั้นได้ง่าย ๆ ทูเคิ่ลก็จัดการแก้เกมตรงนี้ด้วยการยกบอลข้ามผู้เล่นที่ขึ้นมากดดันไปที่วิงแบ็คที่อยู่ในพื้นที่ว่าง เพราะตัวรุกของเชลซีจะกันไม่ให้แบ็คของซิตี้เข้าถึงบอล เมื่อบอลถึงวิงแบ็คก็จะได้เปรียบทันที เนื่องจากเป็นสถานการณ์ 2-1 ที่แบ็คของซิตี้ต้องเจอ 

เมื่อเชลซีได้พื้นที่เล่นตรงนี้ ฟูลแบ็คของซิตี้ก็ต้องตัดสินใจว่าจะไปเล่นตรงไหน ระหว่างเข้าไปหาผู้เล่นที่ได้บอล หรือเข้าไปหาผู้เล่นที่วิ่งอ้อมหลังไป โดยประตูชัยที่เชลซีได้ ติโม แวร์เนอร์ ก็ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์แบบด้วยการดึงตัวประกบอย่าง รูเบน ดิอาส เพื่อเปิดพื้นที่ให้ ไค ฮาเวิร์ตซ์ หลุดเข้าไปดวลเดี่ยวกับ เอแดร์ซอน ก่อนจะล็อกหลบแล้วส่งบอลเข้าไปกองที่ก้นตาข่าย 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/qBZgeiibLrNr625vhroye/12f61d2d22851e3ad5366d7abc4fd162/Thomas-Tuchel-key-success-to-Chelsea-UCL-winners-SPACEBAR-Photo05
Photo: AFP
แต่อีกหนึ่งอย่างที่สวยงามสำหรับแฟนบอลเชลซี ในวันนั้นคือการได้เห็นนักเตะทุกคนทุ่มเทใส่พลังกันจนสุดแรง เล่นแบบช่วยเหลือกันอยู่ตลอดเวลา บวกด้วยบอสใหญ่อย่าง โธมัส ทูเคิ่ล ที่ไม่ได้ทำแค่หน้าที่วางแผน แต่ยังแสดงออกถึงแพสชั่นของคนที่อยากจะเป็นผู้ชนะอยู่ตลอดทั้งเกม กระตุ้นทั้งลูกทีมและแฟนบอลให้ส่งเสียงเชียร์จนกระทั่งสิ้นเสียงนกหวีด คว้าแชมป์มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ ส่งให้ค่ำคืนที่เอสตาดิโอ โด ดราเกา เป็นอีกหนึ่งโมเม้นต์ที่แฟนบอลจดจำได้อย่างไม่มีวันลืม 

ถ้า โชเซ่ มูรินโญ่ คือ เดอะ สเปเชียล วัน / โธมัส ทูเคิ่ล ก็คงเป็น เดอะ โอนลี่วัน ของแฟนเชลซี 

589 วันที่เขาอยู่และทุ่มเทให้กับสโมสรมาตลอดเวลา 100 เกมที่ลงคุมทีม ชนะ 60 เสมอ 24 แพ้ 16 สถิติชนะ 60% ของเขาอยู่ในอันดับที่ 4 ตลอดกาล เป็นรองเพียงแค่ โชเซ่ มูรินโญ่, อันโตนิโอ คอนเต้ และ คาร์โล อันเชล็อตติ แถมยังสามารถพาทีมเข้าชิงรายการเมเจอร์ได้ทั้งหมด 6 รายการ คว้าโทรฟี่มาได้ถึง 3 ใบ 

นี่เป็นความยอดเยี่ยมที่ทำให้แฟนบอลตกหลุมรักเขาอย่างเต็มเปี่ยม ถึงขั้นที่ทำเคยทำป้ายติโฟ่หรือแบนเนอร์รูปเขาขนาดใหญ่พร้อมข้อความว่า ‘DEUTSCHER MAESTRO’ ขึ้นให้บนแสตนด์ฝั่ง Shed End ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ซึ่งในวันที่อดีตนายใหญ่คนนี้โดนปลด คลิปรีแอคของเขากับแบนเนอร์ก็ได้กลายเป็นไวรัลในโลกฟุตบอลที่เต็มไปด้วยความเสียดายและเสียใจที่เขาไม่ได้เวลาพิสูจน์กับทีมมากกว่านี้ 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/2cHx6TcLmkL1VtrGVDnm7A/9e7766378b6e77feeae5f99e2c9f7543/Thomas-Tuchel-key-success-to-Chelsea-UCL-winners-SPACEBAR-Photo06
Photo: Twitter @LDNFootball และ Chelsea FC
คลิปรีแอกชันตอนที่ โธมัส ทูเคิ่ล เห็นป้ายติโฟ่ของตัวเอง 

“ผมเห็นแบนเนอร์แล้วนะ ผมกำลังดูแบนเนอร์ของเมสัน ผมไม่เห็นว่าผมมีแบนเนอร์ของตัวเองด้วย มันวิเศษมาก ๆ เลย ขอบคุณมากสำหรับสิ่งนั้น มันเหลือเชื่อมาก เป็นครั้งแรกที่แฟนบอลทำอะไรแบบนี้ให้ ผมมีความสุขมาก” ทูเคิ่ลบอกกับ Chelsea TV 

ถึงสุดท้ายแฟนบอลเชลซีคงปฏิเสธไม่ได้หรอกครับว่า โชเซ่ มูรินโญ่ คือหนึ่งในกุนซือที่พวกเขารักมากที่สุด แต่ก็เชื่อว่าจากผลงานทั้งหมดที่ โธมัส ทูเคิ่ล ฝากไว้ในรั้วสแตมฟอร์ด บริดจ์ วันนี้แฟนๆ สิงห์บลูก็จะยังคิดถึง รักและจดจำยอดโค้ชชาวเยอรมันคนนี้ไว้ในหัวใจไม่มีวันลืมเช่นกัน 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์