นับถอยหลังเริ่มต้นใหม่กันไปเรื่อยๆ สำหรับการกลับมาคิกออฟอีกครั้งของศึกฟุตบอล รีโว่ ไทยลีก หรือ ไทยลีก 1 ในวันศุกร์ที่ 9 สิงหาคมที่จะถึงนี้ เมื่อวานเราได้พาทุกคนไปพรีวิวตอนแรกกันไปแล้วกับสามทีมที่มีลุ้นแชมป์ไทยลีกซีซันใหม่ นั่นก็คือ ‘ปราสาทสายฟ้า’ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่า, ‘แข้งเทพ’ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด รองแชมป์ และ ‘เดอะ แรบบิท’ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่เสริมทัพเยอะสุดๆ จนมีโอกาสลุ้นแชมป์ถ้าทำผลงานออกมาดี
สำหรับวันนี้ตอนที่ 2 เราจะพาไปดูกลุ่มทีม ‘หัวตาราง’ ไปดูกันว่าจะมีทีมอะไรบ้าง โดยเราคาดว่าอาจจะไม่ต่างจากปีที่แล้วมาก ถ้าพร้อมแล้วติดตามได้เลยครับ
การท่าเรือ เอฟซี
ประเดิมทีมแรกกับ ‘สิงห์เจ้าท่า’ การท่าเรือ เอฟซี ที่ในฤดูกาลที่แล้วก็ยังรักษาระดับผลงานของสโมสรไว้ได้ดีต่อเนื่องเหมือนเคย ด้วยการจบอันดับที่ 3 บนตารางคะแนน โดยในปีนี้หัวเรือใหญ่ยังคงเป็น ‘โค้ชอ้น’ รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค สำหรับปีนี้พวกเขาปล่อยตัวผู้เล่นที่ไม่ได้ใช้งานและไม่อยู่ในแผนการทำทีมออกไปเยอะเหมือนกัน อย่างเช่น ชาร์ลี คลัฟ, นูรูล ศรียานเก็ม, ทิตาธร อักษรศรี, แฮมิลตัน โซอาเรส, ทิตาวีร์ อักษรศรี และ วิลเลียม ไวเดอร์เฌอ เป็นต้น ในขณะที่ฝั่งขาเข้าก็เสริมทัพนักเตะที่คุ้นหน้าคุ้นตามีดีกรีผ่านการเล่นไทยลีกจากสโมสรอื่นและทำผลงานดีมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแข้งต่างชาติอย่าง วิลเล่น โมต้า จากทรู แบงค็อกฯ, อิรฟาน ฟานดี้ จากบีจี ปทุมฯ, ไอแซค ฮอนนี จากโปลิศ เทโรฯ, ลอนซานา ดุมบูย่า จากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ส่วนฝั่งนักเตะไทยก็มี ชัยวัฒน์ บุราญ จากลำพูน วอริเออร์, ชนินทร์ แซ่เอียะ จากชลบุรี เอฟซี และ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี จากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จากผู้เล่นฟอร์มดีทั้งหมดนี้ถ้าโค้ชอ้นใช้งานพวกเขาได้ดี เชื่อว่ายังไงทีม ‘สิงห์คลองเตย’ ก็จะวนเวียนอยู่กลุ่มหัวตารางไทยลีกเหมือนเดิม
เมืองทอง ยูไนเต็ด
ต่อด้วยทีมที่สอง ทัพ ‘กิเลนผยอง’ เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ในปีที่แล้วผลงานในช่วงแรกไม่ค่อยดี ลงไปวนเวียนอยู่โซนล่างของตารางอยู่นานก่อนที่จะเร่งสปีดตัวเองกลับมาได้ จนสุดท้ายขึ้นมาจบครึ่งบนของตารางที่อันดับ 5 ได้สำเร็จ มาในปีนี้พวกเขาปรับทัพใหม่ตั้งแต่ส่วนของกุนซือ โดยไปได้ จิโน่ เล็ตติเอรี่ เฮดโค้ชอิตาลีวัย 57 ปี ที่พาทีม ปาเนเวชีส ในลีกสูงสุดของประเทศลิทัวเนีย คว้าแชมป์ลีกได้แบบแพ้ไปแค่นัดเดียว ส่วนด้านตัวผู้เล่นก็เสียกำลังหลักอย่าง เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ และ วิลเลียน พ็อพพ์ สองคีย์แมนในซีซันที่แล้วไปแต่ก็ได้ผู้เล่นใหม่ๆ เข้ามาทดแทนเยอะ อย่างเช่น เดนิส บุสน์ยา, กิตติพงษ์ ภูแถวเชือก และ จักพัน ไพรสุวรรณ จากบีจี ปทุมฯ, กษิดิ์เดช เวทยาวงษ์ จากพีที ประจวบฯ, สรวิทย์ พานทอง จากโปลิศ เทโรฯ ในขณะที่ผู้เล่นต่างชาติ ก็มี อาลี ซิสโซโก้ จากลำพูน วอริเออร์, ยาค็อบ มาห์เรอร์ จากมาดูรา ยูไนเต็ด, สกอตต์ วูดส์ จากเอลส์ ทอร์นเบิร์ก และ เอมิล โรบัค อดีตแข้งที่เคยอยู่กับเอซี มิลาน เป็นต้น ต้องมารอดูกันว่าปีนี้ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงพวกเขาจะทำผลงานได้ดีตั้งแต่ต้นหรือเปล่า
ราชบุรี เอฟซี
อีกหนึ่งทีมที่ทำผลงานได้ค่อนข้างใช้ได้ในปีที่แล้ว ไม่ดีไม่ร้ายเกินไปก็ต้องยกให้ ‘ราชันมังกร’ ราชบุรี เอฟซี ที่จบในอันดับที่ 6 ชนะ 11 นัด เสมอ 6 นัด และแพ้ 13 นัด เก็บได้ 39 คะแนน ที่ในปีนี้เลือกใช้บริการ ‘โค้ชอั๋น’ สุรพงษ์ คงเทพ มาเป็นกุนซือคนใหม่ของทีม ซึ่งก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่ราชบุรีจะเน้นใช้โค้ชสเปนเป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่ตัวผู้เล่นฝั่งขาออกก็ต้องบอกว่าเสียออกไปไม่เยอะ ตอนนี้มีแค่ห้าคนนั่นก็คือ ปาร์ค จุน ฮยอง, ไทรอน กุสตาโว, สัญชัย นนทศิลา, ซามูเอล อมาด้า และ สิทธิโชค กันหนู ส่วนด้านนักเตะใหม่ก็เสริมทัพได้น่าสนใจหลายคน อย่างเช่น อภิสิทธิ์ โสรฎา จากบีจี ปทุมฯ, สุพร ปีนากาตาโพธิ์ จากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, วรวุฒิ นามเวช จากการท่าเรือ เอฟซี, ยาสเซอร์ บัลเด้ จากลาวาล, เกลมองค์ ดีเปรส์ จากโรเดซ, ทัตสึยะ ทานากะ จากอวิสป้า ฟุกุโอกะ และบิ๊กดีลที่ยังรอความชัดเจนอยู่เล็กน้อยนั่นก็คือ ‘เจ้ากัน’ ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร จากเมืองทอง ยูไนเต็ด มารอชมกันว่าการเปลี่ยนโค้ชมาใช้บริการคนไทยของ ‘ราชันมังกร’ จะพาทีมจบอันดับที่เท่าไหร่ในซีซันนี้
พีที ประจวบ เอฟซี
ปิดท้ายกันด้วยอีกหนึ่งทีมที่เราคิดว่าอาจจะได้ป้วนเปี้ยนหรือมาจบบนแก๊งหัวตารางนั่นก็คือ ‘ต่อพิฆาต’ พีที ประจวบ เอฟซี ที่ในปีที่แล้วช่วงต้นผลงานค่อนข้างทุลักทุเล ต้องพยายามดิ้นรนหนีตกชั้น แต่สุดท้ายพวกเขาก็รอดมาได้ด้วยผลงานของกุนซือระดับฝีมือที่ไว้ใจได้เสมออย่าง ‘โค้ชเตี้ย’ สะสม พบประเสริฐ พาทีมขึ้นมาจบอันดับที่ 10 ได้อย่างอยู่รอดปลอดภัย มาในปีนี้แม้ว่าทีมจากเมืองสามอ่าวจะเสียผู้เล่นไปเยอะแต่พวกเขาก็เสริมทัพเข้ามาเยอะเหมือนกัน แถมมีดีกรีเล่นไทยลีกได้ดีแล้วทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักเตะต่างชาติอย่าง บาร์รอส ทาร์เดลี, ตาอัว เฟร์ไรรา, วานเดอร์ หลุยส์, อาลี อมีราลี เชกินี ในส่วนคนไทยก็มี ศนุกรานต์ ถิ่นจอม, ธนาเสฏฐ์ สุจริต, กานต์นรินทร์ ถาวรศักดิ์, แซมมวล ป.คันนิ่งแฮม และ เจนรบ สำเภาดี เป็นต้น ซึ่งท่ามกลางการเสริมทัพที่น่าสนใจ บวกกับการที่โค้ชเตี้ยเองมีเวลาอยู่กับทีมมาแล้วพอสมควร น่าจะมีความเข้าใจในทีมมากขึ้น เราเลยคิดว่าในปีนี้ พีที ประจวบ เอฟซี จะเป็นอีกหนึ่งทีมที่น่าสนใจ มีลุ้นในส่วนของหัวตารางอีกทีม