สำนักข่าว BBC รายงานว่า หน่วยงานด้านสุขภาพชั้นนำของจีนประกาศว่าได้หยุดเผยแพร่ตัวเลขผู้ป่วยโควิด-19 รายวันแล้ว เนื่องจากรายงานอ้างว่ายอดผู้เสียชีวิตที่แท้จริงของการระบาดอย่างต่อเนื่องของประเทศนั้นแย่กว่าตัวเลขที่ทางการเผยแพร่อย่างมาก
คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (NHC) กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (25 ธ.ค.) ว่า ข้อมูลการระบาดที่เกี่ยวข้องจะถูกเผยแพร่โดยศูนย์ควบคุมโรคของจีน (CDC) ซึ่งเป็นแผนกย่อยที่บริหารโดย NHC
แถลงการณ์ไม่ได้ระบุว่า CDC ของจีนจะเผยแพร่รายงานโควิดบ่อยเพียงใด โดยทั่วไปแล้ว CDC จะเผยแพร่เฉพาะข้อมูลสรุปรายเดือนสำหรับโรคติดเชื้อทั้งหมดที่ควบคุมภายใต้กฎหมายจีน ตั้งแต่ไข้หวัดตามฤดูกาลไปจนถึงไวรัสตับอักเสบบีและกาฬโรค
เนื่องจากจีนผ่อนคลายข้อจำกัดโควิดลงอย่างมากเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา จึงไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับขอบเขตการแพร่กระจายของไวรัสในระดับประเทศ
จากนี้ไป จีนจะไม่นับจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมดอย่างเป็นทางการอีกต่อไป หลังจากเจ้าหน้าที่ปิดตู้ทดสอบ PCR ทั่วประเทศ และกล่าวว่าพวกเขาจะหยุดรวบรวมข้อมูลของผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ ขณะเดียวกัน ผู้คนในจีนก็กำลังใช้การตรวจแอนติเจนอย่างรวดเร็วเพื่อตรวจหาการติดเชื้อ และไม่มีหน้าที่ที่จะต้องรายงานผลติดเชื้อเป็นบวกด้วย
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในมณฑลเจ้อเจียงของจีน กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า พวกเขาพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่มากกว่า 1 ล้านรายต่อวัน จากการคำนวณของ CNN ระบุว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่ประมาณ 1,563 รายต่อวันต่อประชากร 100,000 คน
หยู ซินเล่อ รองหัวหน้าคณะกรรมการสุขภาพของเจ้อเจียง กล่าวว่า การติดเชื้อระลอกใหม่ในปัจจุบันของมณฑลคาดว่าจะสูงสุดในช่วงวันปีใหม่ โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อต่อวันสูงถึง 2 ล้านคน ซึ่งจะมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 3,000 รายต่อวันต่อประชากร 100,000 คน และใช้เวลา 1 สัปดาห์ก่อนที่ยอดติดเชื้อจะลดลง
ขณะที่เมืองชิงเต่ามีประชากร 9 ล้านคนในมณฑลซานตงทางตอนเหนือ ซึ่งพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ประมาณครึ่งล้านคนทุกวัน ป๋อเทา หัวหน้าสาธารณสุขของเมือง กล่าวเมื่อวันศุกร์ (23 ธ.ค.) ที่ผ่านมาว่า การติดเชื้อจุดสูงสุดยังมาไม่ถึง จากการคำนวณของ CNN หมายถึงการติดเชื้อ 5,556 ต่อประชากร 100,000 คน
ด้านศูนย์กลางการผลิตตอนใต้ของตงกวน พบผู้ป่วยรายใหม่ระหว่าง 250,000-350,000 รายต่อวัน “จุดสูงสุดของการติดเชื้อโควิดกำลังใกล้เข้ามา …จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในอัตราเร่งในตงกวน ระบบสุขภาพและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของเรากำลังเผชิญกับความท้าทายและแรงกดดันอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน” หน่วยงานด้านสุขภาพของเมืองกล่าวในแถลงการณ์
คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (NHC) กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (25 ธ.ค.) ว่า ข้อมูลการระบาดที่เกี่ยวข้องจะถูกเผยแพร่โดยศูนย์ควบคุมโรคของจีน (CDC) ซึ่งเป็นแผนกย่อยที่บริหารโดย NHC
แถลงการณ์ไม่ได้ระบุว่า CDC ของจีนจะเผยแพร่รายงานโควิดบ่อยเพียงใด โดยทั่วไปแล้ว CDC จะเผยแพร่เฉพาะข้อมูลสรุปรายเดือนสำหรับโรคติดเชื้อทั้งหมดที่ควบคุมภายใต้กฎหมายจีน ตั้งแต่ไข้หวัดตามฤดูกาลไปจนถึงไวรัสตับอักเสบบีและกาฬโรค
เนื่องจากจีนผ่อนคลายข้อจำกัดโควิดลงอย่างมากเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา จึงไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับขอบเขตการแพร่กระจายของไวรัสในระดับประเทศ
จากนี้ไป จีนจะไม่นับจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมดอย่างเป็นทางการอีกต่อไป หลังจากเจ้าหน้าที่ปิดตู้ทดสอบ PCR ทั่วประเทศ และกล่าวว่าพวกเขาจะหยุดรวบรวมข้อมูลของผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ ขณะเดียวกัน ผู้คนในจีนก็กำลังใช้การตรวจแอนติเจนอย่างรวดเร็วเพื่อตรวจหาการติดเชื้อ และไม่มีหน้าที่ที่จะต้องรายงานผลติดเชื้อเป็นบวกด้วย
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในมณฑลเจ้อเจียงของจีน กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า พวกเขาพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่มากกว่า 1 ล้านรายต่อวัน จากการคำนวณของ CNN ระบุว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่ประมาณ 1,563 รายต่อวันต่อประชากร 100,000 คน
หยู ซินเล่อ รองหัวหน้าคณะกรรมการสุขภาพของเจ้อเจียง กล่าวว่า การติดเชื้อระลอกใหม่ในปัจจุบันของมณฑลคาดว่าจะสูงสุดในช่วงวันปีใหม่ โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อต่อวันสูงถึง 2 ล้านคน ซึ่งจะมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 3,000 รายต่อวันต่อประชากร 100,000 คน และใช้เวลา 1 สัปดาห์ก่อนที่ยอดติดเชื้อจะลดลง
ขณะที่เมืองชิงเต่ามีประชากร 9 ล้านคนในมณฑลซานตงทางตอนเหนือ ซึ่งพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ประมาณครึ่งล้านคนทุกวัน ป๋อเทา หัวหน้าสาธารณสุขของเมือง กล่าวเมื่อวันศุกร์ (23 ธ.ค.) ที่ผ่านมาว่า การติดเชื้อจุดสูงสุดยังมาไม่ถึง จากการคำนวณของ CNN หมายถึงการติดเชื้อ 5,556 ต่อประชากร 100,000 คน
ด้านศูนย์กลางการผลิตตอนใต้ของตงกวน พบผู้ป่วยรายใหม่ระหว่าง 250,000-350,000 รายต่อวัน “จุดสูงสุดของการติดเชื้อโควิดกำลังใกล้เข้ามา …จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในอัตราเร่งในตงกวน ระบบสุขภาพและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของเรากำลังเผชิญกับความท้าทายและแรงกดดันอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน” หน่วยงานด้านสุขภาพของเมืองกล่าวในแถลงการณ์
