มาโน่ ไปต่อหรือพอแค่นี้? หลังจบเกมช้างศึกบุกทุบสิงคโปร์

22 พฤศจิกายน 2566 - 04:49

Singapore-Vs-Thailand-after-game-SPACEBAR-Hero.jpg
  • จบไปแล้วเรียบร้อยสำหรับศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ที่ทีมชาติไทยบุกไปยัดเยียดความปราชัยให้กับทีมชาติสิงคโปร์ เก็บ 3 แต้มแรกที่ต้องการได้สำเร็จ

  • แต่สุดท้ายถ้าพูดกันในภาพรวมเมื่อดูฟอร์มการเล่นในวันนี้แล้ว บอกเลยว่าการจะก้าวไประดับเอเชียแค่นี้ยังไม่พอ

  • วันนี้เราก็เลยจะมาคุยประเด็นหลังเกมกันเล็กๆ น้อยๆ ทั้งเรื่องเกมวันนี้ และหลังจากนี้ว่าอาจจะมีความเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นบ้าง

จบไปแล้วเรียบร้อยสำหรับศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ของทัพ ‘ช้างศึก’ ทีมชาติไทยที่เพิ่งบุกไปยัดเยียดความปราชัยให้กับขุนพล ‘ลอดช่อง’ ทีมชาติสิงคโปร์ ไปได้ถึงถิ่น 3-1 ทำให้เราเก็บ 3 แต้มแรกที่ต้องการได้สำเร็จ รั้งอันดับ 2 ของกลุ่มเหนือทีมชาติจีน เนื่องจากประตูได้เสียของเราดีกว่า เพราะเขาเพิ่งกลับไปเปิดบ้านแพ้ทีมชาติเกาหลีใต้ 0-3  

แต่สุดท้ายถ้าพูดกันในภาพรวมเมื่อดูฟอร์มการเล่นในวันนี้แล้ว บอกเลยว่าการจะก้าวไประดับเอเชียแค่นี้ยังไม่พอ เพราะเมื่อมองไปในรายละเอียดของเกม การที่ทีมชาติไทยได้ประตูขึ้นนำก็มีผลมาจากนักเตะที่แฟนบอลไทยคุ้นเคยกันอยู่แล้ว และก็ไม่ใช่ใครที่ไหนอย่าง ‘เจ้ามุ้ย’ ธีรศิลป์ แดงดา เหมือนเดิม นั่นก็ทำให้กระแสข่าวลือการเปลี่ยนโค้ชโหมหนักขึ้นไปอีก ยิ่งหลังจบเกมมีคลิปรีแอคชั่นของ มาโน่ โพลกิ้ง ที่เหมือนเป็นการบอกลานักเตะแบบกลายๆ ก็ยิ่งเป็นเครื่องหมายคำถามตัวโตๆ เข้าไปอีกว่าเฮดโค้ชชาวเยอรมันจะ ‘ได้ไปต่อหรือพอแค่นี้’  

วันนี้เราก็เลยจะมาคุยประเด็นหลังเกมกันเล็กๆ น้อยๆ ทั้งเรื่องเกมวันนี้ และหลังจากนี้ว่าอาจจะมีความเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นบ้าง 

จัดตัวเซอร์วิสแฟนบอล แต่รูปแบบการเข้าทำไม่ชัดเจน

Singapore-Vs-Thailand-after-game-SPACEBAR-Photo01.jpg

ปัญหาเดิมๆ เหมือนกับแมตช์อุ่นเครื่องฟีฟ่าเดย์ที่ผ่านๆ มา ก็คือผลลัพธ์มันออกมาแบบเดิม เหมือนไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง นัดแรกแพ้ไปก่อน ซึ่งก็อาจจะมีการจัดตัวแบบแปลกๆ จับนักเตะไปยืนในตำแหน่งที่ไม่ถนัดบ้าง ส่วนนัดต่อมาก็กลับมาจัดตัวเหมือนอ่านใจแฟนบอลออกว่าอยากให้เป็นยังไง อย่างในรอบนี้นัดแรกเลือกเอา สุภโชค สารชาติ ไปยืนฝั่งขวา ทั้งๆ ที่เจ้าตัวมีฟอร์มการเล่นในบอลสโมสรที่ดีตรงบริเวณฝั่งซ้ายมาตลอด หรือการเอา ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ที่มีฟอร์มโดดเด่นกับบุรีรัมย์ปีที่แล้วในบทบาทตัวรุกฝั่งขวา ไปยืนเป็นหน้าเป้า ซึ่งนัดนี้ก็เปลี่ยนให้ไปยืนในตำแหน่งที่ถนัด แล้วก็กลับมามีผลงานที่ดี ส่วนรูปแบบการเข้าทำก็ยังไม่ชัดเจน มีการเล่นมากจังหวะให้เห็นเหมือนเดิม สุดท้ายมันก็เลยออกมาเหมือนรอบก่อนๆ คือรู้สึกแบบเดิม ไม่ได้มีการพัฒนาที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องสมกับการแข่งขันที่ต้องเจอในระดับเอเชีย 

