ซูฮกเซนเซย์! อิชิอิโชว์แก้เกม พาไทยเข้ารอบ หลังจบเกมแฟนบอลไทยได้เห็นอะไรบ้าง

18 ธ.ค. 2567 - 11:00

  • เรียกว่าทำเอาใจหายใจคว่ำอยู่เกือบ 45 นาทีสำหรับใครที่ได้ดูทีมชาติไทยใน AFF Mitsubishi Electric Cup 2024 เพราะไทยเราโดนทีมชาติสิงคโปร์เซอร์ไพรส์ขึ้นนำไปก่อนถึงสองประตู

  • ก่อนจะคัมแบ็กกลับมาคว้าชัยชนะแบบสุดมัน 4-2 ส่งให้ตอนนี้เราผ่านเข้าไปรอในรอบรองชนะเลิศแล้วในฐานะแชมป์กลุ่ม

  • จากเกมเมื่อวานนี้เราได้เห็นอะไรกันบ้างหลังจบเกมนัดที่ 3 และเราจะมองไกลได้ถึงไหน วันนี้เราจะพาไปดูกัน

Thailand-national-team-AFF-2024-group-stage-SPACEBAR-Hero.jpg

เรียกว่าทำเอาใจหายใจคว่ำอยู่เกือบ 45 นาทีสำหรับใครที่ได้ดูทัพ ‘ช้างศึก’ ทีมชาติไทยในเกมชิงแชมป์อาเซียน หรือ AFF Mitsubishi Electric Cup 2024 ช่วงค่ำเมื่อวานนี้ เพราะไทยเราโดนทีมชาติสิงคโปร์เซอร์ไพรส์ขึ้นนำไปก่อนถึงสองประตู ก่อนจะมาไล่ตามได้หนึ่งลูกในช่วงท้ายครึ่งแรก ต่อด้วยมายิงแซงอีกสามลูก ทำให้จบเกมไปด้วยการคัมแบ็กกลับมาคว้าชัยชนะแบบสุดมันของทีมชาติไทยเหนือทีมชาติสิงคโปร์ 4-2 ส่งให้ตอนนี้เราผ่านเข้าไปรอในรอบรองชนะเลิศแล้วในฐานะแชมป์กลุ่ม เก็บได้ 9 คะแนนเต็มจาก 3 นัดแรก 

จากเกมเมื่อวานนี้เราได้เห็นอะไรกันบ้างหลังจบเกมนัดที่ 3 ในรอบแบ่งกลุ่มชิงแชมป์อาเซียน และเราจะมองไกลได้ถึงไหน วันนี้เราจะพาไปดูกัน

Thailand-national-team-AFF-2024-group-stage-SPACEBAR-Photo01.jpg

ซูฮกการแก้เกมของเซนเซย์อิชิอิ 

อย่างแรกคือการได้เห็นการแก้เกมของโค้ช เพราะจากการที่เริ่มเกมมาแล้วโดนนำถึงสองประตูตั้งแต่ช่วงครึ่งชั่วโมงแรกย่อมทำให้ทางเฮดโค้ชทีมชาติไทย มาซาทาดะ อิชิอิ โดนตำหนิอย่างแน่นอนอยู่แล้ว โดยจากไลน์อัพ 11 ตัวจริงเมื่อวานนี้ต้องยอมรับกันตามตรงว่าเซอร์ไพรส์ เพราะเราคิดว่าในเกมพบสิงคโปร์คือเกมที่ตัดสินว่าเราจะเข้ารอบหรือไม่ ยังไงก็ต้องส่งชุดหลักที่ดีที่สุดลงสนามเพื่อให้ได้ผลชนะและเข้ารอบรองฯ แบบ 100% แต่อิชิอิเลือกที่จะโรเตชั่นนักเตะค่อนข้างเยอะ มีการผสมผสานตัวจริงกับตัวสำรองที่ได้ลงสนามบ้าง รวมถึงส่งตัวสำรองที่ไม่ค่อยได้ใช้ให้มาลงเล่นด้วยกันในเกมนี้ 

