เรียกว่าแข่งกันรัวๆ เลยสำหรับศึกรถสูตรหนึ่ง หรือ Formula1 ที่หลังจบจาก ‘United States Grand Prix’ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็มาแข่งสนามที่ 2 ของทวีปอเมริกาในช่วงท้ายฤดูกาลกันต่อเลย โดยคราวนี้มาลุยกันที่ประเทศเม็กซิโกกับ ‘Gran Premio de la Ciudad de México’ หรืออีกชื่อคือ ‘Mexico City Grand Prix’ เรซที่ 19 ของฤดูกาลนี้ ซึ่งผู้ชนะสองหนล่าสุดก็คือแชมป์โลกคนปัจจุบันอย่าง Max Verstappen แล้วนี่ก็ยังเป็นโฮมเรซของ ‘Checo’ Sergio Perez นักขับเพื่อนร่วมทีมของเขาด้วย
และ Mexico Grand Prix ณ สนาม Autódromo Hermanos Rodríguez ในกรุงเม็กซิโก ซิตี้ ประเทศเม็กซิโก จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง Perez ที่ต้องเร่งทำผลงาน จะรีดฟอร์มได้ดีขนาดไหนในสนามบ้านเกิดตัวเอง ติดตามได้เลยครับ
สำหรับ Mexico City Grand Prix มีชื่อเดิมคือ ‘Mexican Grand Prix’ โดยเริ่มจัดการแข่งขัน Formula 1 อย่างเป็นทางการครั้งแรกตั้งแต่ปี 1963 จนถึงปี 1970 จากนั้นก็หยุดพักไปประมาณ 14 ปี แล้วมาแข่งกันอีกทีตอนปี 1986-1992 และหยุดยาวอีกครั้งถึง 21 ปี ก่อนจะกลับมาเป็นหนที่ 3 ในปี 2015 จนถึง 2019 โดยในปี 2020 เว้นไปหนึ่งปีจากการะบาดของโรคโควิด-19 ทำให้การเดินทางในทวีปอเมริกาทั้งหมดหยุดชะงัก และกลับมาแข่งต่อในปีถัดมาจนถึงปัจจุบัน ส่วนการแข่งขันมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบสนามถึง 3 ครั้ง ซึ่งในปัจจุบันคือเวอร์ชั่นล่าสุด
มาต่อกันที่ข้อมูลของสนาม Autódromo Hermanos Rodríguez สนามแข่งขันประจำศึก Mexico Grand Prix กันบ้าง แทร็คนี้มีชื่อเดิมว่า Magdalena Mixhuca สำหรับรูปแบบสนามล่าสุดมีความยาวทั้งหมด 4.304 กิโลเมตร ทำการแข่งขันกันทั้งหมด 71 รอบ เป็นเซอร์กิตที่มีทางตรงยาวถึง 3 ช่วงให้ได้ใช้การเปิดปีกท้ายเพิ่มความเร็วหรือ DRS ช่วงแรกคือหลังออกจากโค้งที่ 3 ยาวไปจนถึงก่อนเข้าโค้งที่ 4 ช่วงที่สองคือระหว่างช่วงโค้งที่ 11 ตรงไปถึงก่อนเข้าโค้งที่ 12 และสุดท้ายคือหลังออกจากโค้งสุดท้ายแล้ววิ่งผ่านจุดสตาร์ทไปจนสุดทางตรงโค้ง 1 สำหรับสนามนี้มีโค้งทั้งหมด 17 โค้ง ส่วนมากเป็นโค้งความเร็วต่ำ หรือก็คือโค้งเล็กลึกๆ เยอะพอสมควร ทำให้นักแข่งต้องระวังเรื่องการเข้าโค้งค่อนข้างมาก โดยเฉพาะเวลารถเยอะๆ เพื่อไม่ให้เกิดการเบียดและปะทะกัน
สำหรับ Starting Grid สนามนี้เป็นทาง Charles Leclerc จาก Ferrari ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเป็นสนามที่ 2 ติดต่อกัน เพราะเขาสามารถคว้าตำแหน่ง Pole Position ไปครองได้ ส่วนหัวแถวอันดับที่ 2 เป็นทาง Carlos Sainz เพื่อนร่วมทีมของเขา แล้วอันดับที่ 3 เป็น Max Verstappen นักขับแชมป์โลก ในขณะที่นักขับเจ้าบ้านอย่าง ‘Checo’ Sergio Perez ออกสตาร์ทในแถวที่สองกับอันดับ 5 