แข่งไม่จบ 6 คัน! สรุปผล F1 2023 เรซที่ 20 ‘Sao Paulo Grand Prix’

6 พ.ย. 2566 - 09:13

  • Max Verstappen คว้าชัย ‘Sao Paulo Grand Prix’ ไปครอง และยืนที่ 1 ไปแล้วถึง 17 ครั้งในซีซันนี้

  • และ Spacebar VIBE ก็ก็มีสรุปผลการแข่งขันมาฝากทุกคนเช่นเคย สำหรับ Sao Paulo Grand Prix จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ติดตามได้เลยครับ

F1-2023-Sao-Paulo-Grand-Prix-wrap-up-SPACEBAR-Hero.jpg

เดินทางมาถึง 3 สนามสุดท้ายของศึกรถสูตรหนึ่ง หรือ Formula 1 แล้วเรียบร้อย หลังจบ Mexico City Grand Prix ที่ประเทศเม็กซิโกไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็ขยับมาแข่งกันแบบต่อเนื่องเลยกับเรซที่ 20 ของฤดูกาล โดยรอบนี้ย้ายจากอเมริกากลาง ลงมาที่อเมริกาใต้กันบ้างกับ ‘GRANDE PRÊMIO DE SÃO PAULO’ หรือ ‘Sao Paulo Grand Prix’ ในเมืองเซา เปาโล ประเทศบราซิล ซึ่งทางด้านนักขับแชมป์โลกอย่าง Max Verstappen ก็ยังมีลุ้นสถิติคว้าชัยชนะมากที่สุดในซีซันอยู่เหมือนเดิม หลังจากยืนที่ 1 มาแล้ว 16 ครั้งในปีนี้ และการแข่งขันที่บราซิลจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ติดตามได้เลยครับ

F1-2023-Sao-Paulo-Grand-Prix-wrap-up-SPACEBAR-Photo01.jpg

Sao Paulo Grand Prix หรือในชื่อเดิมคือ Brazilian Grand Prix จัดการแข่งขัน Formula 1 อย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อปี 1973 และลากยาวต่อเนื่องมาถึง 46 ปี จนถึงปี 2019 เว้นวรรคไปแค่ครั้งเดียวเท่านั้นเมื่อปี 2020 จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แล้วก็กลับมาแข่งกันต่อในปีถัดมาจนถึงปัจจุบัน โดยถือเป็นหนึ่งในสนามที่จัดการแข่งขันต่อเนื่องมาอย่างยาวนานของวงการรถสูตรหนึ่ง ซึ่งช่วงแรกๆ มีการสลับใช้สนามแข่งอยู่สองสนามนั่นก็คือ Autódromo Internacional Nelson Piquet ในเมืองหลวงอย่างกรุงริโอ เดอ จาเนโร กับ Autódromo José Carlos Pace ที่เซา เปาโล สนามแข่งในยุคปัจจุบัน โดยเจ้าของสถิติชนะมากที่สุดของการแข่งขันที่นี่คือ Alain Prost อดีตแชมป์โลก 4 สมัย ชาวฝรั่งเศส 

มาต่อกันที่ข้อมูลของสนาม Autódromo José Carlos Pace สนามแข่งขันประจำศึก Sao Paulo Grand Prix กันบ้าง แทร็คนี้มีความยาวทั้งหมด 4.309 กิโลเมตร ทำการแข่งขันกันทั้งหมด 71 รอบ เป็นเซอร์กิตที่มีทางตรงให้ได้ใช้ความเร็วค่อนข้างยาว โดยช่วงแรกจะอยู่บริเวณหลังออกโค้งที่ 14 วิ่งผ่านโค้ง 15 ที่เป็นโค้งเล็กๆ และยาวไปจนผ่านจุดสตาร์ทก่อนเข้าโค้ง 1 ส่วนอีกช่วงหนึ่งจะอยู่ตรงหลังออกจากโค้ง 3 วิ่งยาวๆ ไปจนถึงก่อนเข้าโค้ง 4 ทั้งสองจุดสามารถเปิดปีกท้ายเพิ่มความเร็ว หรือ DRS ได้ สำหรับโค้งส่วนใหญ่ของสนามนี้จะโค้งลึกเยอะ แซมด้วยโค้งเล็กโค้งน้อยนิดหน่อย

