หลังจากการเยือนรัสเซียครั้งสำคัญของประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ของจีนเพื่อพบปะ ‘เพื่อนรัก’ อย่างประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียเมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา โดยมีการพูดคุยกันอย่างไม่เป็นทางการถึง 4 ชั่วโมงครึ่ง
เคเรน เหลียง กรรมการผู้จัดการของ Influence Solutions ในสิงคโปร์กล่าวว่า ในการจับมือกันนั้น สีได้ยื่นมือออกไปก่อนปูตินเพียงเสี้ยววินาที ซึ่งสื่อได้ว่าแม้ว่าสีจะเป็นฝ่ายที่ไปเยือนมอสโก แต่เขาเป็นคนที่รับบทนำในความสัมพันธ์นี้
หลุยส์ มาห์เลอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษากายและพฤติกรรมความเป็นผู้นำในเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ก็มีมุมมองเดียวกับเหลียง์โดยสังเกตว่า สีได้วางมือของเขาไว้บนมือของปูตินซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งชี้ถึงระดับการครอบงำในการพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน
ภาษากายบ่งบอกอะไร?
ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษากายกล่าวว่า สี มอง ปูติน ‘เหมือนน้องชาย’ ในการพบกันครั้งแรกที่ถ่ายทอดทางโทรทัศน์ของการเยือนกรุงมอสโกในครั้งนี้ สีดูผ่อนคลาย ดูมีอำนาจเหนือกว่า และเปิดเผยสัญญาณอื่นๆ ที่บ่งบอกว่าผู้นำจีนมีอำนาจทั้งหมดในระหว่างการเจรจาระยะเวลา 2 วันสำหรับการเยือนมอสโกของสีเคเรน เหลียง กรรมการผู้จัดการของ Influence Solutions ในสิงคโปร์กล่าวว่า ในการจับมือกันนั้น สีได้ยื่นมือออกไปก่อนปูตินเพียงเสี้ยววินาที ซึ่งสื่อได้ว่าแม้ว่าสีจะเป็นฝ่ายที่ไปเยือนมอสโก แต่เขาเป็นคนที่รับบทนำในความสัมพันธ์นี้
หลุยส์ มาห์เลอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษากายและพฤติกรรมความเป็นผู้นำในเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ก็มีมุมมองเดียวกับเหลียง์โดยสังเกตว่า สีได้วางมือของเขาไว้บนมือของปูตินซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งชี้ถึงระดับการครอบงำในการพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน

“เมื่อพวกเขานั่งคุยกันอย่างสุภาพผ่านล่าม ทักทายกันในฐานะ ‘เพื่อนรัก’ ปูตินนั่งงอตัว กระตุกขา กำหมัดแน่น และมองพื้น ซึ่งบ่งบอกถึงความปั่นป่วน ในขณะที่สีดูสงบและมั่นใจ” มาห์เลอร์กล่าว
เหลียง สังเกตเห็นพฤติกรรมแบบเดียวกันนี้ในปูตินด้วยเช่นกัน ซึ่งตรงกันข้ามกับท่าทีภายนอกที่ดูผ่อนคลาย “ถ้าคุณสังเกตที่สี (วัย 69 ปี) เขาคือรัฐบุรุษที่สงบเสงี่ยม เขามีแรงดึงดูดมากมาย มีสายตาที่ดี เขามองปูตินเหมือนพี่ชาย (วัย 70 ปี) ที่มองคู่หูที่อายุน้อยกว่า…สีได้ส่งสัญญาณว่าเขาเองก็รู้สึกกดดันเช่นกัน โดยกะพริบตาถี่ผิดปกติระหว่างที่นั่งอยู่”
เหลียง สังเกตเห็นพฤติกรรมแบบเดียวกันนี้ในปูตินด้วยเช่นกัน ซึ่งตรงกันข้ามกับท่าทีภายนอกที่ดูผ่อนคลาย “ถ้าคุณสังเกตที่สี (วัย 69 ปี) เขาคือรัฐบุรุษที่สงบเสงี่ยม เขามีแรงดึงดูดมากมาย มีสายตาที่ดี เขามองปูตินเหมือนพี่ชาย (วัย 70 ปี) ที่มองคู่หูที่อายุน้อยกว่า…สีได้ส่งสัญญาณว่าเขาเองก็รู้สึกกดดันเช่นกัน โดยกะพริบตาถี่ผิดปกติระหว่างที่นั่งอยู่”

