‘ดาร์บี้แมตช์ชาว ขวาจัด’!!! พรีวิวก่อนเกม ลาซิโอ พบ โรมา

11 พ.ย. 2566 - 07:04

  • กัลโช่ เซเรีย อา ค่ำคืนนี้จะมี ‘ดาร์บี้ เดลลา คาปิตาเล่’ หรือที่เราคุ้นหูกันในชื่อ ‘โรม ดาร์บี้’ ระหว่าง ลาซิโอ กับ โรมา

  • และก่อนจะไปชมเกมการแข่งขัน วันนี้เราก็มีประวัติคร่าวๆ ของดาร์บี้แมตช์สุดเดือดนี้ พร้อมกับพรีวิวก่อนเกมของทั้งสองทีมมาฝากทุกคนกันด้วย

Rome-Derby-preview-SPACEBAR-Hero.jpg

หลังจากที่ในวีคนี้มี ‘เซบีย่า ดาร์บี้’ หรือ ‘อันดาลูเซีย ดาร์บี้’ บิ๊กแมตช์ที่สำคัญที่สุดนัดหนึ่งของฟุตบอลสเปน ทางฝั่งอิตาลีก็ไม่น้อยหน้า เพราะด้านกัลโช่ เซเรีย อา ลีกสูงสุดแดนมักโรนีก็มีศึก ‘ดาร์บี้ เดลลา คาปิตาเล่’ หรือที่เราคุ้นหูกันในชื่อ ‘โรม ดาร์บี้’ ซึ่งเป็นการเจอกันระหว่างคู่รักคู่แค้นของสองทีมเมืองหลวงแห่งประเทศอิตาลีอย่าง ‘อินทรีฟ้า-ขาว’ ลาซิโอ กับ ‘นางพญาหมาป่า’ โรมา ที่ทั้งสองทีมใช้รังเหย้าร่วมกันคือสนามสตาดิโอ โอลิมปีโก

Rome-Derby-preview-SPACEBAR-Photo03.jpg

ก่อนจะไปพรีวิวการแข่งขัน เราขอพาย้อนไปดูประวัติศาสตร์ความเดือดคร่าวๆ ของทั้งสองทีมกันก่อน โดยนอกจากการต่อสู้กันในวิถีของฟุตบอล การเจอกันของทั้งคู่ก็มีฉากหลังในเรื่องของการเมืองมาเกี่ยวข้องด้วย ต้องบอกก่อนว่าจากชื่อบทความที่เราบอกว่านี่คือดาร์บี้แมตช์ของชาว ‘ขวาจัด’ ก็เพราะความขัดแย้งของทั้งคู่เริ่มด้วยอุดมการณ์แบบฟาสซิสต์ โดยทางลาซิโอก่อตั้งขึ้นมาก่อนเมื่อปี 1900 จากนั้น 27 ปีให้หลัง นายพลเบนิโต มุสโสลินี ผู้นำเผด็จการของอิตาลี ก็สั่งให้รวม 3 สโมสรได้แก่ โรมัน, อัลบา อูเดเซ่ และ ฟอร์ติตูโด เข้าด้วยกันเป็นสโมสร อาแอส โรมา เพื่อรวบรวมทีมในอาณาจักรโรมันให้เป็นหนึ่งเดียว ซึ่งทางฝั่งลาซิโอที่แม้จะอยู่ในเมืองหลวง แต่ก็ไม่โดนรวบไปกับเขาด้วย เพราะทีมได้อิทธิพลของนายพลจอร์จิโอ วัคคาโร หนึ่งในทหารผู้ใกล้ชิดของมุสโสลินีช่วยเอาไว้ เลยเป็นเหตุผลที่ทำให้ทั้งสองทีมเริ่มไม่ชอบขี้หน้ากันนั่นเอง 

แล้วความเกลียดชังที่ก่อตัวขึ้นมาเรื่อยๆ ก็ทำให้ดาร์บี้แมตช์สุดเดือดเกมนี้เคยเลวร้ายถึงขั้นมีแฟนบอล ‘ตาย’ กันเลยทีเดียว เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นในปี 1979 ที่ทั้งคู่พบกัน วินเชนโซ ปาปาเรลลี แฟนบอลของลาซิโอถูกพลุแฟร์ที่ยิงมาจากฝั่งอัฒจันทร์ทิศใต้ ที่ประจำของกลุ่มอุลตร้าโรมา เข้าไปที่เบ้าตาซ้ายเต็มๆ แม้จะพยายามนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว แต่ก็ยื้อชีวิตเขาไม่ไหวอยู่ดี กลายเป็นผู้เสียชีวิตคนแรกในฟุตบอลอิตาลีเนื่องจากเหตุรุนแรง 