No Teerasil, No Party

Singapore-Vs-Thailand-after-game-SPACEBAR-Photo02.jpg

ต่อจากเรื่องของรูปแบบแท็คติกการเข้าทำไม่ชัดเจน แฟนบอลที่ติดตามทีมชาติไทยมาหลายยุคหลายสมัย คงรู้กันดีว่าเราไม่มี ธีรศิลป์ แดงดา ไม่ได้ เรียกได้ว่าขาดใครขาดได้ แต่ขาดมุ้ยไม่ได้ เพราะถ้าย้อนไปเมื่อช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เราพยายามหาตัวแทนของผู้ชายคนนี้มาโดยตลอด อยากได้กองหน้าที่ทดแทนกันได้ ยิ่งนานวันอายุของมุ้ยเพิ่มมากขึ้น สภาพร่างกายไม่ได้ฟิตสมบูรณ์เหมือนเดิม จะให้ลงทุกนัดก็ลำบาก แต่การขาดเขาในแต่ละนัดมันส่งผลชัดเจนนมาเสมอ การเล่นฟุตบอลของเจ้ามุ้ยไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเลย ‘จับ แตะ พลิก ยิง/จ่าย’ เบสิคฟุตบอลพื้นๆ ที่สามารถเปลี่ยนจังหวะของเกมจากรับเป็นรุกให้กลายเป็นความได้เปรียบของทีม อย่างสองประตูขึ้นนำที่ได้วันนี้ เขาก็ทำแค่นั้นเลย จากนั้นก็เป็นหน้าที่ของคนใส่สกอร์ ฉะนั้นแล้วถ้าในเร็ววันนี้ เรายังหาตัวแทนที่ทำแบบนี้ไม่ได้ อนาคตลำบากแน่นอน 

จับตามองโค้ชใหม่ ไทยหรือต่างชาติ?

Singapore-Vs-Thailand-after-game-SPACEBAR-Photo03.jpg

แม้จะจบเกมด้วยชัยชนะพร้อมกับประเดิมเก็บ 3 แต้มแรกในการแข่งขันบอลโลกรอบคัดเลือกหนนี้ แต่นี่ก็ไม่ใช่ผลงานแบบที่แฟนบอล และใครๆ คาดหวัง โดยก่อนเริ่มการแข่งขัน สิ่งที่หลายคนคาดหวังไว้คือ เราต้องได้อย่างน้อย 4 แต้ม หรือ 6 แต้มเต็ม นั่นก็คือการเสมอหรือชนะจีน และชนะสิงคโปร์ เพราะหลังจากนี้เราจะต้องไปเล่น เอเชียน คัพ ในช่วงต้นปีหน้า ก่อนจะต้องเจอกับทีมชาติเกาหลีใต้ 2 นัด ซึ่งถ้าว่ากันตามตรงระดับฟุตบอลเรายังห่างกับเขาเยอะพอสมควร จะหวังชนะหรือยันเสมอคงยากมากๆ อย่างจีนที่เพิ่งโดนยิงไป 3 ประตู แล้วทีมชาติไทยต้องแย่งอันดับ 2 ด้วย อย่างน้อยๆ เราก็ต้องแพ้ไม่มากไปกว่าเขา นั่นก็เลยทำให้กระแสการเปลี่ยนโค้ชคนใหม่ยิ่งโหมหนักขึ้นไปอีก เพราะหลายคนก็คิดแล้วว่า มาโน่ ไม่มีปัญหาเลยในการคุมทีมลงแข่งระดับอาเซียน แต่ด้วยเกรดนักเตะเราที่ดีขึ้นกว่าเดิมเยอะมากในรอบหลายปี เฮดโค้ชชาวเยอรมันให้ผลลัพธ์ในระดับเอเชียไม่ได้แล้ว 

เมื่อไม่ได้ก็อาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายจากหลายๆ ปัจจัย ทั้งในเรื่องของสมาคมฟุตบอลฯ ที่กำลังจะหมดวาระ การจะทำเรื่องใหญ่ๆ ระหว่างนี้ก็ดูจะยากไปหน่อย โดยถ้ามองย้อนกลับไปตอนที่เรามีตัวเลือกเป็น มาซาทาดะ อิชิอิ มันก็เป็นอะไรที่น่าเสียดาย เพราะเจ้าตัวพร้อมทำเต็มสูบทุกอย่าง เราก็ตัดสินใจไม่เลือกเขา จะมาเอาตอนนี้ก็ยากแล้ว ดังนั้นโค้ชไทยอาจจะเป็นคำตอบที่ชัดเจนที่สุด แต่ถ้าว่ากันตามตรงตอนนี้คนที่มีอิมแพคต์จริงๆ ก็ไม่มีใครพร้อมเข้ามาทำอีก สุดท้ายคงต้องมารอจับตาดูกันว่าเรื่องโค้ชสุดอีรุงตุงนังจะจบลงอย่างไร เพราะถ้าไม่ชัดเจน เส้นทางฟุตบอลโลกหลังจากนี้ บอกได้คำเดียวเลยว่า 'เหนื่อย'

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์