ยอดทีมรวมดาวรุ่ง! คือแนวทางสู่ความสำเร็จของทีมเชลซีจริงหรือ?

4 ก.พ. 2568 - 13:13

  • ปิดไปแล้วเรียบร้อยสำหรับตลาดซื้อขายหน้าหนาวของพรีเมียร์ลีกรวมไปถึงลีกใหญ่ๆ ในยุโรป

  • หนึ่งในทีมที่เงียบเหงาก็คือ เชลซี ที่พวกเขาเลือกปล่อยนักเตะออกไปหลายราย และเสริมทัพเข้ามาเพียงแค่กองกลางดาวรุ่ง (อีกแล้ว)

  • ตอนนี้เชลซีกำลังทำอะไรอยู่ แนวทางที่ทำอยู่นี้กำลังรุ่งหรือร่วง และนี่คือหนทางสู่ความสำเร็จจริงหรือ?

Chelsea-transfer-market-direction-problem-SPACEBAR-Hero.jpg

ปิดไปแล้วเรียบร้อยสำหรับตลาดซื้อขายหน้าหนาวของพรีเมียร์ลีกรวมไปถึงลีกใหญ่ๆ ในยุโรป โดยทางด้านฝั่งลีกเมืองผู้ดีในรอบนี้ต้องบอกว่าไม่ได้มีอะไรที่หวือหวาสักเท่าไหร่ สองทีมใหญ่ที่ลุ้นแชมป์กันอยู่อย่าง ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล และ ‘ปืนใหญ่’ อาร์เซน่อล ต่างก็ไม่ได้เสริมทัพอะไรกันทั้งคู่  

ในขณะที่ทีมอื่นๆ ก็มีอย่างเช่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอเดน เฮเว่น ดาวรุ่งจากอาร์เซน่อล และ แพทริค ดอร์กู ที่เป็นตำแหน่งแบ็คซ้ายที่พวกเขาตามหา ส่วนท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ก็ได้ยืม มาธีส เตล กองหน้ากึ่งปีกจากบาเยิร์น มิวนิค มาใช้งาน และที่เสริมหนักสุดก็คงหนีไม่พ้น ‘เรือใบสีฟ้า’ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่จัดหนักจัดเต็มซื้อนักเตะ 4 คนโดยใช้เงินไปถึง 210 ล้านยูโร ได้แก่ อับดูโคดีร์ คูซานอฟ, วิเตอร์ เฮส, โอมาร์ มาร์มูช และ นิโก้ กอนซาเลซ  

ปิดท้ายด้วยอีกทีมที่เงียบเหงาก็คือ เชลซี ที่พวกเขาเลือกปล่อยนักเตะออกไปหลายรายไม่ว่าจะเป็น เรนาโต้ เวก้า, เซซาเร่ คาซาเด, คาร์นีย์ ชุควูเมก้า, อักเซล ดิซาซี่, เบน ชิลเวลล์ และ เจา เฟลิกซ์ โดยเสริมทัพเข้ามาเพียงแค่กองกลางดาวรุ่งวัย 19 ปี จาก แซงต์ เอเตียนน์ อย่าง มาธิส อามูกู ด้วยค่าตัว 15 ล้านยูโร ทำให้แฟนบอลสิงห์บลูส์ต้องตั้งคำถามกันเหมือนเดิมว่า ‘ดาวรุ่งอีกแล้วเหรอ?’  

วันนี้เราเลยจะพาไปวิเคราะห์กันสักเล็กน้อยว่าตอนนี้เชลซีกำลังทำอะไรอยู่ แนวทางที่ทำอยู่นี้กำลังรุ่งหรือร่วง และนี่คือหนทางสู่ความสำเร็จจริงหรือ?

Chelsea-transfer-market-direction-problem-SPACEBAR-Photo02.jpg

ปล่อยนักเตะที่ใช้งานได้ออกไป? 

อย่างที่เราบอกไปก่อนหน้าว่าตลาดหน้าหนาวรอบนี้เชลซีปล่อยนักเตะออกจากทีมไปหลายคน โดยส่วนมากเป็นการปล่อยยืมตัว และเมื่อมาดูรายชื่อจริงๆ แต่ละคนก็ต้องบอกว่าใช้งานได้ ผ่านการลงสนามและมีประสบการณ์ในพรีเมียร์ลีกมาแล้วทั้งหมด แต่พวกเขาก็เลือกจะปล่อยออกไปทั้งที่ยังมีโปรแกรมลงแข่งอีกสามรายการ นั่นก็คือ พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ และ คอนเฟอร์เรนซ์ ลีก  

ยกตัวอย่างคนสำคัญๆ ที่ดูจะใช้งานได้และปล่อยออกไปก็มี เรนาโต้ เวก้า ที่ในแง่นักเตะต้องบอกว่าเขาคงแฮปปี้ เพราะการย้ายไปยูเวนตุสเขาจะได้ลงเล่นในตำแหน่งที่ชอบอย่างเซ็นเตอร์ฮาล์ฟซึ่งตอนอยู่เชลซีเขาเล่นแบ็คซ้ายเป็นส่วนใหญ่ นับว่าน่าแปลกใจที่เลือกปล่อยออกไปเพราะตอนนี้แบ็คซ้ายธรรมชาติเหลือแค่ มาร์ค คูคูเรญ่า หลังจากปล่อยยืมชิลเวลล์ไปแล้ว แล้วก็เห็นได้ชัดเจนว่า รีซ เจมส์ ก็ไม่ใช่คนที่มั่นใจได้ว่าจะไม่เจ็บอีก ส่วน มาโล กุสโต้ ก็ทำหน้าที่ฝั่งนี้ได้ไม่ดีเท่าฝั่งขวาที่เขาเล่นเป็นหลัก  

นอกจากนี้กองหลังอีกคนที่ปล่อยออกไปอย่าง อักเซล ดิซาซี่ ก็เป็นหนึ่งในตัวหลักของซีซั่นนี้มาตลอดแต่ก็ปล่อยออกไปให้แอสตัน วิลล่า คู่แข่งในลีกที่แย่งโควตาบอลยุโรปไปใช้งาน ท่ามกลางสถานการณ์ที่เซ็นเตอร์อย่าง เวสลีย์ โฟฟาน่า ที่ปิดเทอมยาว หรือ เบอนัวต์ บาเดียชิล ที่ใกล้จะหายเจ็บแต่ฟอร์มก็ไม่ได้ดีเท่าดิซาซี่ แม้จะดึง เทรโวห์ ชาโลบาห์ กลับมาจากยืมตัวก็ตาม แต่เก็บเขาไว้ต่อยังไงก็ดูดีกว่าไม่มี  

อีกคนที่ปล่อยออกไปท่ามกลางความเสียดายของแฟนเชลซีหลายคนก็คือ เจา เฟลิกซ์ ที่ถูกปล่อยยืมตัวไป เอซี มิลาน ในแง่นี้แฟนบอลส่วนใหญ่มองกันว่า ซื้อเขามาในราคา 50 ล้านยูโรแต่ส่วนมากเจ้าตัวได้ลงแค่ในฟุตบอลถ้วย ยังแทบไม่มีเวลาได้พิสูจน์ผลงานในลีกเลย และเวลาเขาลงมาทีมก็มักจะมีมิติเกมรุกที่มากขึ้นเสมอ แล้วถ้านับในแง่ของตำแหน่งเขาหากวันหนึ่ง โคล พาลเมอร์ เกิดบาดเจ็บขึ้นมาเขาก็สามารถลงมาเล่นแทนได้ สุดท้ายเลยกลายเป็นคำถามว่าทำไมทีมถึงเลือกทำแบบนี้

Chelsea-transfer-market-direction-problem-SPACEBAR-Photo03.jpg

เสริมดาวรุ่ง (อีกแล้ว)  

แน่นอนว่ามีออกก็ต้องมีเข้า แต่ตำแหน่งเข้านี่สิดันไม่เป็นแบบที่แฟนบอลส่วนใหญ่คาดไว้อย่างกองหน้าตัวเป้า, ผู้รักษาประตู หรือ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่กลับดึงดาวรุ่งวัย 19 ปี อย่าง มาธิส อามูกู ของ แซงต์ เอเตียนน์ เข้ามาแทน โดยมีรายงานว่าพวกเขาวางแผนอนาคตไว้ให้นักเตะรายนี้ได้เติบโตแล้ว แต่ถ้ามาดูผลงานของดาวรุ่งรายนี้จริงๆ ปีนี้ต้นสังกัดเก่าเขาต้องลุ้นหนีตกชั้น และผลงานส่วนตัวของเขาก็ไม่ได้ดีเด่อะไร ลงสนามไป 17 นัด เป็นตัวจริง 9 นัด ยิงหรือแอสซิสต์ไม่ได้เลย เรตติ้งเฉลี่ยแค่ 6.40 (จาก FotMob) แต่ทีมกล้าควักเงินจ่ายค่าตัวเขาไปถึง 15 ล้านยูโรทั้งที่มูลค่าการตลาดตอนนี้ของเขาแค่ 350,000 ยูโร อะไรทำให้กล้าจ่ายเกินมูลค่าจริงไปถึง 42 เท่า เพราะดูยังไงก็ไม่มีทางการันตีความสำเร็จของแข้งวัยรุ่นรายนี้ได้เลย 

เชลซีเป็นแบบนี้มาตลอดนับตั้งแต่เปลี่ยนเจ้าของมาเป็น ท็อดด์ โบห์ลี นักธุรกิจชาวอเมริกัน โดยในเวลานี้บรรดาดาวรุ่งที่โปรยเงินไปซื้อมาก็ยังไม่เห็นความสำเร็จแบบที่พร้อมมาเป็น ‘เดอะแบก’ ในอนาคตเลย คนล่าสุดอย่าง เซซาเร่ คาซาเด ก็ปล่อยออกไปแล้ว ยังดีที่ไม่ขาดทุนเท่าไหร่ แล้วก็ต้องพูดกันตรงๆ ว่าแนวทางนี้แฟนบอลและนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ก็เห็นไปในทิศทางเดียวกันว่ายัง ‘ห่างไกล’ กับความสำเร็จ หรือการกลับมาเป็นเชลซีที่ดาหน้าคว้าแชมป์แบบในยุค ‘เสี่ยหมี’ โรมัน อบราโมวิช 

ทั้งหมดทั้งมวลที่เราเล่ามานี้คือสิ่งที่ทีม ‘สิงโตน้ำเงินคราม’ เชลซี กำลังทำอยู่ สำหรับแฟนบอลที่เชียร์ทีมนี้ก็คงได้แต่ต้องทำใจ และภาวนาต่อไปให้ทิศทางที่ทีมเลือกเดินเป็นสิ่งที่ถูกต้องกับการพาทีมกลับมายิ่งใหญ่ และสุดท้ายคำถามที่ว่านี่เป็น ‘แนวทางแห่งอนาคตที่มองเห็นความสำเร็จ? หรือแค่แนวทางธุรกิจที่เห็นโอกาสสร้างรายได้’ ก็จะเกิดขึ้นต่อไปอยู่ดีถ้าทีมยังไม่เข้าใกล้โทรฟี่แชมป์ในเร็ววันนี้

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์