นอกจากนี้เหตุการณ์กระฉ่อนในอดีตระหว่างสองทีมนี้ก็มีให้เห็นมากมายอย่างเช่น แฟนบอลอุลตร้าบางส่วนของลาซิโอก็มักจะเอาเครื่องหมายสวัสดิกะของนาซีขึ้นแบนเนอร์ให้เห็น โดยในปี 1998/99 แฟนบอลลาซิโอเคยขึ้นแบนเนอร์ยาว 50 เมตร บนอัฒจันทร์ฝั่งทิศเหนือของพวกเขาด้วยข้อความว่า ‘Auschwitz is your town, the ovens are your houses’ แปลเป็นไทยได้ว่า ‘เอาชวิทซ์คือเมืองของพวกเอ็ง และเตาอบที่รมแก๊สก็คือบ้านของพวกเอ็งด้วย’ ซึ่งแฟนบอลโรมาก็มีบางส่วนเป็นชาวยิว แล้วค่ายกักกันเอาชวิทซ์ก็คือหนึ่งในที่ที่ชาวยิวเสียชีวิตมากที่สุดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง นี่ยังไม่นับเหตุการณ์สุดโต่งของ เปาโล ดิ คานิโอ อดีตนักเตะแบดบอยของลาซิโอที่เคยไปชูแขน 45 องศา อันเป็นท่าทักทายของนาซีต่อหน้าแฟนบอลโรมาอีกด้วย ในขณะที่การกระทำของแฟนบอลในปัจจุบันก็ยังมีเรื่องแบบนี้ให้เห็นอยู่เรื่อยๆ เช่นเคยมีแฟนบอลลาซิโอใส่เสื้อของทีมที่ข้างหลังสกรีนชื่อว่า ‘Hitlerson’ ซึ่งก็ไม่รอดโดนการ์ดลากออกไปจากสนามทันที แถมโดนแบนไปตามระเบียบ

Rome-Derby-preview-SPACEBAR-Photo04.jpg

หลังจากอ่านประวัติความเดือดของแมตช์นี้ไปคร่าวๆ แล้ว เราก็ขอมาพรีวิวความพร้อมของทั้งคู่กันสักหน่อย เริ่มจากทาง ‘อินทรีฟ้า-ขาว’ ลาซิโอ กันก่อน ที่ปีนี้ผลงานค่อนข้างทุลักทุเลตั้งแต่เริ่มออกสตาร์ท ผิดกับปีที่แล้วที่จบด้วยการเป็นรองแชมป์ ปัญหาแรกเลยก็คือ ชิโร อิมโมบิเล่ กองหน้ากัปตันทีมที่ฟอร์มเริ่มโรยราไปตามอายุ ซึ่งเอาจริงๆ ฟอร์มก็เริ่มดร็อปมาตั้งแต่ปีก่อน และมาหนักเอาในปีนี้ โดยลงเล่น 10 นัด เพิ่งจะยิงได้แค่ 3 ประตู จนเริ่มหลุดตำแหน่งตัวจริงของทีมแล้วด้วย และผ่านไป 11 นัดในลีก นอกจากปัญหาปืนฝืดยิงไปเพียง 13 ลูก ก็ยังเสียประตูไปแล้วถึง 13 ลูก ทั้งที่ในซีซันก่อน พวกเขาเสียประตูน้อยสุดเป็นอันดับ 2 ของลีก ตำแหน่งปัจจุบันอยู่อันดับ 10 ของตาราง จากการแข่ง 11 นัด ชนะ 5 เสมอ 1 แพ้ 5 มีอยู่ 16 คะแนน 

ต่อกันที่ฝั่งของทีมเยือนอย่าง ‘หมาป่าเหลืองแดง’ โรมา กันบ้าง ที่ผลงานดีกว่าคู่ปรับร่วมเมืองเล็กน้อย โดยตอนก่อนเปิดฤดูกาล โชเซ่ มูรินโญ่ เคยออกมาให้สัมภาษณ์เชิงน้อยใจกับงบการเสริมทัพของทีมที่แทบจะไม่มีให้เลย ตัวผู้เล่นส่วนใหญ่ที่ได้มาในปีนี้ก็มักจะเป็นการเซ็นฟรีหรือไม่ก็ยืมตัว และหนึ่งในนั้นก็คือศูนย์หน้าตู้เย็น ‘บิ๊กตู้’ โรเมลู ลูกากู ที่สุดท้ายมาลงเอยด้วยการถูกปล่อยยืมจากเชลซีมาอยู่กับอดีตเจ้านายเก่าอีกครั้ง ซึ่งเจ้าตัวก็ทำผลงานได้ตามมาตรฐานเวลาเล่นในอิตาลี ลงสนามไปแล้ว 9 นัด ยิงไป 6 ประตู แม้ทีมจะเล่นเกมรับซะเป็นส่วนใหญ่ จากการยิงประตูของเขาก็ทำให้โรมาถลุงคู่แข่งมากสุดเป็นอันดับ 3 ของลีก เป็นรองแค่อินเตอร์ มิลาน และ นาโปลี เท่านั้น ส่วนอันดับปัจจุบันพวกเขาอยู่ที่ 7 ชนะ 5 เสมอ 2 แพ้ 4 มีอยู่ 17 แต้ม 

สุดท้ายก็ไม่รู้ว่าเกม ‘โรม ดาร์บี้’ เวอร์ชัน 2023 นัดแรกจะออกมาหน้าไหน แต่ถ้าอิงตามสถิติการเจอกันในลีกยามที่ลาซิโอได้เป็นเจ้าบ้านแล้ว พวกเขาไม่แพ้โรมาเลยมา 5 ปีเต็มๆ แล้ว ชนะ 4 นัด เสมอ 2 นัด หนสุดท้ายที่แพ้ต้องย้อนไปในฤดูกาล 2016 ที่แพ้ไป 0-2 คงต้องมารอดูกันว่าจากผลงานปีนี้ที่ใกล้เคียงกันของทั้งคู่ เกมค่ำคืนวันอาทิตย์จะออกมารูปแบบไหน แต่คาดว่ายังไงก็ดุเดือดเหมือนเดิมแน่นอน

อ้างอิง

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์