“พอโดนยิงสองประตู เราพยายามวิเคราะห์เกมในช่วงพักครึ่ง เพราะเกมรุกของเราดีอยู่แล้ว แต่จะทำอย่างไรให้เกมรุกของสิงคโปร์ลดประสิทธิภาพลง ซึ่งวันนี้ทุกคนทำหน้าที่กันได้ดีมาก” นี่คือคำพูดของ อิชิอิ ที่ให้สัมภาษณ์หลังจบเกมเมื่อวานนี้ จากคำพูดของเฮดโค้ชชาวญี่ปุ่นทำให้เห็นว่าเขาเชื่อมั่นในเกมรุกของทีมชาติไทย เช่นเดียวกันกับผู้เขียนที่คิดว่าต่อให้โดนนำไปก่อนสองประตูแต่ยังไงด้วยประสิทธิภาพเกมรุกของไทยก็น่าจะกลับมาได้ อย่างน้อยก็อยู่ในผลเสมอเพื่อใช้ผลและคะแนนในการผ่านเข้ารอบต่อไป 

แต่สิ่งที่เราได้เห็นจากอิชิอิคือการแก้เกมระดับ ‘เซนเซย์’ ที่พอครึ่งแรกเราจบด้วยการไล่มาได้หนึ่งประตู ทำให้พอลงมาครึ่งหลังอิชิอิเลือกให้ลูกทีมเดินเกมบุกเพิ่มมากขึ้น มีการเจาะเข้าทำที่หลากหลายขึ้น จนไทยไล่ตีเสมอได้เร็วตั้งแต่ช่วง 5 นาทีแรกของครึ่งหลัง รวมไปถึงการเปลี่ยนตัวที่ก็ทำให้เกมดีขึ้นอย่างเช่นชุดแรกมีการเปลี่ยน นิโคลัส มิเกลสัน ลงมาเล่นแบ็กขวาแทน ศุภนันท์ บุรีรัตน์ ทำให้ไทยได้แรงมากขึ้นเพราะเราไม่ต้องกังวลเรื่องความฟิตของ  ‘ลูกโซ่’ อยู่แล้ว ต่อด้วย ธีรศักดิ์ เผยพิมาย ที่ลงมายิงประตูปิดกล่องได้ รวมไปถึง วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ที่ต้องการลงมาช่วยเรื่องหลักๆ คือการแพ็คเกมแต่กลับแอสซิสต์ให้ไทยได้ประตูนำ 3-2 ทำให้วันนี้คงไม่มีใครเถียงฝีมือของกุนซือชาวญี่ปุ่นแน่นอนจากการแก้เกมที่เห็นผลชัดเจนแบบนี้ ซึ่งก็ต้องยกเครดิตให้ มาซาทาดะ อิชิอิ ไปแบบเต็มๆ

Thailand-national-team-AFF-2024-group-stage-SPACEBAR-Photo02.jpg

ได้เห็นกันบ้างแล้วว่าใครควรไปต่อ 

อีกเรื่องคือการได้เห็นตัวผู้เล่นแทบทุกคนได้ลงสนามในทัวร์นาเมนต์ครั้งนี้ เพราะ มาซาทาดะ อิชิอิ พยายามที่จะลองให้นักฟุตบอลของเขาทุกคนได้โอกาสลงสนามเพื่อสร้างให้ตัวเองเป็นตัวเลือกของทีมได้เลือกใช้ นั่นคือสิ่งที่ทำให้เราได้เห็นว่าในตอนนี้มีทั้งคนที่ควรไปต่อกันแบบยาวๆ ทุกรายการ และคนที่เหมาะจะเป็นอีกชุดเพื่อสลับหมุนเวียนให้ไม่ต้องใช้ตัวหลักอยู่ตลอดเช่นกัน เพื่อที่เราจะเตรียมทีมไปในระยะยาวกับรายการใหญ่ๆ ที่รอเราอยู่อย่างรอบคัดเลือกฟุตบอลเอเชียน คัพ  2027 รวมไปถึงยาวกว่านั้นคือฟุตบอลโลก 2030 

