ตกชั้นแล้วไง ถ้าแฟชั่นเราจัดจ้าน! เวเนเซีย ทีมลีกรองอิตาลีที่เผลอๆ ดังกว่าทีมจากลีกสูงสุดบางทีมด้วยซ้ำไป

ถ้าจะให้พูดถึงเรื่องแฟชั่นในวงการฟุตบอล โดยเฉพาะเจอร์ซีย์หรือเสื้อแข่ง หลายคนคงจะคุ้นตากับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง x จอร์แดน แน่นอน จากความใหญ่ของทั้งตัวสโมสรและแบรนด์ที่เป็นไอคอนิกของนักบาสระดับตำนานอย่าง ไมเคิล จอร์แดน

แต่ไม่ใช่ครับ วันนี้เราไม่ได้จะมาพูดถึง เปแอสเช หรือ จอร์แดน ใด ๆ ทั้งสิ้น สโมสรที่เราจะมาพูดถึงคือ เวเนเซีย ทีมลีกรองจากดินแดนรองเท้าบู๊ต ที่เปิดตัวเสื้อแข่งเรียกเสียงฮือฮาในแวดวงแฟชั่นได้อย่างถล่มทลาย จนหลายคนให้ความเห็นไปในทางเดียวกันว่าเป็นเสื้อฟุตบอลที่สวยที่สุดแห่งปี กลายเป็นแรร์ไอเทมของนักสะสมเสื้อบอลที่อยากหามาครอบครองสักตัว (รวมตัวผู้เขียนเองด้วยนะ) 
 
เวเนเซีย คือทีมอะไร ฟอร์มในสนามไม่ดีจนกระเด็นตกชั้นกลับไปอยู่ที่เดิมในปีนี้ แต่ทำไมพวกเขายังถูกพูดถึงอยู่เสมอ แฟชั่นช่วยอะไรพวกเขาได้ และสร้างชื่อเสียงให้สโมสรฟุตบอลเล็ก ๆ จากเมืองเวนิสได้อย่างไร ติดตามไปพร้อมกันได้เลย 

ก่อนจะดังแบบนี้ พวกเขาเคย (โคตร) ลำบากมาก่อน  

Venezia Foot Ball Club คือชื่อแรกของสโมสรฟุตบอลหนึ่งเดียวแห่งเมืองเวนิส ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 1907 ซึ่งที่บอกว่าลำบากคือในช่วง 17 ปีที่ผ่านมา พวกเขาต้องพบเจอกับสถานะของการล้มละลายมาแล้วถึง 3 ครั้งด้วยกัน 

สำหรับครั้งแรกเริ่มตั้งแต่ช่วงฤดูกาล 2003-04 ที่ทีมจบในอันดับบ๊วยของเซเรีย บี รอดพ้นจากการตกชั้นมาได้ด้วยการเอาชนะ บารี ในเกมเพลย์ออฟหนีตกชั้นมา 2-1 แต่ว่าสถานการณ์ทางการเงินของทีมตอนนั้นก็เข้าขั้นแย่แล้ว และในที่สุดเมื่อจบฤดูกาลถัดมา พวกเขาก็ถูกปรับตกชั้นด้วยสถานะล้มละลาย 
 
จากนั้นในปี 2005 ทีมก็เปลี่ยนชื่อเป็น โซเซียตา สปอร์ติวา กัลโช่ เวเนเซีย (แหม ยาวเชียว) วนเวียนอยู่แถวลีกล่าง ๆ ก่อนจะล้มละลายครั้งที่สองตอนท้ายซีซั่น 2008-09 และในช่วงซัมเมอร์ปี 2009 เมืองเวนิสก็สุ่มเสี่ยงที่จะกลายเป็นเมืองที่ไม่มีสโมสรฟุตบอล จนคุณ Massimo Cacciari นายกเทศมนตรีตอนนั้นได้ตั้งสโมสรใหม่ขึ้นมาเองชื่อว่า ยูเนี่ยน เวเนเซีย ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นทีมที่สืบทอดต่อมาจากทีมเก่า ได้ลงเล่นในลีกอาชีพต่อไป แต่ก็ล้มละลายครั้งที่ 3 ในรอบ 10 ปี เมื่อซีซั่น 2014-15

หลังจากล้มลุกคลุกคลานมานาน ในเดือนกันยายน 2015 ทีมก็ได้กลุ่มทุนจากอเมริกานำโดย โจ ทาโคพิน่า เข้ามาพาสโมสรออกจากสถานะล้มละลาย เปลี่ยนชื่อเป็น Venezia FC ชื่อปัจจุบัน ก่อนจะพบกับความสำเร็จอย่างรวดเร็วด้วยการทะยานคืนสู่ลีกสูงสุดด้วยเวลาเพียงแค่ 6 ปี 