คิม ฮยอง-ฮี ผู้อำนวยการของ Korea Body Language Lab กล่าวว่า “การจับมือกันแน่นและหลายครั้งที่ทั้งคู่พยายามหลีกเลี่ยงการสบตา นั่นแสดงให้เห็นว่าทั้งคู่กำลังคิดว่าต้องมีส่วนได้ส่วนเสีย…พวกเขามีความคาดหวังสูงเกี่ยวกับการประชุม คุณสามารถเห็นความตึงเครียดที่นั่นและคุณน่าจะรู้ว่าไม่มีมิตรแท้ในการเมือง”
อย่างไรก็ดี ประเทศตะวันตกก็แน่ใจว่าจะเจาะลึกทุกรายละเอียดของการพูดคุยระหว่าง 2 ผู้นำที่มีอำนาจมากที่สุดในโลกแต่ขณะเดียวกันก็เป็นผู้นำที่ลึกลับด้วย ขณะที่ปูตินขอให้สีหนุนหลังการรุกรานยูเครน และความช่วยเหลือจากสีในการอุดช่องว่างทางการค้าที่เกิดจากการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก
ตามรายงานของสื่อทางการจีนระบุว่า เมื่อการเจรจาทั้ง 2 วันสิ้นสุดลงในวันอังคาร (21 มี.ค.) ที่ผ่านมา สีและปูตินก็เน้นย้ำว่าการเจรจาอย่างมีความรับผิดชอบเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาวิกฤตยูเครนอย่างต่อเนื่อง โดยรัสเซียยืนยันความมุ่งมั่นที่จะกลับมาเจรจาสันติภาพโดยเร็วที่สุด
ทั้ง 2 ฝ่ายชี้ว่าเพื่อแก้ไขวิกฤตยูเครน ‘ข้อกังวลด้านความปลอดภัยที่ชอบธรรม’ ของทุกประเทศต้องได้รับการเคารพ และควรหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าระหว่างค่ายต่างๆ
ขณะที่ปูตินยกย่องความสัมพันธ์ทางการค้า พลังงาน และการเมืองที่เพิ่มขึ้นของรัสเซียกับจีน โดยมีจุดประสงค์เพื่อประสานความร่วมมือแบบ 'ไร้ขีดจำกัด' ของประเทศของตน
การเยือนอย่างเป็นทางการของสีนั้นถือเป็นกำลังใจที่สำคัญสำหรับปูตินอย่างมาก ในขณะที่สีเองก็มองว่าเขากำลังเผชิญหน้ากับสิ่งที่เขามองว่าเป็นศัตรูของชาติตะวันตกที่พยายามสร้าง ‘ความพ่ายแพ้ทางยุทธศาสตร์’ ต่อรัสเซีย
อย่างไรก็ดี ประเทศตะวันตกก็แน่ใจว่าจะเจาะลึกทุกรายละเอียดของการพูดคุยระหว่าง 2 ผู้นำที่มีอำนาจมากที่สุดในโลกแต่ขณะเดียวกันก็เป็นผู้นำที่ลึกลับด้วย ขณะที่ปูตินขอให้สีหนุนหลังการรุกรานยูเครน และความช่วยเหลือจากสีในการอุดช่องว่างทางการค้าที่เกิดจากการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก
ตามรายงานของสื่อทางการจีนระบุว่า เมื่อการเจรจาทั้ง 2 วันสิ้นสุดลงในวันอังคาร (21 มี.ค.) ที่ผ่านมา สีและปูตินก็เน้นย้ำว่าการเจรจาอย่างมีความรับผิดชอบเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาวิกฤตยูเครนอย่างต่อเนื่อง โดยรัสเซียยืนยันความมุ่งมั่นที่จะกลับมาเจรจาสันติภาพโดยเร็วที่สุด
ทั้ง 2 ฝ่ายชี้ว่าเพื่อแก้ไขวิกฤตยูเครน ‘ข้อกังวลด้านความปลอดภัยที่ชอบธรรม’ ของทุกประเทศต้องได้รับการเคารพ และควรหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าระหว่างค่ายต่างๆ
ขณะที่ปูตินยกย่องความสัมพันธ์ทางการค้า พลังงาน และการเมืองที่เพิ่มขึ้นของรัสเซียกับจีน โดยมีจุดประสงค์เพื่อประสานความร่วมมือแบบ 'ไร้ขีดจำกัด' ของประเทศของตน
การเยือนอย่างเป็นทางการของสีนั้นถือเป็นกำลังใจที่สำคัญสำหรับปูตินอย่างมาก ในขณะที่สีเองก็มองว่าเขากำลังเผชิญหน้ากับสิ่งที่เขามองว่าเป็นศัตรูของชาติตะวันตกที่พยายามสร้าง ‘ความพ่ายแพ้ทางยุทธศาสตร์’ ต่อรัสเซีย