“นี่คือกองกลางที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังตามหา เขาเป็นเพชรเม็ดงามที่พวกเรารอมานาน”
วลีนี้น่าจะเป็นประโยคทองที่แฟนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังพูดถึงฟอร์มการเล่นในช่วงเวลานี้ของเจ้าหนู ‘ค็อบบี้ ไมนู’ มิดฟิลด์ดาวรุ่งขวัญใจคนใหม่แห่งเมืองแมนเชสเตอร์ที่กำลังโลดแล่นอยู่ในทีมชุดใหญ่ของสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยวัยเพียง 18 ปีเท่านั้น เขาเป็นใคร ? มาจากไหนกัน ? อะไรคือจุดเด่นของไมนูที่ทำให้ล่าสุดเจ้าตัวก้าวขึ้นไปซ้อมกับทีมชาติอังกฤษ ครั้งนี้ Spacebar VIBE จะพาทุกคนไปรู้จักเจ้าหนูมหัศจรรย์คนนี้กัน เส้นทางของเขาจะโรยไปด้วยกลีบกุหลาบหรือไม่ บทความนี้มีคำตอบ
ค็อบบี้ ไมนู เด็กหนุ่มผู้เติบโตขึ้นมาในย่านสต็อคพอร์ต ในเมืองแมนเชสเตอร์ เขาโตมากับครอบครัวเชื้อสายลูกครึ่ง อังกฤษ - กาน่า โดยมีพี่น้องทั้งหมด 4 คน จอร์แดน, ค็อบบี้ (เป็นลูกคนรอง), เอลม่า และ อีฟ่า หากใครคุ้นเคยการแข่งขันเรียลลิตี้ Love Island คงจะคุ้นหน้าของ จอร์แดน ไมนู เป็นอย่างดีแน่ๆ เพราะเขาคือผู้เข้าแข่งขันรายการนี้นั่นเอง
คุณพ่อของไมนูชื่นชอบการเล่นกีฬาเป็นชีวิตจิตใจถึงขนาดที่ให้คนรอบตัวเรียกเขาว่า Kobe (โคบี้) มากกว่าให้เรียกตามชื่อจริงๆ ที่เขียนว่า Kobbie (ค็อบบี้) เพราะอยากให้เหมือนกับตำนานนักบาสเก็ตบอลอย่าง โคบี้ ไบรอันท์
ค็อบบี้ เติบโตมาด้วยความชื่นชอบในการเล่นกีฬาฟุตบอลมากๆ เพียงแค่ 5 ขวบเจ้าตัวก็มีโอกาสได้ลงสนามให้กับทีมโรงเรียน Cheadle & Gatley เป็นการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนอายุรุ่นไม่เกิน 6 ปี ที่สำคัญในการแข่งขันครั้งนี้มีแมวมองจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาส่องฟอร์มการเล่นของเจ้าหนูคนนี้ด้วย ในนัดนั้นเขาได้ลงเล่นในตำแหน่งกองหน้าและปีก (ตำแหน่งถนัดของเจ้าตัวในช่วงแรก) โดยโค้ชของทีมโรงเรียน Cheadle & Gatley ในเวลานั้นได้เคยบอกไว้ว่า ค็อบบี้ ไมนู เป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์สูงมากๆ มากเกินกว่าช่วงวัยที่เขากำลังลงทำการแข่งขันด้วยซ้ำ เขาเข้ากับฟุตบอลได้ดีและมีการวางเท้าที่แม่นยำ
