ควิชา ควารัตสเคเลีย: ปีกซ้ายว่าที่ ‘นิว มาราโดน่า’ ของนาโปลี

เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาทัพ ‘อัซซูร่า’ นาโปลี ต้องเสียนักเตะคนสำคัญที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของทีมไปถึง 3 คน ไล่ตั้งแต่ ดรีส์ เมอร์เท่นส์, คาลิดู คูลิบาลี่ และ ลอเรนโซ่ อินซิเญ่ ซึ่งรายสุดท้ายคือปีกซ้ายกัปตันทีมที่เป็นเหมือนหัวใจในเกมรุกของพวกเขามาตลอด
แต่การมาของปีกชื่ออ่านยากอย่าง ควิชา ควารัตสเคเลีย กลับทดแทนการขาดหายไปของอินซิเญ่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ผลงานส่วนตัวส่งผลถึงผลงานของทีมทำให้นาโปลีรั้งจ่าฝูงของลีกอยู่ในเวลานี้ 
จากคนที่แทบไม่มีใครรู้จัก สู่ขวัญใจคนใหม่ของแฟนบอลอัซซูร่า ปีกดาวรุ่งจากจอร์เจียคนนี้เป็นใคร? ติดตามได้เลยที่ Spacebar VIBE 

เริ่มจากประเทศเล็กๆ ที่คนดูบอลแทบจะไม่รู้จัก 

ถ้าพูดกันตามตรงตามภาษาคนดูฟุตบอลทั่วไป หรือต่อให้ดูบอลลึกมากๆ เชื่อว่าคงไม่มีใครรู้จักลีกฟุตบอลประเทศจอร์เจียแน่นอน สิ่งเดียวที่พอจะทำให้เรารู้จักประเทศเล็กๆ แห่งนี้ก็คือเรื่องของการท่องเที่ยวในฐานะ ‘ยุโรปราคาถูก’ ที่ไม่ต้องใช้เงินเยอะ แต่คุ้มค่าสมราคา
เรื่องราวของเขาอาจจะไม่เหมือนดาวรุ่งที่เราคุ้นเคยกันในยุโรป เพราะปกติแล้วแมวมองมักจะไปตามหานักเตะฝีเท้าดีอนาคตไกลจากบราซิลไม่ก็อะคาเดมียอดฮิตอย่าง ‘ลา มาเซีย’ แต่ควิชา ควารัตสเคเลีย เริ่มต้นที่นี่ เขาเกิดที่เมืองทบิลิซิ เมืองหลวงของประเทศในปี 2001 เป็นลูกชายของ บาดรี ควารัตสเคเลีย อดีตนักฟุตบอลชาวอาเซอร์ไบจาน

ควารัตสเคเลีย เข้าสู่วงการฟุตบอลตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ซึ่งตัวเขาเองเคยยืนยันว่าที่เล่นฟุตบอลไม่ได้เพียงเพราะให้พ่อตัวเองมีความสุข แต่ตัวเขารักในเกมฟุตบอลอย่างจริงจัง
 
นอกจากนี้สิ่งที่ยังตอกย้ำว่าเขาเป็นคนที่หลงใหลในกีฬาแบบเข้าเส้นก็คือนอกจากฟุตบอลแล้ว ควารัตสเคเลียยังชอบเล่นเทนนิสกับบาสเก็ตบอลด้วย เมื่อไหร่ที่เขามีโอกาสได้กลับบ้าน เขาจะชวนเพื่อนๆ มาเล่นบาสด้วยกันตลอด พยายามจะเป็นเหมือน ‘สตีเฟน เคอร์รี’ ไอดอลของเขา หนึ่งในนักบาสเก็ตบอลที่ถูกยกย่องว่ายิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของ โกลเดนสเตต วอร์ริเออร์ส
 
กลับมาที่เรื่องของฟุตบอล หลังจากนั้นเขาใช้เวลาไม่นานก็ได้เดบิวต์บนลีกสูงสุดของบ้านเกิดกับสโมสรดินาโม ทบิลิซิ เมื่อปี 2017 ด้วยวัยเพียงแค่ 16 ปี ก่อนที่ในปี 2018 เขาจะลงไปเล่นในลีกรองของประเทศกับทีมรุสตาวี่ และสร้างความโดดเด่นได้พอสมควรกับสถิติลงเล่น 18 นัด ทำได้ 3 ประตู กับอีก 3 แอสซิสต์ จนเคยติดโผ 60 ผู้เล่นที่ดีที่สุดทั่วโลกของสื่อใหญ่อย่าง เดอะ การ์เดียนส์ และได้รับความสนใจจาก บาร์เยิร์น มิวนิค ยักษ์ใหญ่จากบุนเดสลีกาด้วย 