สำหรับคนที่เห็นแน่ๆ ว่าควรไปต่อเราจะไม่พูดถึงตัวหลักอย่างศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, นิโคลัส มิเกลสัน, สุภโชค สารชาติ เพราะดีกรีและฝีมือพวกเขาชัดเจนอยู่แล้ว ส่วนคนที่เราเริ่มเห็นว่าพอจะเดินหน้ากันต่อไปได้ก็มีอย่างเช่น วิลเลี่ยม เวเดอร์เฌอ กับ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ที่เริ่มเล่นได้เข้ากันมากขึ้นกับ วีระเทพ ป้อมพันธุ์ ทำให้ตรงกลางเริ่มไหลลื่นมากขึ้น โดยเฉพาะพีรดนย์ที่โดนสบประมาทว่าเป็น ‘ลูกรัก’ ก็ยิงสยบคำวิจารณ์ได้ในเกมนี้ รวมไปถึงคนที่ลงมาแล้วใช้งานได้เลยอย่าง วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีทั้งการไล่บอลแบบที่อิชิอิอยากให้ทำ แถมยังแอสซิสต์ประตูขึ้นนำได้อีก นอกจากนี้ อนันต์ ยอดสังวาลย์ ก็คลายความกังวลได้หลังจากทำไปสองแอสซิสต์  

ในขณะที่กองหลังอย่าง พรรษา เหมวิบูลย์, ศฤงคาร พรหมสุภะ, โจนาธาร เข็มดี และ ศุภนันท์ บุรีรัตน์ ก็พอที่จะเดินหน้าต่อไปได้อย่างน้อยก็ในระดับอาเซียน จะมีที่ต้องจับตามองกันต่ออีกหน่อยก็อย่าง ทิตาธร อักษรศรี กับ อภิสิทธิ์ โสรฎา ที่อาจต้องใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองต่อไปอีกสักระยะ ส่วนกองหน้าตอนนี้ก็ต้องบอกว่าจากผลงาน 3 ประตูจากสามนัดของ พาตริก กุสตาฟส์สัน ค่อนข้างที่จะฝากผีฝากไข้ได้พอสมควรในวันที่เราไม่มี ศุภชัย ใจเด็ด เช่นเดียวกันกับ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย ที่ก็สร้างผลงานได้ดีเช่นกัน ทัวร์นาเมนต์นี้เราได้เห็นการพัฒนาอย่างชัดเจนของนักเตะเกือบทุกคน ส่วนนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มที่จะพบกับทีมชาติกัมพูชาเชื่อว่าอิชิอิจะมีการโรเตชั่นอีกครั้งแน่นอน เราอาจจะไม่ได้เห็น ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา กับ นิโคลัส มิเกลสัน ลงสนาม แต่จะเป็นการให้โอกาสคนที่ยังไม่ได้ลงสนามมากได้ลงมาสัมผัสเกมและพิสูจน์ตัวเอง  

โดยจากทั้งหมดทั้งมวลที่เราได้เห็นกันมาทั้งการทำทีมของ มาซาทาดะ อิชิอิ และระดับของนักเตะที่โชว์ฟอร์มกันในทัวร์นาเมนต์นี้อย่างน้อยไม่แพ้แน่นอน เนื่องจากคุณภาพนักฟุตบอลเรายังเหนือกว่า แต่ถ้าจบด้วยผลเสมอก็ไม่อยากให้ไปตำหนิอะไรกันมาก เพราะต้องเข้าใจทางอิชิอิด้วยว่าในบอลทัวร์นาเมนต์แบบนี้การผ่านเข้ารอบไปเรียบร้อยเขามองถึงรอบรองชนะเลิศแล้ว สุดท้ายก็อยากให้ชื่นชมในสิ่งที่นักฟุตบอลและทีมงานทั้งหมดร่วมกันฝ่าฟันมาจนถึงตอนนี้มากกว่า อย่างน้อยเราก็ได้เห็นการพัฒนาที่ดูจับต้องได้และพร้อมจะเดินหน้ากันต่อไป ยังไงวันศุกร์นี้ก็มาให้กำลังใจทัพ ‘ช้างศึก’ ทีมชาติไทย ที่ราชมังฯ กันเยอะๆ นะครับ

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์