หลังจากจบการแข่งขัน ทีมงานของผีแดงก็ไม่รอช้า ทิ้งช่วงเวลาให้ไมนูมีอายุที่พอเหมาะพอควร ช่วงอายุ 11 ปี พวกเขาก็เข้าไปติดต่อครอบครัวของ ค็อบบี้ ทันทีว่า อยากให้เด็กคนนี้มาอยู่ในทีมเยาวชนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฝั่งครอบครัวก็ไม่คิดนานส่งลูกชายให้ทางปีศาจแดงดูแลทันที
จากนั้นมาชีวิตของง ค็อบบี้ ไมนู ก็มุ่งสู่การฝึกซ้อม การแข่งขันและการใช้ชีวิตแบบนักกีฬามาตั้งแต่เด็ก ตำแหน่งที่เขาลงเล่นในช่วงเวลาแรกของชุดเยาวชนและชุด U18 คือ ปีกและกองหน้าโดยเป็นผู้ทำประตูเป็นส่วนใหญ่ จนกระทั่งการมาถึงของปีกดาวรุ่งอาร์เจนตินา ‘อเลฮานโดร การ์นาโช่’ ทำให้เขาต้องถูกปรับตำแหน่งไปเล่นมิดฟิลด์ตัวกลางแทน ซึ่งเจ้าตัวเองก็เคยออกมาบอกในรายการของสโมสรแบบติดตลกว่า "ผมต้องเล่นทุกตำแหน่งที่โค้ชสั่งมา แต่การมาของการ์นาโช่ ผมก็ต้องยอมในฝีเท้าจริงๆ แม้จะไม่อยากเปลี่ยนตำแหน่งก็ตาม"
ด้วยความขยันหมั่นเพียร ในทุกช่วงเย็นของการฝึกซ้อมทีม U18 ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สิ่งที่ค็อบบี้ ไมนู ทำทุกครั้งคือ เขาจะอยู่ซ้อมคู่กับการ์นาโช่เป็นคู่สุดท้ายก่อนออกจากสนามและจะนั่งกินข้าวกับเพื่อนซี้ของเขาชนิดที่ไปไหนตัวติดกันเสมอ ก่อนที่ทั้งคู่จะเป็นสองผู้เล่นกำลังสำคัญพาทีมชุด U18 ขึ้นไปคว้าแชมป์ เอฟ เอ ยูธ คัพมาครอบครองในปี 2022 ส่งผลให้รายชื่อของทั้งคู่ถูกเฮดโค้ชอย่าง เอริก เทน ฮาก สนใจดึงตัวขึ้นมาฝึกซ้อมในทีมชุดใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในที่สุด
ปี 2023 โอกาสของ ค็อบบี้ ไมนู มาช้ากว่าโอกาสของเพื่อนซี้ของเขาอย่าง ‘อเลฮานโดร การ์นาโช่’ ที่ได้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่บ้างแล้วและกำลังก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในขณะที่ ค็อบบี้ ไมนู ทำได้เพียงแค่ซ้อมและซ้อม รอโอกาสลงเล่นเพียงเท่านั้น จนกระทั่งผู้เล่นแผงมิดฟิล์ดในทีมชุดใหญ่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2023 เริ่มบาดเจ็บกันมากขึ้น จึงเป็นโอกาสดีที่เขาได้ลงประเดิมสนามให้กับทีมชุดใหญ่่
เมื่อการประเดิมสนามครั้งแรกมาถึง เจ้าหนู ค็อบบี้ ไมนู ได้ลงเล่นในศึก คาราบาว คัพ นัดที่เจอกับชาร์ลตัน โดยเขาได้ลงไปคุมแดนกลาง แม้จะไม่โดดเด่น แต่ก็ถือว่ามีส่วนร่วมพอสมควรในเกมนั้น ก่อนที่จะมีโอกาสได้ลงบ้างนิดหน่อยในฤดูกาล 2022-2023
