หน่วยงานความมั่นคงสาธารณะของจีน (MPS) ประกาศเมื่อวันอังคาร (21 พ.ย.) ว่า มีการส่งตัวผู้ต้องสงสัยมากกว่า 31,000 รายที่เกี่ยวข้องกับคดีฉ้อโกงแก๊งคอลเซ็นเตอร์จากเมียนมาไปยังจีน ซึ่งถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญในความพยายามร่วมกันเพื่อขัดขวางเครือข่ายการฉ้อโกงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ระหว่างทั้ง 2 ประเทศ
MPS ระบุว่า ในบรรดาผู้ต้องสงสัย มีผู้สนับสนุนทางการเงิน ผู้นำ และบุคลากรสำคัญ 63 ราย และผู้ลี้ภัย 1,531 คนที่ปฏิบัติการทางออนไลน์
MPS เน้นย้ำถึงผลลัพธ์ที่ประสบความสำเร็จจากการปฏิบัติการพิเศษหลายครั้งที่มุ่งเป้าไปที่การฉ้อโกงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งดำเนินการร่วมกับตำรวจในมณฑลยูนนานทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนและหน่วยงานในเมียนมาตั้งแต่เดือนกันยายนปีนี้
ในเดือนพฤศจิกายน MPS ได้กระชับความร่วมมือกับเมียนมาในพื้นที่ชายแดนเพื่อเพิ่มความเข้มข้นในการปราบปรามการฉ้อโกงแก๊งคอลเซ็นเตอร์และอินเทอร์เน็ตทางตอนเหนือของเมียนมา ขณะที่ตัวการหลายคน รวมถึงบอสใหญ่อย่างหมิง กัวผิง หมิง จูหลาน และหมิง เซินเจิ้น ถูกจับและถูกส่งตัวไปยังประเทศจีน ส่วนหมิงเสวียชางฆ่าตัวตายหลังจากถูกจับ
“การดำเนินการฉ้อโกงในต่างประเทศจำนวนมากถูกรื้อถอน จนก่อให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงต่อกลุ่มฉ้อโกงระหว่างประเทศ” MPS ระบุ
เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หน่วยงานความมั่นคงสาธารณะเต๋อหงในยูนนานก็ประสบความสำเร็จในการพัฒนาความร่วมมือบังคับใช้กฎหมายชายแดน โดยหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่มูจิทางตอนเหนือของเมียนมาซึ่งส่งตัวผู้ต้องสงสัยแล้ว 571 ราย
ทั้งนี้ MPS ย้ำว่าผู้ต้องสงสัย 31,000 คนจะถูกส่งมอบให้กับหน่วยงานความมั่นคงสาธารณะในพื้นที่เพื่อทำการสอบสวนเพิ่มเติม พร้อมเสริมว่าพวกเขาเหล่านั้นจะถูกลงโทษตามกฎหมาย
เจ้าหน้าที่หน่วยงานรักษาความปลอดภัยสาธารณะให้คำมั่นว่าจะยังคงกดดันต่อกลุ่มฉ้อโกงแก๊งคอลเซ็นเตอร์และอินเทอร์เน็ตที่อยู่ในภาคเหนือของเมียนมา เพื่อขจัดการดำเนินการฉ้อโกงให้หมดสิ้น และจับกุมบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดทางอาญาตามกฎหมาย