จบไปแล้วเรียบร้อยสำหรับศึกมวยปล้ำยิ่งใหญ่ที่สุดของปีจากสมาคม WWE อย่าง WrestleMania โดยปีนี้เป็นครั้งที่ 41 ณ สนาม Allegiant Stadium ในเมือง Las Vegas รัฐ Nevada โดยทั้งสองคืนมีคนดูรวมแล้ว 124,693 คน แบ่งเป็นคืนแรก 61,467 คน และคืนที่สอง 63,226 นอกจากนี้นี่ยังเป็นปีแรกที่หลายๆ ประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยได้ชมผ่านทางสตรีมมิงเจ้าดัง Netflix ในส่วนของกระแสตอบรับจากคนดูก็ต้องบอกว่าปีนี้หลายคนบอกว่าเป็นหนึ่งใน WrestleMania ที่จืดสุดในรอบหลายปี
เราก็เลยขอมาเก็บตกช็อตเด็ดรวมถึงรีวิวแต่ละคู่ของศึก WrestleMania 41 กัน เผื่อใครยังไม่มีเวลาดูก็แวะมาอ่านรีวิวเราก่อนได้ โดยวันนี้จะเป็นส่วนของคืนแรกกันก่อน และพรุ่งนี้จะเป็นของคืนที่สอง ถ้าพร้อมแล้วไปติดตามกันได้เลย

เปิดรายการด้วยการออกมาต้อนรับคนดูเข้าสู่ WrestleMania 41 คืนแรกโดย Paul ‘Triple H’ Levesque ผู้ดำรงตำแหน่ง Chief Content Officer (CCO) คนปัจจุบันของ WWE และเพิ่งเข้าสู่หอเกียรติยศของสมาคมปีนี้มาหมาดๆ



World Heavyweight Championship
Gunther (C) vs. Jey Uso = 3 ดาว
แมตช์แรกประเดิมด้วยการชิงแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวตระหว่าง Gunther แชมป์คนปัจจุบัน ป้องกันแชมป์กับ ‘Main Event’ Jey Uso ผู้ชนะศึก Royal Rumble ชายคนล่าสุด โดยทีแรกน่าจะถูกวางไว้ให้เป็นคู่เอกปิดรายการในคืนแรก แต่เหมือนกระแสจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ สุดท้ายเลยได้มาอยู่คู่เปิดรายการแทน
เริ่มแมตช์มาเป็นทาง Jey ที่อัดใส่ Gunther ก่อนจนทำให้แชมป์เสียอาการต้องลงไปตั้งสติด้านล่างเวทีอยู่หลายรอบ แต่ด้วยความแข็งแกร่งของ Gunther ก็ปล่อยให้ตัวเองเสียเปรียบได้ไม่นาน กลับมาใช้ความแข็งแกร่งไล่อัด Jey หนักๆ อย่างต่อเนื่อง หลังจากนั้นทั้งสองผลัดกันแลกท่าใส่กันแบบไม่มีใครยอมแพ้ โดยทางด้าน Gunther มีโอกาสแอบเอาเข็มขัดตีหัว Jey ด้วยแต่ก็ยังเอาชนะไม่ได้ จนสุดท้าย Jey ได้โอกาสจับ Powerbomb, Spear, Splash 3 ครั้ง ก่อนจะจับล็อคคอจน Gunther ตบพื้นยอมแพ้และกลายเป็นแชมป์โลกเฮฟวี่เวตคนใหม่
สำหรับตัวแมตช์นี้ต้องบอกว่า Gunther ไม่มีปัญหาเรื่องคุณภาพการปล้ำอยู่แล้ว ช่วงก่อนหน้านี้ Jey Uso มักจะชอบ Botch หรือทำพลาดอยู่บ่อยครั้งแต่มาในวันนี้เขาไม่ได้ทำพลาดเท่าไหร่นัก คุณภาพการปล้ำของเขาถ้าพูดกันตามตรงยังห่างชั้นจากระดับมาตรฐานของแชมป์โลกพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสนุกหรือความแข็งแกร่ง คงต้องมารอดูกันว่าเขาจะครองแชมป์เส้นนี้ได้นานแค่ไหน


World Tag Team Championship
The War Raiders (C) vs. The New Day = 2 ดาว
แมตช์ที่สองเป็นการชิงแชมป์โลกแท็กทีมระหว่าง The War Raiders แชมป์คู่ปัจจุบัน กับ The New Day ที่หลังจากเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายอธรรมแล้วก็ยังหาผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันไม่ค่อยได้ แต่สุดท้ายก็มาได้โอกาสชิงแชมป์ใน WrestleMania ซึ่งคุณภาพของแมตช์นี้ก็ต้องบอกว่าจริงๆ แล้วแทบไม่มีอะไรให้จดจำ การปล้ำโดยทั่วไปไม่ต่างจากโชว์ประจำสัปดาห์ของสมาคมฯ และผลก็เป็นทาง The New Day ที่เอาชนะไปได้และคว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ

Jade Cargill vs. Naomi = 1 ดาว
แมตช์ที่สามเป็นการเจอกันของ Jade Cargill กับ Naomi ที่มีเรื่องราวกันมาก่อนหน้านี้คือ Naomi คือคนที่ลอบทำร้าย Jade จนได้รับบาดเจ็บและต้องพักไปนานก่อนที่จะกลับมาตามแก้แค้นและสุดท้ายก็ได้มาเจอกันในศึกใหญ่ประจำปี ส่วนเรื่องของคุณภาพก็ต้องบอกว่าเหมือนกับแมตช์ก่อนหน้าคืออยู่ใน RAW ก็เพียงพอแล้ว เพราะโดยธรรมชาติสองคนนี้ไม่ใช่คนที่ปล้ำเก่งอะไร พอมาเจอกันมันก็ไม่รู้ใครจะแบกใครดี ปล้ำกันตะกุกตะกัก แถมมีช็อต Botch ให้เห็นอีกต่างหาก สรุปแล้วนี่คือแมตช์ที่ถ้าใครพลาดไปก็ไม่เสียหายอะไร สำหรับผู้ชนะก็เป็น Jade Cargill ที่เอาชนะไปได้



US Championship
LA Knight (C) vs. Jacob Fatu = 3.5 ดาว
แมตช์ต่อมาเป็นการชิงแชมป์ยูเอสระหว่าง ‘พ่อหนุ่ม Yeah’ LA Knight กับ Jacob Fatu นักมวยปล้ำซามัวร์ขาโหดที่หมายมั่นว่าเขาจะต้องได้แชมป์เส้นแรกในสมาคมให้ได้เสียที โดยในแมตช์นี้ทั้งสองต่างก็ผลัดกันอัดกันไปมาซึ่ง LA Knight เองมีโอกาสชนะได้หลังจากแก้ท่า Moonsault ของ Fatu มาเป็น BFT ท่าไม้ตายของตัวเองได้ แต่กดได้แค่ 2 เพราะ Fatu จับเชือกไว้ทัน ก่อนที่หลังจากนั้น Fatu จะได้โอกาสโต้กลับชุดใหญ่ และปิดท้ายด้วย Moonsault ใส่ไปสองครั้งติด กดนับ 3 เอาชนะและกลายเป็นแชมป์คนใหม่ ส่วนภาพรวมแมตช์ก็ต้องบอกว่าอยู่ในคุณภาพที่ใช้ได้เลย มีการปล้ำที่หนักหน่วงใส่กันทั้งคู่ ผลัดกันแลกแบบสนุก น่าเสียดายตรงที่มันน่าจะยาวกว่านี้อีกนิดหนึ่ง

Rey Fenix vs. El Grande Americano = 1 ดาว
กลับมาสนุกอยู่ได้แมตช์เดียวคนดูก็ต้องมานั่งกุมหน้าผากอีกครั้งกับแมตช์ระหว่าง Rey Fenix นักมวยปล้ำหน้ากากสุดฝีมือสุดเทพ เจอกับ El Grande Americano นักมวยปล้ำหน้ากากจอมปลอมที่ก็คือ Chad Gable นั่นแหละแต่แค่ยังไม่เฉลย เรื่องคุณภาพก็ไม่รู้จะพูดอะไร เพราะหาข้อดีแทบไม่เจอเลย และผลของคู่นี้ก็ไม่ได้ทำให้ใครดีขึ้น ทางด้าน Rey Fenix อุตส่าห์ได้เดบิวต์ในศึกใหญ่ระดับนี้แต่กลับมาแพ้ให้กับนักมวยปล้ำหน้ากากตัวปลอม เสียโมเมนตั้มดีๆ ไปจนหมด ในขณะที่ Chad Gable ที่ควรจะเก่งในการเป็นตัวเองก็ดันมาเก่งในการเป็นนักมวยปล้ำชื่อกาแฟอย่าง El Grande Americano อะไรก็ไม่รู้ ถ้าใครเปิดดูแล้วอยากเข้าห้องน้ำหรือหาอะไรกินแมตช์นี้เริ่มปุ๊บก็ไปได้เลย



