แมนฯ ยูไนเต็ดกับปัญหาที่ไม่สามารถแก้ได้ด้วยการ ‘เปลี่ยนโค้ช’

2 พฤศจิกายน 2566 - 10:00

Sport-Analysis-ManUtd-Falling-Down-SPACEBAR-Hero.jpg
  • บทวิเคราะห์เรื่องราวจากฟอร์มการเล่นที่ย่ำแย่ของสโมสรแมนฯ ยูไนเต็ด หลังจากที่ล่าสุดพ่ายแพ้ให้กับนิวคาสเซิล ยูไนเต็ดไปด้วยสกอร์ 0-3

  • ปัญหาที่วนลูปกลับมาที่เดิมถึงประเด็นการปลดโค้ช ทั้งที่แท้จริงแล้วสิ่งนี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ในเวลานี้ แต่กลับเป็นเรื่องราวที่ใหญ่มากกว่านั้น

เรียกได้ว่าแพ้แล้ว แพ้อีก แพ้แบบคนเชียร์ก็เริ่มท้อ คนล้อก็เริ่มหมดมุขที่จะแซวกันแล้ว สำหรับช่วงเวลาที่หนักหน่วงช่วงนี้ สำหรับสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ล่าสุดเปิดบ้านแพ้ให้กับสโมสรนิวคาสเซิล ยูไนเต็ดด้วยสกอร์ 0-3 คาบ้านชนิดที่แฟนบอลก็เริ่มชินชา นักเตะก็เริ่มหมดใจ แต่แท้จริงแล้วปัญหานี้มันเกิดขึ้นจากอะไรกัน บทความนี้เราลองหยิบสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมาวิเคราะห์ดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง และปัญหานี้การไล่ เอริก เทน ฮาก ออกจากโค้ชเป็นการแก้ไขที่ถูกต้องจริงหรือไม่ ?

Sport-Analysis-ManUtd-Falling-Down-SPACEBAR-Photo01.jpg

ปัญหาที่ 1 : ตลาดซื้อขายนักเตะที่ล้มเหลวและการใช้เงินที่ฟุ่มเฟือยในฤดูกาล 2023-2024  

สิ่งแรกที่ต้องหยิบมาพูดกันและเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจก็คือ ตลาดการซื้อขายครั้งนี้ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่หาความดีไม่เจอ พบเจอแต่ความแย่ ความลำบากเต็มไปหมด การตัดสินใจไม่ต่อสัญญา ดาบิด เด เคอา และปล่อยนักเตะด้วยราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาดหลายๆ คน อาทิ เฟร็ด,ดีน แฮนเดอร์สัน หรือจะเป็นบรรดาดาวรุ่งหลายๆ คนที่เดินออกจากถิ่นปีศาจแดง ล้วนแล้วแต่ไม่ได้กำไรหรือเงินใดๆ เลยมาช่วยในฝั่งของการทำธุรกิจ แถมยิ่งไปกว่านั้น การเซ็นสัญญา อังเดร โอนาน่า และ เมสัน เมาท์ ก็ดูเหมือนจะเป็นดีลที่สร้างความประหลาดใจให้กับแฟนผีแดงไม่น้อย เพราะตำแหน่งที่ทีมขาดกลับไม่เสริม แต่ไปเติมในส่วนที่ยังไม่จำเป็น ยิ่งไปกว่านั้น ราสมุส ฮอยลุนด์ กองหน้าดาวรุ่งก็ยังไม่ได้ฉายแสงให้รู้สึกว่า ราคาที่เสียไปจะคุ้มค่าแม้แต่ปอนด์เดียว ดังนั้นสรุปได้เลยว่า การติด FFP ของปีศาจแดงในเวลานี้ ตลาดซื้อขายหนนี้พวกเขาล้มเหลวและเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ทีมเดินทางมาถึงช่วงวิกฤตแบบนี้

Sport-Analysis-ManUtd-Falling-Down-SPACEBAR-Photo02.jpg

ปัญหาที่ 2 : ห้องแต่งตัวนักเตะกำลังมีปัญหาภายในอย่างเห็นได้ชัด  

ข้อนี้ในตอนแรกปัญหาอาจจะยังไม่ค่อยชัดเจนนัก จนกระทั่งใน 2 นัดล่าสุดที่พวกเขาเจอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด สิ่งนี้ยิ่งชัดเจนมากขึ้น เริ่มต้นมาจากการมาของ ดาบิด เด เคอา ที่แวะมาเยี่ยมเพื่อนๆ บ่อยๆ เราจะเห็นได้ว่า เพื่อนในทีมจะซัพพอร์ทเขาอยู่เสมอ มีการถ่ายภาพร่วมกัน การทำกิจกรรมร่วมกันอยู่บ่อยๆ รวมไปถึงการที่เพื่อนร่วมทีมกำลังปกป้อง จาร์ดอน ซานโช่ และหาทางยุติเรื่องราวความขัดแย้งในห้องแต่งตัวระหว่าง ซานโช่ และ เอริก เทน ฮาก ตรงนี้ก็เห็นได้ชัดว่า ปัญหามันเริ่มกระจายวงกว้างมากขึ้นและเป็นรอยร้าวที่เราเห็นมาได้ทุกยุคทุกสมัยว่า นักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มักทำตัวใหญ่กว่าสโมสรอยู่เสมอ ถึงแม้จะเคยมีการกำจัดไวรัสในห้องแต่งตัวอย่าง พอล ป็อกบา และ เจสซี่ ลินการ์ด ไปแล้ว แต่ไวรัสก็ยังคงหลงเหลืออยู่ อาจจะไม่รู้ว่าใคร แต่ลึกๆ ในใจผมว่าท่านผู้อ่านพอจะเดาได้ว่า ใครกัน ส่วนปัญหานี้จะจบอย่างไร ระบบไม้แข็งจะเอานักเตะเหล่านี้อยู่หรือไม่ในอนาคต ตรงนี้ก็ต้องมาดูกันว่า ห้องแต่งตัวของปีศาจแดงจะเป็นอย่างไรต่อจากนี้