ชุดแข่งที่เปลี่ยนสโมสรเล็ก ๆ ให้ดังเป็นพลุแตกในช่วงข้ามคืน 

อย่างที่รู้กันดีว่าประวัติศาสตร์อันน่าทึ่งต่าง ๆ ของสโมสรที่เราบอกไป ต่อให้เป็นคนบ้าบอล ถ้าไม่ได้สนใจลีกอิตาลีเป็นพิเศษก็คงไม่รู้จักทีมนี้หรอกครับ แต่สิ่งที่เปลี่ยนให้ เวเนเซีย กลายเป็นหนึ่งในทีมที่ร้อนแรงที่สุดในโลกกลับไม่ใช่ “ผลงาน” ในสนามของพวกเขา แต่ดันกลายเป็น ‘เสื้อบอล’ ไปซะได้ 
 
เรื่องนี้เริ่มตั้งแต่ปี 2016 เมื่อ Ted Philipakos ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของทีมคนปัจจุบัน ติดต่อกับ Fly Nowhere ครีเอทีฟ สตูดิโอ เอเจนซี่ ชื่อดังในนิวยอร์กที่ชอบสร้างงานจากแพสชั่นของกีฬากับศิลปะให้มาช่วยสร้างแบรนด์และภาพลักษณ์ของสโมสร แต่ก็พูดคุยทำงานไปได้นิดเดียว เพราะตอนนั้นทีมยังไม่ค่อยมั่นคง โปรเจ็กต์นี้ก็เลยถูกพับเก็บไปก่อน

พอมาในปี 2020 Philipakos ได้พา Fly Nowhere กลับมาอีกครั้ง พร้อมกับตั้ง Diego Moscosoni ผู้ก่อตั้งร่วมของ Fly Nowhere ขึ้นเป็นครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ของทีม ทำงานเกี่ยวกับทิศทางแบรนด์ของสโมสรเหมือนเดิม โดยต่อยอดจากไอเดียที่เคยทำตั้งแต่ช่วงปี 2016 
 
และหนึ่งในการตัดสินใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือการออกมาจากร่มเงาของ Nike สปอร์ตแวร์ยักษ์ใหญ่แดนลุงแซม และเลือกกลับมาร่วมงานกับแบรนด์ในประเทศอย่าง Kappa แทน โดยมีการให้เหตุผลว่าจากโครงสร้างบริษัทของไนกี้ที่เอื้อความสำคัญให้กับทีมใหญ่ก่อน ไม่เหมาะกับวิสัยทัศน์ของทาง Fly Nowhere ซึ่งตัวอย่างคือชุดเหย้าปี 2021 ที่ ไนกี้ เสนอให้ เวเนเซีย เป็นชุดเทมเพลตถูกปฏิเสธ และไม่สามารถหาทางแก้ปัญหาได้

ในขณะที่ทางคัปป้าเองเป็นแบรนด์ที่เล็กกว่า มีความยืดหยุ่นกว่าไนกี้เยอะมาก และพร้อมเสี่ยงทุ่มเทไปกับวิสัยทัศน์ของ Fly Nowhere อย่างเต็มที่ แล้วก็อย่างที่ทุกคนรู้ว่าที่เหลือคือหนึ่งในหน้า ‘ประวัติศาสตร์’ ของ เวเนเซีย 
 
ซึ่งด้วยประสบการณ์อันโชกโชนในวงการแฟชั่นของ Diego Moscosoni ที่เคยร่วมงานออกแบบกับแบรนด์ดังๆ อย่าง Supreme, Marc Jacobs และ LVMH บวกกับความหลงใหลในกีฬาฟุตบอลมาตลอดชีวิตของเขา ก็ได้สร้างครอสโอเวอร์ฟุตบอลแฟชั่นที่ดีที่สุดเราเคยเห็นกันมา

โดยนอกเหนือจากความสวยงามตามท้องเรื่องของเสื้อฟุตบอลที่เราเห็นแล้ว อีกหนึ่งองค์ประกอบหลักที่ทำให้คนโฟกัสไม่แพ้กันคือ การถ่ายภาพโปรโมทเสื้อในเมือง เวนิส ที่เป็นเมืองท่องเที่ยวที่โดดเด่นและสวยงาม บวกกับการเอานายแบบ นางแบบ มาเป็นแบบแทนนักฟุตบอลให้ความรู้สึกถึงความเป็นแฟชั่นมากกว่า เมื่อเทียบกับนักฟุตบอล 

สโมสรตกชั้น แต่เลือกที่จะรีแบรนด์ ? 

ถึงจะฉลองการเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดในปีที่แล้ว พร้อมกับการเปิดตัวชุดแข่งที่ทำให้ทีมโด่งดังถล่มทลาย แต่ผลงานในสนามกลับไม่ค่อยเข้าทางพวกเขาสักเท่าไหร่ เพราะทีมจบซีซั่นที่แล้วด้วยการเป็นบ๊วยของตารางกัลโช่ เซเรีย อา ตกชั้นกลับไปเล่นเซเรีย บี ภายในระยะเวลาแค่ปีเดียวเท่านั้น 
 
แถมพวกเขายังสร้างความประหลาดใจให้โลกฟุตบอลอีกรอบด้วยการ ‘รีแบรนด์’ สโมสรใหม่ ทั้ง ๆ ที่เพิ่งจะตกชั้นกลับมาเล่นในลีกรองของประเทศ แต่ดูเหมือนว่าสโมสรจะไม่ได้ซีเรียสเรื่องผลการแข่งขันมากขนาดนั้น ถึงขั้นที่จะต้องเอามาเป็นเป้าหมายแรกของทีม 

“เราแค่ต้องการเป็นตัวแทนของสโมสรและเมืองที่มีความสำคัญอย่างแท้จริง ซึ่งไม่ควรมีเงื่อนไขว่าเราจะชนะหรือแพ้การแข่งขัน สโมสรมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานถึง 114 ปี และได้เห็นทั้งจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดผ่านดิวิชั่นต่างๆ แต่มันควรจะเป็นที่มาของความภาคภูมิใจและบางสิ่งบางอย่างที่อยู่รอบ ๆ เรา” Ted Philipakos CMO ของสโมสรบอก 
 
เวเนเซีย ตัดสินใจร่วมงานกับ Bureau Borsche ดีไซน์สตูดิโอชื่อดังระดับโลกของประเทศเยอรมนี ที่เคยร่วมงานกับแบรนด์ใหญ่ ๆ อย่าง Supreme, Balenciaga และ Nike มาแล้ว โดยส่วนสำคัญคือการเปลี่ยนโลโก้ของทีม และให้พวกเขาออกแบบชุดแข่งของซีซั่นปัจจุบันด้วย 
 
โดยโลโก้ที่เปิดตัวใหม่นำสิงโตของ Saint Mark ที่เป็นสัญลักษณ์ของทั้งเวนิสและเวเนเซีย ซึ่งช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสโมสรและตัวเมืองได้เป็นอย่างดี แถมยังได้รับการตอบรับที่ดีมาก ๆ ในเมืองเวนิสด้วย 

และอย่างที่บอกไปว่าสุดท้ายแล้วผลงานในสนามก็จะเป็นตัวกำหนดอนาคตของ เวเนเซีย แต่ Ted Philipakos กับทีมของเขาก็อยากจะทำอะไรที่ช่วยสร้างอิมแพคต์ได้บ้าง ซึ่งเมื่อพูดถึงชุดแข่ง มันก็เป็นสิ่งเดียวที่เขาเองต้องการจะทำ 
 
“เราต้องการเป็นทูตของเมือง เพื่อเป็นตัวแทนของชาวเวนิส และเป็นประตูสู่เมืองสำหรับผู้คนอีกมากมายจากต่างประเทศที่มีความสนใจเมืองนี้อย่างแท้จริง” Ted พูดถึงความตั้งใจแรกของเขา 
 
“เราต้องการจะประสานรวมมิติระดับท้องถิ่นและระดับนานาชาติของเมือง มารวมกันและสร้างบางสิ่งบางอย่างที่แข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อน เพื่อให้สโมสรเล็ก ๆ จากเมืองเล็ก ๆ ที่มีสนามกีฬาขนาดเล็กสามารถรู้สึกถึงความสำคัญของตัวเองที่มากกว่าปกติและแข็งแกร่งกว่าเดิม”

“ผมไม่สนหรอกว่าเราจะอยู่ในดิวิชั่นไหน เราจะทำเต็มที่ตลอด ดังนั้น ทิศทางของศิลปะ การถ่ายภาพ ทุกอย่างจะต้องตรงประเด็นและสื่อสารในระดับที่สูงกว่าที่เรายืนอยู่” Ted พูดต่อ 

“ตอนนี้คุณอาจจะยังเห็นอะไร ๆ ไม่ชัดมากนะ: แต่ผมจะบอกว่าคอลเลคชัน 2022/23 ของเราในเซเรีย บี มียอดขายสูงกว่าปีที่แล้วเยอะพอสมควร ตอนนี้ผู้คนจำนวนมากขึ้นให้ความสนใจว่าเราเป็นใคร ไม่ใช่ว่าเราเล่นอยู่ระดับไหน”นี่แหละครับจุดยืนที่ชัดเจนที่สุดและแฟชั่นที่ทำให้ทีมเล็ก ๆ จากเวนิส กลายเป็นสโมสรฟุตบอลที่คนรู้จักและสนใจมากที่สุดทีมหนึ่งในโลก