จนกระทั่งฤดูกาล 2023-2024 มาถึง ปัญหาเดิมของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงไม่หมดไป กองกลางตัวหลักเผชิญกับอาการบาดเจ็บ คาเซมิโร่, เมสัน เมาท์ รวมถึงคริสเตียน อิริกเซ่น ต่างหายไปจากทีมชุดใหญ่และช่วงเวลาที่หายก็ดันเป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากๆ กับแมตช์แดงเดือดที่ต้องออกไปเยือน ‘ลิเวอร์พูล’ เมื่อช่วงปลายปี 2023 เอริก เทน ฮาก ตัดสินใจส่งเจ้าหนูไมนู วัย 18 ปีลงไปในสนามก่อนที่หลังจากนั้นเจ้าตัวจะยึดตำแหน่งกองกลางตัวจริงของทีมไว้ในมือได้อยู่หมัด ด้วยสไตล์การเล่นที่ชาญฉลาดพร้อมการเข้าบอลที่หนักหน่วงทำให้เขาก้าวขึ้นไปเป็นนักเตะยุคใหม่ของปีศาจแดงได้อย่างสมบูรณ์แบบ แถมด้วยวัยเพียง 18 ปี ไมนูยังพัฒนาได้อีกมาก ถึงขนาดที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต ต้องรีบดันเจ้าหนูคนนี้ขึ้นมาซ้อมกับทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่เลยทีเดียว แถมถ้าฟอร์มการเล่นยังคงเส้นคงวาขนาดนี้ ไม่แน่ฟุตบอลยูโร 2024 คราวนี้อาจจะมีชื่อของเจ้าหนู ค็อบบี้ ไมนู ติดเข้าไปเป็น 23 ผู้เล่นคนสุดท้ายของทีมชาติอังกฤษก็เป็นได้
เมื่อพูดถึงชีวิตกว่าจะมาถึงจุดนี้ของ ค็อบบี้ ไมนู กันแล้ว เราลองมาดูจุดเด่น-จุดด้อยของเจ้าตัวกันบ้างว่า เด็กวัย 18 ปีคนนี้อะไรที่ดีแล้วและมีอะไรที่ต้องพัฒนาอีก
จุดเด่น
1.พลังงานในการขับเคลื่อนแดนกลาง
ข้อแรกและน่าจะเป็นข้อที่บ่งบอกได้ว่าเห็นได้ชัดจริงๆ คือ พลังงานในการขับเคลื่อนเกมแดนกลางของ ค็อบบี้ ไมนู สูงมากๆ เนื่องจากเจ้าตัวอยู่ในวัยที่กำลังเติบโต ฉะนั้นการวิ่งไล่บอล ไล่หวด และสร้างโอกาสให้กับตำแหน่งผู้เล่นตัวรุกจึงเป็นจุดเด่นที่เห็นได้ชัดมากๆ ของไมนู และจุดนี้เองจึงเป็นข้อดีที่โค้ชทุกคนชอบและเลือกที่จะซื้อในความสดนี้ของเขา
2.ทักษะการเลี้ยงบอลและการยิงประตูที่สร้างสรรค์โอกาสได้
ด้วยความที่ในอดีตตำแหน่งของเจ้าตัวเป็นปีกและเป็นกองหน้ามาก่อน ทำให้ทักษะการไปกับลูกฟุตบอลแบบ 1-1 และการยิงประตู จึงเป็นอีกหนึ่งจุดที่เสริมสร้างให้เขาเป็นกองกลางที่ครบเครื่อง จากจังหวะสังหารประตูให้กับทีมปีศาจแดงในนัดพบกับวูล์ฟแฮมป์ตัน วอนเดอเรอส์ ไปจนถึงการเลี้ยงหลบผู้เล่นของลิเวอร์พูลในศึกแดงเดือดที่ผ่านมา จึงทำให้เห็นแล้วว่า ไมนู ทำได้ดีมากๆ และมีการโชว์ทักษะแบบนี้อยู่บ่อยครั้ง ตรงนี้ถือเป็นข้อดีที่ควรจับตามองต่อไปว่า เขาจะไปสุดที่ตรงไหนกับการพาบอลไปข้างหน้าและสร้างสรรค์โอกาสให้กับทีมได้
