โดยอดีตแนวรับลูกหม้อหงส์แดงรายนี้ ได้กล่าวกับ CBS Sports สื่อกีฬาดังที่เจ้าตัวรับหน้าที่เป็นกูรูว่า
“สิ่งแรกนะ ผมต้องขอชมเชยว่ามันคือฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของเรอัล มาดริด ที่มาทำสิ่งนี้ได้ที่แอนฟิลด์”
“ผมไม่เคยเห็นทีมไหนเลยที่มาเยือนแอนฟิลด์ในค่ำคืนแห่งเกมยุโรป แล้วทำสิ่งที่มาดริดทำได้ พวกเขาขยี้ลิเวอร์พูลซะเละ”
“สำหรับลิเวอร์พูลเกมนี้มันคือความโกลาหล มันน่าอับอายจริงๆ”
“เราเฝ้าแก้ตัวให้พวกเขาตลอดฤดูกาล หาเหตุผลต่างๆ นาๆ ว่าทำไมพวกเขาทำไม่ได้แบบฤดูกาลที่แล้ว”
“โดยเฉพาะครึ่งหลังอันน่าหดหู่ พวกเขาไม่มีโอกาสใดๆ หรือไม่ได้โชว์ความเป็นนักสู้หลังจากเสียประตูเลย”
“สิ่งแรกนะ ผมต้องขอชมเชยว่ามันคือฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของเรอัล มาดริด ที่มาทำสิ่งนี้ได้ที่แอนฟิลด์”
“ผมไม่เคยเห็นทีมไหนเลยที่มาเยือนแอนฟิลด์ในค่ำคืนแห่งเกมยุโรป แล้วทำสิ่งที่มาดริดทำได้ พวกเขาขยี้ลิเวอร์พูลซะเละ”
“สำหรับลิเวอร์พูลเกมนี้มันคือความโกลาหล มันน่าอับอายจริงๆ”
“เราเฝ้าแก้ตัวให้พวกเขาตลอดฤดูกาล หาเหตุผลต่างๆ นาๆ ว่าทำไมพวกเขาทำไม่ได้แบบฤดูกาลที่แล้ว”
“โดยเฉพาะครึ่งหลังอันน่าหดหู่ พวกเขาไม่มีโอกาสใดๆ หรือไม่ได้โชว์ความเป็นนักสู้หลังจากเสียประตูเลย”

ซึ่งคาร์ราเกอร์ได้อธิบายเพิ่มเติมถึงมุมมองของเขา เกี่ยวกับฟอร์มของลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้ ต่อจากที่วิจารณ์ความพ่ายแพ้ต่อมาดริด ซึ่งครั้งนี้ เขาพุ่งเป้าไปที่กองหลังหงส์แดง เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค
“และความโกลาหลที่ผมกล่าวไปข้างต้น ผมพูดถึงเกมรับที่ยุ่งเหยิงไร้ระเบียบมาตลอดทั้งฤดูกาล ทั้งๆ ที่ผู้เล่นชุดเดียวกันนี้มีสถิติเชิงรับยอดเยี่ยมมากเมื่อปีที่แล้ว”
“พวกเราต่างรู้ว่าแผงกองกลางไม่ได้มีพลังเท่าเดิม แนวรุกไม่ได้เพรสดีเหมือนเคย เพราะศูนย์หน้าใหม่อย่างนูนเญซ และ กัคโป ยังใหม่กับระบบ”
