‘เมสซี่’ ผู้ที่ได้รับการยกย่องเสมือนราชันย์แห่งโลกลูกหนังในปัจจุบัน ความเป็นยอดนักฟุตบอลของเขานั้นจะสมบูรณ์แบบไปไม่ได้เลยหากขาดถ้วย ฟีฟ่า เวิลด์คัพ ไปเป็นการการันตี เฉกเช่นเดียวกับตำนานอย่าง เปเล่, ดิเอโก้ มาราโดน่า, มิเชล พลาตินี่, ซีเนอร์ดิน ซีดาน ฯลฯ ดังนั้นเป็นเรื่องที่เราจะต้องลุ้นกันว่าซูเปอร์สตาร์ผู้นี้จะทำสำเร็จหรือไม่ ในเวิลด์คัพที่ตัวเขาเองประกาศไว้แล้วว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต!
ที่ผ่านมาการปรากฎกายในมหกรรมสำคัญนี้ 4 หน ดาวเตะอาร์เจนติน่าผู้นี้สร้างปรากฏการณ์ขึ้นมากมาย นับตั้งแต่หนแรกที่มีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศ เยอรมนี ปี 2006 เมื่อเฮดโค้ชของทีมฟ้าขาวในยุคนั้นอย่าง โฮเซ่ เปเกอร์มัน ตัดสินใจส่งดาวรุ่งผู้นี้ลงสนามในเกมที่สองของรอบแบ่งกลุ่มเจอกับ บอสเนีย แอนด์ เฮอร์เซโกวีน่า ในฐานะตัวสำรอง เมสซี่ ลงมายิงประตูได้จากการถวายพานของ คาร์ลอส เตเวซ ทำให้เขาสร้างสถิติเป็นผู้ยิงประตูให้ทีมฟ้าขาวอายุน้อยที่สุด 18 ปี 357 วัน ในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายไปทันที
ต่อมาการเข้าร่วมครั้งที่สองของเขาบนวัย 23 ณ แผ่นดินแอฟริกาใต้ ลิโอเนล เมสซี่ มาในฐานะตัวจริงและตัวความหวังของทีม เขาพาทัพ ‘ฟ้าขาว’ ไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายอีกครั้ง แต่ร่วงกลับบ้านด้วยน้ำมือ ‘อินทรีเหล็ก’ เช่นเดิมเหมือน 4 ปีก่อนหน้า ตลอดทัวร์นาเม้นต์แม้เมสซี่ จะทำประตูไม่ได้เลย แต่ยังสามารถผ่านบอลให้ คาร์ลอส เตเวซ ยิงเม็กซิโก ได้ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งนั่นทำให้เขายังรักษาสถิติเป็นคนแอสซิสต์ให้เพื่อนได้ในฟุตบอลโลกทั้ง 4 สมัยที่เข้าร่วม
เมสซี่ ในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย
ที่ผ่านมาการปรากฎกายในมหกรรมสำคัญนี้ 4 หน ดาวเตะอาร์เจนติน่าผู้นี้สร้างปรากฏการณ์ขึ้นมากมาย นับตั้งแต่หนแรกที่มีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศ เยอรมนี ปี 2006 เมื่อเฮดโค้ชของทีมฟ้าขาวในยุคนั้นอย่าง โฮเซ่ เปเกอร์มัน ตัดสินใจส่งดาวรุ่งผู้นี้ลงสนามในเกมที่สองของรอบแบ่งกลุ่มเจอกับ บอสเนีย แอนด์ เฮอร์เซโกวีน่า ในฐานะตัวสำรอง เมสซี่ ลงมายิงประตูได้จากการถวายพานของ คาร์ลอส เตเวซ ทำให้เขาสร้างสถิติเป็นผู้ยิงประตูให้ทีมฟ้าขาวอายุน้อยที่สุด 18 ปี 357 วัน ในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายไปทันที
ต่อมาการเข้าร่วมครั้งที่สองของเขาบนวัย 23 ณ แผ่นดินแอฟริกาใต้ ลิโอเนล เมสซี่ มาในฐานะตัวจริงและตัวความหวังของทีม เขาพาทัพ ‘ฟ้าขาว’ ไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายอีกครั้ง แต่ร่วงกลับบ้านด้วยน้ำมือ ‘อินทรีเหล็ก’ เช่นเดิมเหมือน 4 ปีก่อนหน้า ตลอดทัวร์นาเม้นต์แม้เมสซี่ จะทำประตูไม่ได้เลย แต่ยังสามารถผ่านบอลให้ คาร์ลอส เตเวซ ยิงเม็กซิโก ได้ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งนั่นทำให้เขายังรักษาสถิติเป็นคนแอสซิสต์ให้เพื่อนได้ในฟุตบอลโลกทั้ง 4 สมัยที่เข้าร่วม
ปี 2014 ที่บราซิล เมสซี่ ไปถึงจุดใกล้เคียงความฝันของเขามากสุดนั่นคือตำแหน่งรองแชมป์ แต่พ่ายให้กับ เยอรมนี 0-1 นับเป็นเวิลด์คัพที่ดาวเตะอาร์เจนไตน์ผู้นี้โชว์ฟอร์มได้ดีที่สุด ลงสนามครบทั้ง 7 นัด ยิงไป 4 ลูก และแอสซิสต์อีก 1 ทำให้ตัวเขาได้รับเลือกให้เป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเม้นต์ ‘โกลเด้นบอล อวอร์ด’ ไปครอง แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่สามารถปลอบใจซูเปอร์สตาร์ผู้นี้ได้ โดยเอเย่นต์ส่วนตัวของเขาเปิดเผยว่า เมสซี่ เล่าให้ฟังว่า
“ผมสารภาพเลยว่าต้องใช้เวลานานมากในการลืมความผิดหวังครั้งนั้น บางครั้งตื่นขึ้นมากลางดึกนึกถึงเหตุการณ์ในนัดชิงชนะเลิศที่บราซิล แล้วทำให้ผมนอนต่อไม่ได้!”
ส่วนหนล่าสุดที่ รัสเซีย เมสซี่ ไปบอลโลกอีกครั้งกับโอกาสในการลบล้างความผิดหวัง แต่ทว่าเส้นทางของ อาร์เจนติน่า กลับจบลงอย่างรวดเร็วเพียงแค่รอบสอง เพราะโดนฝรั่งเศสเขี่ยตกรอบ ตัวเขาเองยิงจุดโทษพลาดในเกมกับ ไอซ์แลนด์ในรอบแรก แถมยังทำได้เพียงแค่หนึ่งประตูในทัวร์นาเม้นต์นี้ แต่ก็ทำให้ เมสซี่ กลายเป็นนักฟุตบอลที่ยิงประตูในเวิลด์คัพรอบสุดท้ายทุกช่วงวัย คือทีนเอจ, วัย 20 ปีเศษ และขึ้นหลัก 30
“ผมสารภาพเลยว่าต้องใช้เวลานานมากในการลืมความผิดหวังครั้งนั้น บางครั้งตื่นขึ้นมากลางดึกนึกถึงเหตุการณ์ในนัดชิงชนะเลิศที่บราซิล แล้วทำให้ผมนอนต่อไม่ได้!”