ก้าวต่อไปของการเติบโตบนดินแดนหมีขาว 

จากผลงานที่ยอดเยี่ยมในบ้านเกิด ทำให้ไปเข้าตา โลโกโมทีฟ มอสโก หนึ่งในทีมใหญ่ของลีกสูงสุดรัสเซียที่ตกลงทำสัญญายืมตัวเขามาจากรุสตาวี่ในช่วงครึ่งซีซั่นหลัง โดยลงสนามไปทั้งสิ้น 10 นัด ยิงได้ 1 ประตู พร้อมคว้าแชมป์บอลถ้วยรัสเซียได้ด้วย ซึ่งยูริ เซมิน โค้ชของโลโกโมทีฟตอนนั้นเคยถึงขั้นร้องไห้เมื่อรู้ข่าวว่าปีกดาวรุ่งรายนี้จะไม่ได้อยู่เล่นต่อกับทีม โดยเซมินเคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “ผมติดตามเขามาตั้งแต่เขาอายุ 15 ปี… และเขาก็ยังทำให้ผมประหลาดใจทุกครั้ง”

ถัดมาจากโลโกโมทีฟ ควารัตสเคเลีย เซ็นสัญญายาว 5 ปีร่วมทีมรูบิน คาซาน ในปีเดียวกันด้วยวัยเพียงแค่ 18 ปี ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ทำให้ทีมผิดหวัง ด้วยการเปิดตัวแบบสุดหรูทำประตูได้ตั้งแต่นัดแรกที่ลงเล่น ได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนถึง 4 ครั้ง 

แน่นอนว่าตัวเขาทำผลงานได้ดีเยี่ยมเหมือนเคย โดยตลอด 3 ฤดูกาลที่อยู่กับทีม เขาลงสนามไปทั้งสิ้น 73 นัด ยิงได้ 9 ประตู แอสซิสต์ไปอีก 18 ลูก จนถูกขนานนามว่าเป็นผู้เล่นที่เก่งที่สุดของลีกสูงสุดรัสเซียในเวลานั้น แถมยังได้รับการยกย่องจาก L’Equipe ว่าเป็น 1 ใน 50 นักเตะที่ดีที่สุดที่เกิดในศตวรรษที่ 21 จนทำให้ค่าตัวของเขาพุ่งขึ้นไปอีก 5 เท่า นั่นทำให้หลายคนคิดว่าควารัตสเคเลียจะได้ย้ายไปเล่นให้กับทีมใหญ่ๆ ของยุโรปในช่วงซัมเมอร์ 2021

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทุกคนคาดหวังไว้ก็ยังคงไม่เกิดขึ้น เนื่องจากการบุกรุกยูเครนของรัสเซียทำให้ฟุตบอลลีกต้องหยุดชะงักลง ปีกพ่อมดรายนี้ได้รับอนุญาตให้ยกเลิกสัญญาที่มีอยู่กับรูบิน คาซานได้ เขาจึงเลือกกลับบ้านเกิดไปอยู่กับทีมดินาโม บาตูมี ในช่วงท้ายซีซั่น 2021/22

ถึงจะต้องกลับไปเล่นในลีกสูงสุดของประเทศบ้านเกิดก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร เพราะไม่มีอะไรหยุดความร้อนแรงของเด็กหนุ่มคนนี้ได้ ที่ดินาโม บาตูมี เขาใช้เวลาแค่ประมาณ 2 เดือน ลงสนามไปทั้งหมด 11 นัด กดไป 8 ประตู บวกอีก 2 แอสซิสต์ เรียกความสนใจจากบิ๊กทีมในยุโรปได้อีกรอบทั้ง แมนฯ ยูไนเต็ด, แมนฯ ซิตี้, สเปอร์ส, มิลาน, ยูเวนตุส และอีกหลายทีม 

การตัดสินใจครั้งสำคัญที่ทำให้เขากลายเป็นท็อปสตาร์ของฟุตบอลอิตาลี 

แต่เหมือนอิตาลีจะเป็นเส้นทางที่ถูกกำหนดไว้สำหรับเขาอยู่แล้ว โดยก่อนหน้าที่จะย้ายมาร่วมทีมดังแห่งเมืองเนเปิลส์ ควารัตสเคเลีย เกือบได้ไปอยู่กับยูเวนตุสแล้ว ถ้าหาก ฟาบิโอ ปาราติซี ไม่ได้ย้ายไปทำงานกับคอนเต้ที่กรุงลอนดอน

“เรามีข้อตกลงเบื้องต้นกับยูเวนตุสแล้ว ตอนที่ปาราติซียังอยู่ที่นั่น” มาคูม่า จูเกลี เอเยนต์ของควารัตสเคเลียบอกกับ La Gazzetta dello Sport

“แต่สุดท้ายแล้วปาราติซีก็ไปท็อตแน่ม จริงๆ ตอนนั้นมิลานก็ถามถึงความเป็นไปได้ แต่ว่านาโปลีจริงจังกับพวกเรามากกว่า” มาคูม่า จูเกลี บอกเพิ่ม

และสุดท้ายก็เป็นนาโปลีที่เข้าป้ายคว้าตัวปีกดาวรุ่งจอร์เจียรายนี้มาร่วมทีมได้ด้วยค่าตัว 9 ล้านปอนด์ (10 ล้านยูโร) เซ็นสัญญายาว 5 ปีรวดถึงปี 2027 ซึ่งแฟนบอลส่วนใหญ่มองว่าเขาเข้ามาเป็นตัวแทนของอินซิเญ่ อดีตปีกกัปตันทีมคนสำคัญ แต่ว่าควารัตสเคเลียไม่คิดแบบนั้น 