3.ยังอยู่ในโอวาทและสั่งสอนได้
ข้อนี้เป็นข้อสำคัญและเป็นความโชคดีที่วัยของค็อบบี้ ไมนู ยังอยู่ในช่วงวัยรุ่นที่เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการเป็นนักฟุตบอลที่จะรุ่งหรือจะร่วงก็ช่วงเวลานี้ จากการเติบโตของไมนู ในเวลานี้ในหัวของเขาจะมีเพียงแค่เรื่องฟุตบอลเท่านั้น แถมดูแล้วเรื่องราวนอกสนามของเจ้าตัวก็ยังไม่ทำให้เขาหลงระเริงไปกับภาพต่างๆ อยู่ที่ เอริก เทน ฮาก และเพื่อนๆ รอบตัวแล้วว่าจะเปลี่ยนแปลงเขาไปได้ขนาดไหน ถ้าไม่เปลี่ยนไปจากนี้รับรองกระฉูดแน่ๆ
จุดด้อย
1.การเข้าบอลที่ยังคงขาดความแม่นยำ
ถึงแม้จะดุดันและมีพลังในการขับเคลื่อนแดนกลางของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้ไปข้างหน้า แต่ก็ต้องยอมรับว่าการเข้าบอลของ ค็อบบี้ ไมนู บางครั้งก็มีโอกาสโดนใบเหลืองไปจนถึงโอกาสได้ใบแดงก็มีอยู่บ่อยครั้ง ตรงนี้สำคัญมากๆ หากความแม่นยำยังไม่เกิดขึ้นแบบ 80 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป สักวันต้องมีช่วงเวลาที่หนักแน่ๆ สำหรับ ค็อบบี้ ไมนู
2.การออกบอลที่บางครั้งเกิดผลเสียถึงขั้นเสียประตู
ด้วยตำแหน่งที่เล่นที่มีความเสี่ยงสูงอยู่แล้ว การออกบอลของ ค็อบบี้ ไมนู บางครั้งด้วยความ่กล้าได้กล้าเสียแบบฉบับวัยรุ่น 18 ปี จึงทำให้เกิดผลเสียอยู่บ่อยครั้ง อาทิเช่น เกมที่พบกับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่พ่ายแพ้ไปด้วยสกอร์ 0-2 เห็นได้ชัดว่า หากวันใดเจ้าตัวหลุดฟอร์ม หรือ หลุดสมาธิกับการควบคุมแดนกลางไป อันตรายพร้อมมาเยือนเขาและทีมได้ทุกเมื่อเช่นกัน
3.มวลกล้ามเนื้อที่ยังไม่แข็งแรงพอกับการยืนระยะปะทะตลอด 90 นาที
ความเป็นวัยรุ่นและมวลกล้ามเนื้อที่ยังไม่แข็งแรงแบบเต็มขั้น ทำให้ด้วยรูปร่างที่ตัวเล็กจึงต้องโดนปะทะตลอด 90 นาทีอย่างปฏิเสธไม่ได้ จะเห็นได้ว่า หาก 70 นาทีของเกมการแข่งขันผ่านไปแล้ว ชื่อของ ค็อบบี้ ไมนู จะค่อยๆ หายไปด้วยพละกำลังที่ลดลงไปเรื่อยๆ ตามระยะเวลาการแข่งขัน ดังนั้นยังมีเวลาพอที่จะอัพเลเวลในด้านนี้ และถ้าแก้ไขปัญหานี้ได้ รับรองแดนกลางยังไงก็เป็นของเด็กหนุุ่มผู้นี้อย่างแน่นอน
ที่สุดแล้วไม่มีใครรู้ว่า อนาคตของเจ้าหนู ค็อบบี้ ไมนู จะไปจบลงตรงไหน แต่ ณ นาทีนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่า มิดฟิลด์วัยรุ่นผู้นี้น่าจับตามองผลงานในสนามยิ่งนัก