adidas เผยการกลับมาของ F50 สตั๊ดซีรีส์สายสปีดในตำนาน

16 พ.ค. 2567 - 13:00

  • ถ้าใครเป็นสายเตะฟุตบอลและติดตามวงการรองเท้าสตั๊ดอยู่แล้ว น่าจะรู้กันดีว่าปีนี้ adidas เปิดตัวสตั๊ดรุ่น Predator 24

  • ซึ่งเหมือนว่าแบรนด์สามแถบจะไม่หยุดอยู่แค่นี้ เนื่องจากล่าสุดพวกเขาโพสต์ภาพรองเท้าสตั๊ด F50 พร้อมแคปชั่น “Something is loading. Time to bring some beauties from the past.

Return-of-adidas-F50-SPACEBAR-Hero.jpg

ถ้าใครเป็นสายเตะฟุตบอลและติดตามวงการรองเท้าสตั๊ดอยู่แล้ว น่าจะรู้กันดีว่าปีนี้ adidas เปิดตัวสตั๊ดรุ่น Predator 24 เนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปี ของรองเท้าฟุตบอลสายพันธุ์นักล่าอย่าง Predator ที่ก็ได้รับเสียงชื่นชมพอสมควร เพราะทำให้คอบอลหวนนึกถึงอดีตของสตั๊ดรุ่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นลิ้นรองเท้าแบบพับสุดคลาสสิค และแถบปั่น Accelerator แบบดั้งเดิม นำมาผสมกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งเหมือนว่าแบรนด์สามแถบจะไม่หยุดอยู่แค่นี้ เนื่องจากล่าสุดพวกเขาโพสต์ภาพรองเท้าสตั๊ด F50 อีกหนึ่งรุ่นในตำนานพร้อมแคปชั่น “Something is loading. Time to bring some beauties from the past.”

Return-of-adidas-F50-SPACEBAR-Photo_SQ01.jpg

โดยนอกจาก Predator แล้ว F50 ก็เป็นอีกหนึ่งไซโลที่โด่งดังมากที่สุดของ adidas ในยุคสมัยใหม่ เพราะมันเป็นรองเท้าคู่ใจของนักฟุตบอลระดับโลกอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ สุดยอดนักฟุตบอล ซึ่งในปี 2012 เขาก็ใส่รองเท้ารุ่นนี้ถล่มตาข่ายไปถึง 91 ประตู จาก 69 เกม 

สำหรับ F50 เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อปี 2004 ก่อนศึกยูโรปีนั้นจะเริ่มขึ้น โดยมาพร้อมนวัตกรรมที่น่าสนใจอย่าง TUNIT เรื่อยมาจนถึงรุ่น Crazylight ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นรุ่น X ในปัจจุบัน ซึ่งก็ถูกพูดถึงในวงการคนเล่นรองเท้าสตั๊ดว่านี่เป็นรุ่นที่ตามรอยรุ่นพี่อย่าง F50 มาเยอะมาก นี่จึงเป็นเหตุผลที่เหมาะสมในแง่ของมุมมองทางการตลาดที่จะเอาชื่อรุ่น F50 กลับมาสู่รองเท้าสายสปีด ดังนั้นการเปิดตัวของ Predator 24 ที่ทำให้เราหวนนึกถึงอดีต พร้อมกับมองไปถึงอนาคตในด้านเทคโนโลยี ทำให้การกลับมาของ F50 เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นมากๆ สำหรับคนรักการเล่นฟุตบอล

Return-of-adidas-F50-SPACEBAR-Photo01.jpg

สุดท้ายนี้ จู๊ด เบลลิ่งแฮม และ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ รวมไปถึงนักเตะคนอื่นๆ เลือกที่จะหวนคืนสู่แฟรนไชส์ Predator เพื่อต่อยอดความสำเร็จจากอดีตนักฟุตบอลอย่าง เบ็คแฮม, ซีดาน และ กาก้า เช่นเดียวกันกับ เมสซี่, เบนเซม่า, ชไวน์สไตเกอร์ และ เบล ที่เคยขับเคลื่อนประสิทธิภาพรุ่น F50 มาก่อน คงต้องมารอลุ้นกันว่านักเตะรุ่นใหม่ๆ ใครจะขึ้นมาเป็นตัวหลักรับไม้ต่อใน F50 โฉมใหม่ที่กำลังจะมาเร็วๆ นี้

อ้างอิง

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์