“ผมไม่ได้มาร่วมทีมนี้เพราะจะเป็นตัวแทนของอินซิเญ่ ผมมาที่นี่เพื่อเป็นตัวของผมเอง” ควารัตสเคเลียให้สัมภาษณ์กับสื่อครั้งแรกเมื่อย้ายร่วมทีมนาโปลี

ซึ่งแฟนบอลของทีมบางส่วนก็ยังมีความกังวลอยู่ว่าปีกดาวรุ่งรายนี้เคยผ่านการลงสนามมาแค่ที่จอร์เจียและรัสเซีย จะเล่นในเซเรีย อา ได้หรือเปล่า แต่ผลงานตอนนี้เหมือนจะคลายความสงสัยทั้งหมดไปแล้ว พรสวรรค์อันเปี่ยมล้น สไตล์การเล่นที่ชัดเจน การเลี้ยงบอลผ่านแนวรับที่ยอดเยี่ยม สามารถเล่นฟุตบอลได้ทั้งสองเท้า และความแข็งแกร่งเรื่องลูกกลางอากาศ 

“เขาเป็นคนขี้อายมากนะ ไม่เคยต้องการเป็นที่สนใจเลย แต่เมื่อไหร่ที่ได้ลงสนามไปเล่นฟุตบอล เขาจะกลายเป็นอีกคน เป็นคนที่มีความมั่นใจมาก” ลูเชียโน่ สปัลเล็ตติ นายใหญ่ของอัซซูร่าให้สัมภาษณ์ถึงลูกทีมคนใหม่

“ระวังควารัตสเคเลียไว้ เขามีพรสวรรค์สูงและคาดเดาการเล่นได้ยาก” อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ ตำนานฟุตบอลอิตาลีของยูเวนตุส เตือนลิเวอร์พูลก่อนเกมแชมเปี้ยนส์ลีกนัดแรก

แล้วเมื่อถึงแมตช์วันนั้นทัพหงส์แดงก็โดนนักเตะใหม่คนนี้ทำแสบใส่พวกเขาเข้าอย่างจัง จากสกอร์ 4-1 ที่นาโปลีเปิดบ้านถล่มวันนั้น ควารัตสเคเลียแอสซิสต์ไป 1 ลูก แถมฉีกแนวรับฝั่งขวาที่เทร็นต์ อเล็กซานเดอร์ อาโนลด์ รับผิดชอบจน ‘หลุดลุ่ย’ โดนแฟนบอลตำหนิอย่างหนัก ทำให้ชื่อของไอหนูดาวรุ่งจากจอร์เจียคนนี้ได้รับความสนใจมากขึ้นไปอีก 

และถ้ายิ่งมาดูผลงานในลีกแบบจริงจัง จะเห็นเลยว่านาโปลียิ่งกว่า ‘คุ้มเกินคุ้ม’ เมื่อจ่ายค่าตัวไปแค่ 10 ล้านยูโร ปีนี้เขาทำประตูจากการเล่นแบบโอเพ่นเพลย์ได้มากกว่าที่ลอเรนโซ่ อินซิเญ่ทำได้ในซีซั่นที่แล้ว ซัดไปแล้ว 5 ลูกจากการลงเล่น 9 นัด เป็นรองดาวซัลโวอยู่ในเวลานี้ แถมแอสซิสต์ไปแล้ว 4 ครั้ง ทดแทนอินซิเญ่ได้แบบไร้รอยต่อ

จากผลงานที่ทำได้ถึงตอนนี้ทำให้เขาได้รับฉายามากมายทั้ง ‘มาราโดน่าแห่งจอเจียร์’ หรือ ‘ควาราโดน่า’ ด้วยสไตล์การเล่นที่ทำให้แฟนบอลหวนนึกถึงอดีตนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลของพวกเขาอย่าง ดิเอโก้ มาราโดน่า

“ผมคงเข้าใกล้ถึงระดับมาราโดน่าไม่ได้ แต่ผมจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเป็นผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ให้กับสโมสรแห่งนี้” ควารัตสเคเลียให้สัมภาษณ์อย่างถ่อมตัวกับสื่อถึงเรื่องการเปรียบเทียบเขากับมาราโดน่า 

สุดท้ายแล้วถ้ามองถึงภาพรวมตอนนี้ นาโปลีรั้งจ่าฝูงโดยที่ยังไม่แพ้ใคร น่าจับตามองไม่น้อยว่าหากเจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของจอร์เจีย 2 สมัย และทัพอัซซูร่ายังสามารถรักษาฟอร์มแบบนี้ไปได้เรื่อยๆ จนจบฤดูกาล การคว้าถ้วยสคูเด็ตโต้หนแรกในรอบ 33 ปี อาจไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันอีกต่อไปแล้ว