สำนักข่าว BBC รายงานว่า เจ้าหน้าที่โบราณวัตถุของอียิปต์ยืนยันว่าทางเดินภายในที่ซ่อนอยู่เหนือทางเข้าหลักของมหาพีระมิดแห่งกีซานั้นมีอยู่จริง
วิดีโอจากกล้องเอนโดสโคปแสดงให้เห็นด้านในของทางเดิน ซึ่งยาว 9 ม. (30 ฟุต) กว้าง 2.1 ม. (7 ฟุต) ซึ่งตรวจพบครั้งแรกในปี 2016 โดยใช้เทคนิคการถ่ายภาพที่เรียกว่า มิวออนรังสีคอสมิก (Muography) และเจ้าหน้าที่กล่าวว่าอาจถูกสร้างขึ้นเพื่อกระจายน้ำหนักของพีระมิดรอบๆ ทางเข้าหรือห้องอื่นที่ยังไม่ถูกค้นพบ
ทีมนักวิจัยจากโครงการ ScanPyramids สามารถรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงความหนาแน่นภายในพีระมิดได้ด้วยการวิเคราะห์ว่ามิวออนแทรกซึมเข้าไปได้อย่างไร ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากรังสีคอสมิกที่ถูกหินดูดกลืนเพียงบางส่วน
ภาพจากกล้องถูกเปิดเผยในการแถลงข่าวในวันพฤหัสบดี (2 มี.ค.) ที่ผ่านมา โดยแสดงให้เห็นทางเดินว่างเปล่าซึ่งมีผนังที่ทำจากบล็อกหินหยาบๆ และเพดานหินโค้ง
“เราจะดำเนินการสแกนต่อไป เพื่อดูว่าเราทำอะไรได้บ้าง...และมีอะไรอยู่ข้างใต้ หรือเพียงแค่สุดทางเดินนี้” มอสตาฟา วาซีรี หัวหน้าหน่วยงานที่ดูแลด้านโบราณวัตถุของอิปต์กล่าว
ซาฮี ฮาวาสส์ นักโบราณคดีชาวอียิปต์ กล่าวว่า “ทางเดินดังกล่าวเป็นการค้นพบครั้งสำคัญ ซึ่งเป็นทางเข้าสู่พีระมิดของผู้คนทั่วโลกเป็นครั้งแรก” นอกจากนี้ เขายังกล่าวด้วยว่าอาจช่วยเปิดเผยว่าห้องฝังพระศพของกษัตริย์คูฟูยังคงอยู่ภายในพีระมิดหรือไม่
ฮาวาสส์ คาดเดาว่าอาจมีสิ่งที่สำคัญอยู่ในช่องว่างด้านล่างทางเดิน จากนั้นกล่าวเสริมว่า “ผมแน่ใจว่าในอีกไม่กี่เดือนนับจากนี้ เราจะได้เห็นว่าสิ่งที่ผมพูดถูกต้องหรือไม่”
ทั้งนี้พบว่า มหาพีระมิดที่สูง 146 เมตรนั้นสร้างขึ้นบนที่ราบสูงกีซาในสมัยราชวงศ์ที่ 4 โดยฟาโรห์คูฟู ซึ่งครองราชย์ตั้งแต่ประมาณ 2609 ปีก่อนคริสตกาลถึง 2584 ปีก่อนคริสตกาล และถึงแม้ว่าจะเป็นหนึ่งในอนุสรณ์ที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในโลก แต่ก็ยังไม่มีมติเป็นเอกฉันท์เกี่ยวกับวิธีการสร้าง
วิดีโอจากกล้องเอนโดสโคปแสดงให้เห็นด้านในของทางเดิน ซึ่งยาว 9 ม. (30 ฟุต) กว้าง 2.1 ม. (7 ฟุต) ซึ่งตรวจพบครั้งแรกในปี 2016 โดยใช้เทคนิคการถ่ายภาพที่เรียกว่า มิวออนรังสีคอสมิก (Muography) และเจ้าหน้าที่กล่าวว่าอาจถูกสร้างขึ้นเพื่อกระจายน้ำหนักของพีระมิดรอบๆ ทางเข้าหรือห้องอื่นที่ยังไม่ถูกค้นพบ
ทีมนักวิจัยจากโครงการ ScanPyramids สามารถรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงความหนาแน่นภายในพีระมิดได้ด้วยการวิเคราะห์ว่ามิวออนแทรกซึมเข้าไปได้อย่างไร ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากรังสีคอสมิกที่ถูกหินดูดกลืนเพียงบางส่วน
ภาพจากกล้องถูกเปิดเผยในการแถลงข่าวในวันพฤหัสบดี (2 มี.ค.) ที่ผ่านมา โดยแสดงให้เห็นทางเดินว่างเปล่าซึ่งมีผนังที่ทำจากบล็อกหินหยาบๆ และเพดานหินโค้ง
“เราจะดำเนินการสแกนต่อไป เพื่อดูว่าเราทำอะไรได้บ้าง...และมีอะไรอยู่ข้างใต้ หรือเพียงแค่สุดทางเดินนี้” มอสตาฟา วาซีรี หัวหน้าหน่วยงานที่ดูแลด้านโบราณวัตถุของอิปต์กล่าว
ซาฮี ฮาวาสส์ นักโบราณคดีชาวอียิปต์ กล่าวว่า “ทางเดินดังกล่าวเป็นการค้นพบครั้งสำคัญ ซึ่งเป็นทางเข้าสู่พีระมิดของผู้คนทั่วโลกเป็นครั้งแรก” นอกจากนี้ เขายังกล่าวด้วยว่าอาจช่วยเปิดเผยว่าห้องฝังพระศพของกษัตริย์คูฟูยังคงอยู่ภายในพีระมิดหรือไม่
ฮาวาสส์ คาดเดาว่าอาจมีสิ่งที่สำคัญอยู่ในช่องว่างด้านล่างทางเดิน จากนั้นกล่าวเสริมว่า “ผมแน่ใจว่าในอีกไม่กี่เดือนนับจากนี้ เราจะได้เห็นว่าสิ่งที่ผมพูดถูกต้องหรือไม่”
ทั้งนี้พบว่า มหาพีระมิดที่สูง 146 เมตรนั้นสร้างขึ้นบนที่ราบสูงกีซาในสมัยราชวงศ์ที่ 4 โดยฟาโรห์คูฟู ซึ่งครองราชย์ตั้งแต่ประมาณ 2609 ปีก่อนคริสตกาลถึง 2584 ปีก่อนคริสตกาล และถึงแม้ว่าจะเป็นหนึ่งในอนุสรณ์ที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในโลก แต่ก็ยังไม่มีมติเป็นเอกฉันท์เกี่ยวกับวิธีการสร้าง