F1-2023-Sao-Paulo-Grand-Prix-wrap-up-SPACEBAR-Photo02.jpg

และสนามแห่งนี้เป็นสนามสุดท้ายบนหน้าปฏิทินการแข่งขัน F1 ที่มีการแข่งรูปแบบ Sprint Race หรือการแข่งระยะสั้น 1 ใน 3 ของระยะทางทั้งหมด เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสในการได้คะแนนสะสม โดยครั้งนี้ไม่มีนักแข่งคนไหนที่ไม่จบการแข่งขันเลย และผู้ที่เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน Max Verstappen คนเดิม ถึงแม้เขาจะออกสตาร์ทในอันดับที่ 2 ก็ตาม ส่วนคนที่คว้าตำแหน่ง Pole Position ในรอบ Sprint​ Shootout อย่าง Lando Norris ตกมาอยู่ในอันดับที่ 2 และอันดับที่ 3 ตกเป็นของ ‘Checo’ Sergio Perez ที่กำลังเร่งทำผลงานในช่วงท้ายฤดูกาลเพื่อรักษาตำแหน่งของตัวเองในทีม Red Bull Racing ในขณะที่อันดับอื่นๆ ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงจากตำแหน่งสตาร์ทเท่าไหร่ ใครสตาร์ทอันดับไหนก็จบอันดับนั้นไปเลย มีเพียงแค่ Lewis Hamilton ที่สตาร์ทอันดับ 5 แต่สลับตำแหน่งจบกับ Charles Leclerc ที่สตาร์ทอันดับ 7 และ Daniel Ricciardo ที่เริ่มในอันดับ 8 แต่จบอันดับ 9 กลายเป็นไม่มีแต้ม เพราะโดน Carlos Sainz แซงขึ้นมาจบที่ 8 แทน 

สำหรับอันดับ Starting Grid สนามนี้ Max Verstappen นักขับแชมป์โลกก็ยังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมคว้าตำแหน่ง Pole Position ได้ ต่อด้วยอันดับที่ 2 อย่าง Charles Leclerc จาก Ferrari ส่วนอันดับที่ 3 ต้องบอกว่าเซอร์ไพรส์มาก เพราะเป็นทางด้านของ Lance Stroll ของทีม Aston Martin ที่ทำผลงานรอบควอลิฟายได้ดี หลังจากฟอร์มค่อนข้างย่ำแย่ในหลายสนามที่ผ่านมา เช่นเดียวกันกับเพื่อนร่วมทีมอย่าง Fernando Alonso นักแข่งจอมเก๋าที่ได้ออกสตาร์ทในอันดับที่ 4 ในขณะที่ทางฝั่ง Mercedes ทั้ง 2 คนอย่าง Lewis Hamilton และ George Russell ออกสตาร์ทในอันดับที่ 5 และ 8 ตามลำดับ โดยทางด้าน Russell จริงๆ แล้วควอลิฟายได้อันดับ 6 แต่ถูกปรับโทษลดกริดลงมา 2 อันดับ เพราะไม่ทำตามคำแนะนำของ Race Director ในช่วงควอลิฟาย ส่วนอันดับอื่นๆ ที่น่าสนใจก็มี Lando Norris กับ Oscar Piastri ของ McLaren อันดับ 6 และ 10, Carlos Sainz จาก Ferrari อันดับ 7, Sergio Perez  จาก Red Bull อันดับ 9 ปิดท้ายด้วย Alexander Albon นักขับชาวไทยเริ่มในอันดับที่ 13

F1-2023-Sao-Paulo-Grand-Prix-wrap-up-SPACEBAR-Photo03.jpg
Photo: สภาพรถของ Charles Leclerc ที่ชนตั้งแต่ในรอบ Formation Lap
F1-2023-Sao-Paulo-Grand-Prix-wrap-up-SPACEBAR-Photo04.jpg
Photo: Charles Leclerc นั่งคอตกผิดหวัง หลังต้องออกจากการแข่งขันตั้งแต่ยังไม่เริ่ม
F1-2023-Sao-Paulo-Grand-Prix-wrap-up-SPACEBAR-Photo05.jpg
Photo: จังหวะชนกันตั้งแต่เริ่มออกสตาร์ท