“ดังนั้นแล้วแผงแนวรับล่ะ เราต่างบอกกันว่าแผงหลังชุดนี้มีผู้เล่นบางคนที่เป็นกองหลังระดับโลก แต่ตอนนี้มันไม่เป็นเช่นนั้น เป็นเวลาหลายปีที่พวกเขามีผู้เล่นหกคนด้านหน้าที่ทำงานหนักและฉลาดกว่าทีมอื่น ๆ ในโลกฟุตบอล แต่พอ 6 คนนั้นทำหน้าที่ไม่ได้เท่าเดิม แนวรับก็พังทลายลงอย่างสิ้นเชิง”
“ลิเวอร์พูลอยู่ที่ 8 บนตารางพรีเมียร์ลีก แถมพึ่งโดนถล่มในเกมยุโรปมา 5-2 ผมรู้ว่านั่นคือ เรอัล มาดริด แต่ทั้งคู่คือทีมที่เข้าชิงกันเมื่อปีที่แล้วนะ มันยอมรับไม่ได้เลยกับฤดูกาลนี้ เราพยายามหาข้อแก้ตัวหรือเหตุผลต่างๆ นาๆ แต่ไม่มีอะไรเลยที่ใกล้คำว่าดีพอ”
“บอกตรงๆ นะ ในการเล่นเกมรับของผม จริงๆ มันไม่ได้แย่ขนาดนั้น แต่เมื่อสองเดือนที่แล้ว เวอร์จิลบอกว่าผมไม่ดีพอที่จะลงเล่นเป็นแผงแบ็คโฟร์ให้กับลิเวอร์พูลยุคนี้ แต่ผมคิดว่าตอนนี้ผมสามารถแย่งตำแหน่งเขาลงเล่นแทนได้เลย”
คาร์ราเกอร์ร่ายยาวพร้อมกับจบประโยคสุดท้ายด้วยรอยยิ้มติดตลก
“และความโกลาหลที่ผมกล่าวไปข้างต้น ผมพูดถึงเกมรับที่ยุ่งเหยิงไร้ระเบียบมาตลอดทั้งฤดูกาล ทั้งๆ ที่ผู้เล่นชุดเดียวกันนี้มีสถิติเชิงรับยอดเยี่ยมมากเมื่อปีที่แล้ว”
“พวกเราต่างรู้ว่าแผงกองกลางไม่ได้มีพลังเท่าเดิม แนวรุกไม่ได้เพรสดีเหมือนเคย เพราะศูนย์หน้าใหม่อย่างนูนเญซ และ กัคโป ยังใหม่กับระบบ”
“ดังนั้นแล้วแผงแนวรับล่ะ เราต่างบอกกันว่าแผงหลังชุดนี้มีผู้เล่นบางคนที่เป็นกองหลังระดับโลก แต่ตอนนี้มันไม่เป็นเช่นนั้น เป็นเวลาหลายปีที่พวกเขามีผู้เล่นหกคนด้านหน้าที่ทำงานหนักและฉลาดกว่าทีมอื่น ๆ ในโลกฟุตบอล แต่พอ 6 คนนั้นทำหน้าที่ไม่ได้เท่าเดิม แนวรับก็พังทลายลงอย่างสิ้นเชิง”
“ลิเวอร์พูลอยู่ที่ 8 บนตารางพรีเมียร์ลีก แถมพึ่งโดนถล่มในเกมยุโรปมา 5-2 ผมรู้ว่านั่นคือ เรอัล มาดริด แต่ทั้งคู่คือทีมที่เข้าชิงกันเมื่อปีที่แล้วนะ มันยอมรับไม่ได้เลยกับฤดูกาลนี้ เราพยายามหาข้อแก้ตัวหรือเหตุผลต่างๆ นาๆ แต่ไม่มีอะไรเลยที่ใกล้คำว่าดีพอ”
“บอกตรงๆ นะ ในการเล่นเกมรับของผม จริงๆ มันไม่ได้แย่ขนาดนั้น แต่เมื่อสองเดือนที่แล้ว เวอร์จิลบอกว่าผมไม่ดีพอที่จะลงเล่นเป็นแผงแบ็คโฟร์ให้กับลิเวอร์พูลยุคนี้ แต่ผมคิดว่าตอนนี้ผมสามารถแย่งตำแหน่งเขาลงเล่นแทนได้เลย”
คาร์ราเกอร์ร่ายยาวพร้อมกับจบประโยคสุดท้ายด้วยรอยยิ้มติดตลก