WWE Women’s Championship
Tiffany Stratton (C) vs. Charlotte Flair = 3.75 ดาว
ต่อกันด้วยแมตช์รองคู่เอกที่เป็นการชิงแชมป์หญิง WWE ระหว่าง Charlotte Flair ที่หายเจ็บไปปีกว่าๆ แล้วกลับมาชนะ Royal Rumble คว้าสิทธิ์ชิงแชมป์ใน WrestleMania โดยคนที่เธอเลือกก็คือแม่หนู Tiffany Stratton ที่ต้องบอกว่าคู่นี้เดือดตั้งแต่ก่อนเข้ามาถึง WrestleMania อย่างเช่นการโปรโมทหรือพูดใส่กันที่มีข่าวลือออกมาว่าทั้งสองคนมีการนอกบทจนทาง WWE ต้องมีการตัดบางส่วนออกจากรายการ Smackdown ที่สตรีมมิงผ่าน Netflix ด้วย
โดยเริ่มแมตช์มาเป็นทาง Charlotte ที่มีประสบการณ์มากกว่าอัดดุเดือดใส่แชมป์ในช่วงแรก ก่อนที่หลังจากนั้น Tiffany จะเริ่มอัดไปที่เข่าของ Charlotte ที่เพิ่งผ่าตัดมาทำให้กลับมาได้เปรียบอยู่ช่วงหนึ่ง แต่สุดท้ายก็โดนอัดกลับที่เข่าตัวเองด้วยเหมือนกันซึ่งทาง Charlotte เกือบจะชนะหลังได้ใส่ท่าไม้ตาย Natural Selection จากบนเชือก แต่ก็ไม่ดีพอที่จะทำให้เธอคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 15 ก่อนที่ในท้ายที่สุดจะเป็น Tiffany ที่ได้ใส่ Prettiest Moonsault Ever กดนับสาม ป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ
ในด้านคุณภาพแมตช์นี้ถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว ต่อยอดจากเนื้อเรื่องที่เดือดตั้งแต่ก่อนเข้า Mania จนมาใส่มาแลกกันอย่างสนุกและหนักหน่วงในศึกใหญ่นี้ และการชนะในครั้งนี้ของ Tiffany Stratton ก็เป็นการชนะไอดอลของตัวเองด้วย บอกเลยว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาของเธอจริงๆ ‘IT'S TIFFY TIME!’




Triple Threat Match
Seth Rollins vs. CM Punk vs. Roman Reigns = 4.5 ดาว
ปิดท้ายกันที่คู่เอกของคืนแรกกับศึกสามเส้าระหว่าง Seth Rollins เจอกับ CM Punk และ Roman Reigns ที่ก็สนุกตั้งแต่การปูเนื้อเรื่องเหมือนกับคู่ก่อนหน้า โดยนี่คือการปล้ำเป็นคู่เอกในศึกใหญ่ WrestleMania เป็นครั้งแรกของ CM Punk ที่ตัวเขาเองเฝ้าโหยหามาตลอดตั้งแต่อยู่กับ WWE เมื่อหลายปีก่อน ไฮไลท์อยู่ที่การแย่งชิงตัว Paul Heyman มาอยู่กับตัวเอง แอบเหมือนรักสามเส้านิดๆ โดยช่วงห้าปีที่ผ่านมา Heyman อยู่สร้างความสำเร็จกับ Roman มาตลอด แต่ในคราวนี้เขาเลือกไปอยู่มุมของ CM Punk ที่ก็เป็นอีกคนที่เขาถือว่าเป็นเพื่อนและผลักดันนักมวยปล้ำคนนี้มาตลอดตั้งแต่เขามาอยู่กับ WWE ในขณะที่ Seth บทเหมือนคล้ายๆ ชาวบ้าน 1 ในภาพยนตร์ที่เข้ามามีส่วนร่วมเพราะตัวเองเกลียด Punk
สำหรับคุณภาพของแมตช์นี้ก็ต้องบอกว่า ‘สมราคา’ ของการเป็นคู่เอก WrestleMania โดยการที่มีพื้นฐานดีมาตั้งแต่ช่วงโปรโมททำให้ความสนุกในแมตช์มันครบถ้วน ทั้งสามผลัดกันอัดกันหนักหน่วง มีโอกาสใส่ท่าไม้ตายใส่คู่แข่งแต่ก็ยังไม่มีใครโดนกดนับ 3 จนสุดท้ายมาพีคกับเหตุผลที่เราบอกไปก่อนหน้าคือนี่เหมือนเป็นการแย่งชิง Heyman ซึ่งตอนท้าย Heyman ก็ยื่นเก้าอี้ให้ Punk ก่อนจะล้วงไข่คนที่เขาบอกว่าเป็นเพื่อนรักแล้วหันกลับไปภักดีกับ Reigns แต่ๆๆๆ Heyman ล้วงไข่เจ้านายเก่าไปอีกคน จากนั้นเขาก็ยื่นเก้าอี้ให้ Seth ไปตี Reigns และปิดท้ายด้วยท่าไม้ตาย Stomp กระโดดเหยียบหัว กดนับ 3 ชนะไปได้สำเร็จ ปิดท้ายคืนแรกด้วยความสนุกทั้งการเล่าเรื่องและการปล้ำ