มาต่อที่ช่วงการแข่งขัน Main Race ของ Sao Paulo Grand Prix ที่ต้องบอกว่าแตกต่างจากช่วง Sprint Race แบบหน้ามือเป็นหลังมือ เพราะยังไม่ทันได้เริ่มแข่งจริงก็มีนักแข่งต้องออกจากการแข่งขันแล้วนั่นก็คือ Charles Leclerc ที่หลุดโค้งไปชนบริเวณข้างสนามตั้งแต่รอบ Formation Lap โดยเจ้าตัวบอกทีมว่าสาเหตุที่ชนเป็นเพราะระบบไฮดรอลิกของรถไม่ทำงาน หลังจากนั้นก็มาออกสตาร์ทกันต่อ โดยหลังจากไฟดวงที่ 5 ดับยังไม่ถึง 10 วินาที ก็มีการชนกันเกิดขึ้นแล้ว ซึ่งเป็นทางด้านของ Nico Hulkenberg ที่ไปสะกิดล้อหลังซ้ายของ Alexander Albon ทำให้รถของนักขับชาวไทยเสียหลักไถลไปชนกับ Kevin Magnussen จนกระเด็นออกไปชนกำแพงทั้งคู่ ต้องออกจากการแข่งขันตั้งแต่ยังไม่เข้าโค้งแรก น่าเสียดายมากๆ สำหรับแฟน F1 ชาวไทยที่รอชมและให้กำลังใจ Albon ในเรซนี้ โดยจากการชนกันครั้งนี้ทำให้ Safety Car ต้องออกมาวิ่ง แล้วทำการเคลียร์สนาม มาเริ่มแข่งกันใหม่ที่จุดสตาร์ทในรอบที่ 4 นอกจากนี้ Zhou Guanyu, Valtteri Bottas และ George Russell ก็เป็นอีก 3 คนที่อยู่ไม่ถึงจบการแข่งขัน 

ซึ่งในเรซนี้ทีมที่ต้องชมมากๆ คือ Aston Martin ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมมากๆ หลังจากหลายเรซที่ผ่านมาพวกเขาอยู่ในฟอร์มที่ย่ำแย่ทั้งคู่ โดยเฉพาะ Fernando Alonso ที่ต้องรีไทร์รถจากการแข่งอยู่บ่อยครั้ง แต่มาในเรซนี้นักแข่งวัยเก๋าทำได้ดีสุดๆ เพราะหลังจากออกสตาร์ทอีกครั้งในรอบที่ 4 เขาสามารถไล่แซงคู่แข่งตัวฉกาจของเขาอย่าง Lewis Hamilton ได้สำเร็จ แม้ตอนที่เขาแซงจะยังไม่สามารถใช้ DRS ได้ แต่เจ้าตัวก็เบียดเข้าไลน์ในแซงนักขับชาวอังกฤษได้ในโค้งที่ 4 กับอีกจังหวะในรอบที่ 70 ที่เขาโดน Sergio Perez แย่งอันดับ 3 ไปได้ ก่อนที่ในรอบสุดท้ายหลังออกจากโค้ง 3 เขาจะเปิด DRS และฉีกออกไลน์นอกแซง Perez คืนได้ตรงช่วงสุดทางตรงก่อนเข้าโค้งที่ 4 จากนั้นก็ขับบี้กันจนถึงหยดสุดท้าย ซึ่งทาง Alonso ได้ความเก๋าเข้าเส้นชัยขึ้นไปยืนบนโพเดียมได้สำเร็จ โดยเวลาห่างจาก ‘Checo’ เพียงแค่ 0.053 วินาที ในขณะที่ Lance Stroll รุ่นน้องในทีมก็ทำได้ดีมากตั้งแต่รอบควอลิฟายที่จบอันดับ 3 และสามารถจบเรซนี้ได้ในอันดับที่ 5 เก็บแต้มสำคัญเพิ่ม เพื่อลุ้นขึ้นอันดับ 4 ในตารางคะแนนทีมผู้ผลิตได้ต่อไป

F1-2023-Sao-Paulo-Grand-Prix-wrap-up-SPACEBAR-Photo06.jpg

ส่วนอีกคนที่ไม่ชมไม่ได้เลยในเรซนี้คือ Lando Norris นักขับชาวอังกฤษจากทีม McLaren ที่เริ่มในอันดับที่ 6 แต่ออกสตาร์ทได้มีมากๆ แซงขึ้นมาอยู่อันดับ 2 ได้ตั้งแต่ช่วงที่เกิดอุบัติเหตุในช่วงแรกของการแข่งขัน ซึ่งเขาก็ขับได้อย่างสุดยอด สามารถรักษาตำแหน่งของตัวเองได้จนจบการแข่งขัน แถมยังมีช็อตไล่บี้กดดัน Max Verstappen ให้ได้เห็นด้วย โดยนักขับวัย 24 ปี ยังทำ Fastest Laps ในเรซนี้ไปได้ในรอบที่ 61 ด้วยเวลา 1:12.486 แล้วแน่นอนว่าจากผลงานการขับที่ยอดเยี่ยม ก็ทำให้เขาคว้าตำแหน่ง Driver Of The Day ไปครองได้อีกรอบในฤดูกาลนี้

F1-2023-Sao-Paulo-Grand-Prix-wrap-up-SPACEBAR-Photo07.jpg
F1-2023-Sao-Paulo-Grand-Prix-wrap-up-SPACEBAR-Photo08.jpg