ซึ่งอันดับที่ 4 ต้องบอกว่าเซอร์ไพรส์มากๆ เพราะเป็นทาง Daniel Ricciardo จาก AlphaTauri ทางด้านของ McLaren สนามนี้มีแค่ Oscar Piastri ที่ออกสตาร์ทในเลขตัวเดียวกับอันดับที่ 7 ส่วน Lando Norris เพื่อนร่วมทีมทำผลงานไม่ดีหลุดไปเริ่มที่อันดับ 17 ฟากของ Mercedes ก็ทำได้พอใช้ได้ โดย Lewis Hamilton ได้อันดับ 6 และ George Russell อันดับ 8 ส่วนอันดับอื่นๆ ที่น่าสนใจก็มีสองคู่หูจาก Alfa Romeo อย่าง Valtteri Bottas กับ Zhou Guanyu อันดับ 9 และ 10, Fernando Alonso ของ Aston Martin อันดับ 13 และ Alexander Albon นักขับขวัญใจคนไทย ออกสตาร์ทอันดับที่ 14
มาต่อที่ช่วงของการแข่งขัน Mexico Grand Prix กันบ้างที่ออกสตาร์ทมายังไม่ทันพ้นโค้งแรกก็เกิดการชนกันแล้ว และที่น่าเศร้ามากกว่านั้นคือเป็นการปะทะกันระหว่าง Charles Leclerc กับ Sergio Perez ที่รายหลังเสียหายนักถึงขั้นแข่งขันต่อไม่ได้ เพราะด้านข้างตัวรถพังเสียหาย จนต้องรีไทร์จากการแข่งขันในโฮมเรซของตัวเองไปตั้งแต่โค้งแรกของการแข่งขัน ซึ่งเจ้าตัวเองก็บอกว่าเขาเลือกที่จะเสี่ยง ก็เลยต้องรับบทเรียนราคาแพงไปในที่สุด โดยช็อตชนกันเป็นช่วงที่กำลังจะเข้าโค้งแรก และเข้าอยู่ทางซ้ายมือของ Leclerc แล้วนักขับจาก Ferrari ก็ไม่มีพื้นที่พอที่จะขยับไปไหนแล้ว เพราะด้านขวาของเขาคือ Verstappen ทำให้สุดท้ายล้อหน้าซ้ายไปปะทะกับตัวรถฝั่งขวาของ Perez เข้าอย่างจังจนรถลอยขึ้นไปบนอากาศ หลังจากนั้นก็ยังมีการชนแรงๆ อีกหนึ่งหนของ Kevin Magnussen จากทีม Haas ในรอบที่ 33 โดยเจ้าตัวพยายามจะเลี้ยวขวาเข้าโค้งที่ 8 แต่รถไม่เลี้ยว บวกกับปีนเคิร์ฟด้วย ทำให้รถเสียการควบคุม ไถลไปชนกับกำแพงเต็มๆ จนรถเสียหายหนัก ต้องออกจากการแข่งขันไปอีกคน ซึ่งการชนรุนแรงถึงขั้นต้องตีธงแดงให้นักแข่งกลับมาเข้าพิท เพื่อเตรียมออกสตาร์ทใหม่อีกรอบ และอีกคนที่แข่งไม่จบในเรซนี้ก็คือ Fernando Alonso ของ Aston Martin ที่รีไทร์สองสนามติดต่อกัน
สำหรับเรซนี้คนที่ทำได้ดีมากๆ คนหนึ่งเลยก็คือ ‘เซอร์ลูอิส’ Lewis Hamilton ของ Mercedes ที่เจ้าตัวออกสตาร์ทในอันดับที่ 6 แต่ก็ขับได้อย่างยอดเยี่ยมจนสุดท้ายสามารถจบในอันดับ 2 ได้เหมือนสนามที่แล้วที่อเมริกา แต่คราวนี้ไม่โดนปรับแพ้แล้ว ได้ขึ้นไปยืนบนโพเดียม และได้แต้มจริงๆ พร้อมกับการทำ Fastest Lap ในรอบสุดท้ายไปได้ด้วยเวลา 1:21.334 เก็บเพิ่มไปได้อีก 1 คะแนน จนเจ้าตัวถึงกับเอ่ยปากชมทีมว่าวางแผนได้ดีเลยจบเรซได้อย่างสวยงาม และอีกคนที่ทำผลงานได้ดีไม่แพ้กันคือนักแข่งขวัญใจชาวไทยอย่าง Alexander Albon ของ Williams Racing ที่ออกสตาร์ทในอันดับที่ 14 แล้วขับด้วยความอดทนจนไล่แซงมาได้ 5 คัน จบเรซไปด้วยอันดับที่ 9 เก็บแต้มเพิ่มให้ตัวเองและทีมไปได้อีก 2 คะแนน