Sport-Analysis-ManUtd-Falling-Down-SPACEBAR-Photo03.jpg

ปัญหาที่ 3 : ครอบครัวเกลเซอร์ไม่พัฒนาสโมสรและไม่ได้อยากให้ใครเขามาพัฒนา

อีกหนึ่งสิ่งที่แฟนผีเสียดายไปตามๆ กันก็คือ การเทคโอเวอร์ของ ชีค ยาสซิน ที่ดีลล่มลงไปเพราะว่า ตระกูลเกลเซอร์ไม่ต้องการจะขายแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเวลานี้และยังต้องการดูแลผลประกอบการทางธุรกิจของสโมสร ทำให้ปัญหาคาราคาซังที่มีอยู่ในการพัฒนาที่ต้องเริ่มต้นจากเจ้าของทีม ไม่เกิดผลเสียที การไม่เดินไปด้วยกันทั้งระบบตรงนี้เองก็ทำให้ปีศาจแดงเดินมาถึงจุดเดิมเช่นกัน อีกทั้ง เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ ตอนนี้ท่าทีที่จะมาเทคโอเวอร์สโมสรก็ดูเงียบลงไปอีกแล้วด้วย ฉะนั้นหากเกลเซอร์ยังไม่ขยับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็อย่าหวังเลยว่าจะได้กลับมาเทียบเท่ากับ ลิเวอร์พูลหรือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเวลานี้

Sport-Analysis-ManUtd-Falling-Down-SPACEBAR-Photo04.jpg

ปัญหาที่ 4 เอริก เทน ฮาก กับการลดอีโก้ในการทำงานดูบ้างอาจจะช่วยได้ไม่น้อย

หากจะบอกว่าปัญหาจากฝั่งผู้เล่นเกิดขึ้นเยอะแยะมากมาย ปัญหาจากตัวผู้จัดการทีมก็เช่นกัน ณ ตอนนี้ต้องบอกว่า เราคงได้เห็นการทำงานของ เอริก เทน ฮาก กันมาสักระยะใหญ่แล้วว่า เขาเองก็มีส่วนในการตัดสินใจเรื่องราวบางอย่างของทีมเช่นกัน ทั้งการซื้อขายผู้เล่นเข้าและออก รวมไปถึงการเลือกตัวผู้เล่นลงสนาม จะเห็นได้เลยว่าในระยะหลัง เขาคิดเยอะมากกว่าในฤดูกาลแรกเยอะมากๆ การส่งผู้เล่นอย่าง วิคตอร์ ลินเดอร์เลิฟ หากจะพูดถึงปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บเอาจริงก็คง ใช่ แต่เชื่อเถอะว่า ตอนนี้กลุ่มผู้เล่นเริ่มมีการแบ่งพรรคแบ่งพวกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้ปัญหาการเอาผู้เล่นมาใช้ในสนามก็เห็นได้ชัดว่า ยิ่งคิดเยอะ ยิ่งได้ผลลัพธ์ที่แย่ลงทุกที อีกทั้งอีโก้การแสดงออกในการใช้ไม้แข็งแบบไม่หัก ไม่ยอมงอ แบบนี้ก็ต้องมาดูกันว่า มันจะส่งผลอย่างไรในอนาคตอีกหรือไม่ ? จะเป็น เทน ฮาก หรือ ทีมที่ได้เดินไปข้างหน้าต่อ อันนี้ก็ต้องมาดูกัน  

ท้ายที่สุดนี้ปัญหาของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเวลานี้เห็นทีคงจะไม่ใช่แค่ปัญหาจากตัวกุนซืออีกต่อไปแล้ว เพราะมันกำลังลุกลามไปสู่การแตกหักครั้งใหญ่ที่จะนำไปสู่การเริ่มต้นใหม่ในแบบที่เคยเป็นมา ก็ต้องมาดูกันว่า พวกเขาจะผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายแบบนี้ไปได้อย่างไร แต่เหนือสิ่งอื่นใดเลยก็คือ 

ช่วยชนะบ้าง เหนื่อยจะทำคอนเทนต์แนวนี้ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแล้ว  

จริงๆ นะ

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์