ส่วนผู้ชนะเรซนี้ก็เหมือนเดิมคือ Max Verstappen แชมป์โลก 3 สมัย ที่พุ่งเข้าไปรับธงตราหมากรุกได้เป็นคันแรก แต่รอบนี้ทิ้งห่างอันดับ 2 ได้ไม่ถึง 10 วินาที เพราะ Lando Norris ขับได้ดีมากๆ เช่นกัน แต่นั่นก็ยังทำให้เขาเดินหน้าสร้างสถิติอันยอดเยี่ยมต่อไปได้เรื่อยๆ นั่นก็คือการคว้าชัยมากที่สุดในหนึ่งซีซันถึง 17 ครั้งเข้าไปแล้ว แถมยังเก็บแต้มทะลุหลักเลข 5 ไปแล้วเรียบร้อย ด้วยจำนวน 524 คะแนน และบอกเลยว่าเพิ่มได้แน่ๆ เราคงต้องมาลุ้นกันอีกรอบว่าจะไปจบที่ตัวเลขไหน เพราะถ้าเขาชนะได้อีก 2 เรซที่เหลือ บวกกับทำ Fastest Laps ได้ จะทำให้เขามีถึง 576 แต้ม เมื่อจบฤดูกาล 2023 

ส่วนผลการแข่งขันของนักขับคนอื่นๆ ใน Sao Paulo Grand Prix ทั้ง Sprint Race และ Main Race รวมถึงอันดับคะแนนสะสมล่าสุดของนักแข่งและทีมผู้ผลิต จะเป็นอย่างไรบ้าง ติดตามด้านล่างนี้ได้เลยครับ

F1-2023-Sao-Paulo-Grand-Prix-wrap-up-SPACEBAR-Photo09.jpg

ผลการแข่งขัน Sao Paulo Grand Prix Sprint Race

  1. Max Verstappen (Red Bull Racing)
  2. Lando Norris (McLaren)
  3. Sergio Perez (Red Bull Racing)
  4. George Russell (Mercedes)
  5. Charles Leclerc (Ferrari)
  6. Yuki Tsunoda (AlphaTauri)
  7. Lewis Hamilton (Mercedes)
  8. Carlos Sainz (Ferrari)
  9. Daniel Ricciardo (AlphaTauri)
  10. Oscar Piastri (McLaren)
  11. Fernando Alonso (Aston Martin)
  12. Lance Stroll (Aston Martin)
  13. Pierre Gasly (Alpine)
  14. Esteban Ocon (Alpine)
  15. Alexander Albon (Williams)
  16. Kevin Magnussen (Haas F1 Team)
  17. Zhou Guanyu (Alfa Romeo)
  18. Nico Hulkenberg (Haas F1 Team)
  19. Valtteri Bottas (Alfa Romeo)
  20. Logan Sargeant (Williams)
F1-2023-Sao-Paulo-Grand-Prix-wrap-up-SPACEBAR-Photo10.jpg

ผลการแข่งขัน Sao Paulo Grand Prix Main Race

  1. Max Verstappen (Red Bull Racing)
  2. Lando Norris (McLaren)
  3. Fernando Alonso (Aston Martin)
  4. Sergio Perez (Red Bull Racing)
  5. Lance Stroll (Aston Martin)
  6. Carlos Sainz (Ferrari)
  7. Pierre Gasly (Alpine)
  8. Lewis Hamilton (Mercedes)
  9. Yuki Tsunoda (AlphaTauri)
  10. Esteban Ocon (Alpine)
  11. Logan Sargeant (Williams)
  12. Nico Hulkenberg (Haas F1 Team)
  13. Daniel Ricciardo (AlphaTauri)
  14. Oscar Piastri (McLaren)

ไม่จบการแข่งขัน: George Russell (Mercedes), Valtteri Bottas (Alfa Romeo), Zhou Guanyu (Alfa Romeo), Kevin Magnussen (Haas F1 Team), Alexander Albon (Williams), Charles Leclerc (Ferrari)

5 อันดับคะแนนสะสมนักแข่ง

  1. Max Verstappen 524 คะแนน
  2. Sergio Perez 258 คะแนน
  3. Lewis Hamilton 226 คะแนน
  4. Fernando Alonso 198 คะแนน
  5. Lando Norris 195 คะแนน

อันดับคะแนนสะสมทีมผู้ผลิต

  1. Red Bull Racing 782 คะแนน
  2. Mercedes 382 คะแนน
  3. Ferrari 362 คะแนน
  4. McLaren 282 คะแนน
  5. Aston Martin 261 คะแนน
  6. Alpine 108 คะแนน
  7. Williams 28 คะแนน
  8. AlphaTauri 21 คะแนน
  9. Alfa Romeo 16 คะแนน
  10. Haas F1 Team 12 คะแนน

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์