ส่วนหนล่าสุดที่ รัสเซีย เมสซี่ ไปบอลโลกอีกครั้งกับโอกาสในการลบล้างความผิดหวัง แต่ทว่าเส้นทางของ อาร์เจนติน่า กลับจบลงอย่างรวดเร็วเพียงแค่รอบสอง เพราะโดนฝรั่งเศสเขี่ยตกรอบ ตัวเขาเองยิงจุดโทษพลาดในเกมกับ ไอซ์แลนด์ในรอบแรก แถมยังทำได้เพียงแค่หนึ่งประตูในทัวร์นาเม้นต์นี้ แต่ก็ทำให้ เมสซี่ กลายเป็นนักฟุตบอลที่ยิงประตูในเวิลด์คัพรอบสุดท้ายทุกช่วงวัย คือทีนเอจ, วัย 20 ปีเศษ และขึ้นหลัก 30
ความพร้อมสำหรับเที่ยวนี้
การเดินทางไปเตะที่กาต้าร์หนนี้ของ เมสซี่ เรื่องของสภาพจิตใจนั้นดูจะมีความพร้อมมากกว่าครั้งไหนเพราะก่อนหน้านี้หนึ่งปี เขาเพิ่งพาทีม ‘ฟ้าขาว’ เฉือนบราซิล คว้าโทรฟี่ โคป้า อเมริกามาได้ ถือเป็นการลบล้างอาถรรพ์ในการเป็น “พระรองตลอดกาล’ ด้วยการคว้าแชมป์ระดับเมเจอร์แรกให้ทีมชาติอาร์เจนติน่า ได้สำเร็จของเมสซี่ด้วย (ก่อนหน้านี้ได้แชมป์เยาวชนโลก ชุดยู 20 ปี 2005และ เหรียญทองโอลิมปิก 2008)
ภายใต้การคุมทัพของ ลิโอเนล สกาโลนี่ โค้ชหนุ่มวัย 44 ปี ประกาศรายชื่อขุนพลชุดลุยบอลโลกของอาร์เจนติน่าออกมา ก็เต็มไปด้วยผู้เล่นคุณภาพตามคาด นอกเหนือจากเมสซี่ก็มี เลาตาโร่ มาร์ติเนซ, เปาโล ดิบาล่า, อังเคล ดิ มาเรีย, โรดริโก้ เดอ ปอล, นิโคลัส โอตาเมนดี้ ฯลฯ
อาร์เจนติน่า ชุดนี้นั้นถูกยกให้เป็นเต็ง 3 ในเที่ยวนี้ร่วมกับทีมชาติอังกฤษ เนื่องจากความแข็งแกร่งและทีมเวิร์คที่เหล่าขุนพลชุดนี้เล่นร่วมกันมานาน โดยรอบแรกทีมฟ้าขาวอยู่ในกลุ่มซี ร่วมกับ ซาอุดิอาระเบีย, เม็กซิโก และ โปแลนด์ ซึ่งถือว่าเพื่อนร่วมสายทีมอื่นเป็นรองพวกเขาทั้งนั้น เส้นทางทะลุสู่รอบสองคงไม่ใช่เรื่องไกลเกินฝัน
สิ่งที่น่าห่วงอย่างเดียวคือสภาพอาการบาดเจ็บล่าสุดที่เอ็นร้อยหวายของ เมสซี่ ที่ดันมาเกิดขึ้นเพียงแค่สองสัปดาห์ก่อนบอลโลก โดยสโมสรต้นสังกัดของเขาอย่าง เปแอสเช รายงานข่าวว่าจะพยายามเยียวยาดาวเตะผู้นี้อย่างดีที่สุดก่อนทัวร์นาเม้นต์สำคัญเริ่มต้นขึ้น แต่ไม่มีใครแน่ใจได้เลยว่ามันจะหายทันหรือส่งผลกระทบต่อความฟิตของเขาขนาดไหน เมื่อการแข่งขันเริ่มขึ้นจริงๆแล้ว
ดูเหมือนว่าการก้าวลงสู่สนามฟุตบอลโลกเป็นครั้งสุดท้ายด้วยวัย 35 ปี แน่นอนด้วยแรงใจแรงเชียร์มหาศาลจากทั่วโลกส่วนใหญ่เอาใจช่วยให้เขาประสบความสำเร็จ แต่ความฝันของ ‘ลีโอ’ จะเป็นความจริงได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างที่เป็นองค์ประกอบแห่งชัยชนะ
คงต้องรอดูกันว่า เมสซี่ จะปิดฉากความเป็นยอดนักเตะของเขาอย่างยิ่งใหญ่สมศักดิ์ศรีด้วยถ้วยฟีฟ่า เวิลด์คัพ หรือสุดท้ายมีเพียง ‘น้ำตา’ เป็นเครื่องปลอบประโลมความผิดหวังเท่านั้น