ส่วนคนที่ทำได้ดีที่สุดในสนามนี้ต้องยกให้ Lando Norris นักแข่งดาวรุ่งวัย 23 ปี ของทีม McLaren เพราะแม้เจ้าตัวจะทำผลงานในรอบควอลิฟายได้ไม่ดีเอาซะเลย ด้วยการออกสตาร์ทในแถวท้ายๆ ที่อันดับ 17 แต่ก็ต้องชื่นชมเลยว่าขับได้อย่างยอดเยี่ยมสมกับเป็นหนึ่งในนักแข่งที่น่าจับตามองมากที่สุดของวงการ Formula 1 ด้วยการไล่แซงรถมากถึง 12 คัน โดยมีช็อตแซงสวยๆ หลายช็อต เช่น ในรอบที่ 29 ที่แซง Valtteri Bottas จากไลน์นอกขึ้นมาอยู่อันดับที่ 9 ต่อด้วยการแซง Alexander Albon บริเวณช่วงทางตรงก่อนเข้าโค้งแรกในรอบที่ 31 จากนั้นก็มาแซง Daniel Ricciardo ขึ้นอันดับ 6 ต่อในรอบที่ 60 ปิดท้ายด้วยการแซง George Russell แบบสุดสวยด้วยการบีบคู่แข่งให้ออกจาก Racing Line และเดินคันเร่งเข้าไลน์ใน แซงขึ้นอันดับ 5 ได้อย่างยอดเยี่ยมในรอบที่ 67 พร้อมกับคว้าตำแหน่ง Driver of The Day ไปครองได้เป็นครั้งที่ 4 ของซีซัน
ส่วนผู้ชนะเรซนี้แน่นอนว่าก็ยังคงเป็น Max Verstappen แชมป์โลก 3 สมัย ที่วิ่งเข้าไปหาธงตราหมากรุกได้เป็นคันแรก โดยทิ้งห่าง Lewis Hamilton อันดับสองไปมากถึงเกือบ 14 วินาที แล้วนั่นก็ทำให้เขาสร้างสถิติใหม่ได้สำเร็จนั่นก็คือการคว้าชัยชนะมากที่สุดในหนึ่งฤดูกาลด้วยจำนวน 16 ครั้ง ทำให้ตอนนี้เขาเก็บแต้มไปแล้วถึง 491 คะแนน ใกล้จะทะลุ 500 เข้าไปทุกที ซึ่งต้องบอกว่าเกินแน่ๆ จากคุณภาพของรถบวกกับฝีมือการขับของเขา เพราะยังเหลืออีก 3 เรซสุดท้ายให้ได้ลุ้นกันอีกในฤดูกาลนี้
ส่วนผลการแข่งขันของนักขับคนอื่นๆ ใน Mexico City Grand Prix รวมถึงอันดับคะแนนสะสมล่าสุดของนักแข่งและทีมผู้ผลิต จะเป็นอย่างไรบ้าง ติดตามด้านล่างนี้ได้เลยครับ
ผลการแข่งขัน Mexico City Grand Prix
1.Max Verstappen (Red Bull Racing)
2.Lewis Hamilton (Mercedes)
3.Charles Leclerc (Ferrari)
4.Carlos Sainz (Ferrari)
5.Lando Norris (McLaren)
6.George Russell (Mercedes)
7.Daniel Ricciardo (AlphaTauri)
8.Oscar Piastri (McLaren)
9.Alexander Albon (Williams)
10.Esteban Ocon (Alpine)
11.Pierre Gasly (Alpine)
12.Yuki Tsunoda (AlphaTauri)
13.Nico Hulkenberg (Haas F1 Team)
14.Valtteri Bottas (Alfa Romeo)
15.Zhou Guanyu (Alfa Romeo)
16.Logan Sargeant (Williams)
17.Lance Stroll (Aston Martin)
ไม่จบการแข่งขัน: Sergio Perez (Red Bull Racing), Fernando Alonso (Aston Martin), Kevin Magnussen (Haas F1 Team)
5 อันดับคะแนนสะสมนักแข่ง
1.Max Verstappen 491 คะแนน
2.Sergio Perez 240 คะแนน
3.Lewis Hamilton 220 คะแนน
4.Carlos Sainz 183 คะแนน
5.Fernando Alonso 183 คะแนน
อันดับคะแนนสะสมทีมผู้ผลิต
1.Red Bull Racing 731 คะแนน
2.Mercedes 371 คะแนน
3.Ferrari 349 คะแนน
4.McLaren 256 คะแนน
5.Aston Martin 236 คะแนน
6.Alpine 101 คะแนน
7.Williams 28 คะแนน
8.AlphaTauri 16 คะแนน
9.Alfa Romeo 16 คะแนน
10.Haas F1 Team 12 คะแนน
