The Guardian รายงานว่า อดีต ส.ส. ของอินเดียที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานลักพาตัวและถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมและทำร้ายร่างกาย ถูกสังหารพร้อมกับพี่ชายของเขา ขณะถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์
อติค อาห์เหม็ด อดีต ส.ส. ที่ต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต และอัสชราฟ อาห์เหม็ด น้องชายของเขา อยู่ในการควบคุมตัวของตำรวจนอกโรงพยาบาลในอิลลาฮาบาด (Prayagraj) ในรัฐอุตตรประเทศ ทางตอนเหนือของอินเดีย โดยชาย 3 คน สาดกระสุนมากกว่า 20 นัด ใส่พวกเขาแบบระยะประชิด ขณะที่ผู้ก่อเหตุแฝงตัวเป็นนักข่าว
เจ้าหน้าที่ตำรวจ รามิท ชาร์มา กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คนขี่รถจักรยานยนต์โดยสวมรอยเป็นนักข่าว และถืออุปกรณ์กล้อง ไมโครโฟนที่มีโลโก้ของเครือข่ายโทรทัศน์ และบัตรประจำตัวนักข่าวปลอม
“พวกเขาพยายามเข้าใกล้อคิตและน้องชายของเขาโดยอ้างว่าจะทำการสัมภาษณ์ และยิงพวกเขาจากระยะใกล้ ทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนที่ศีรษะ… ทุกอย่างเกิดขึ้นในไม่กี่วินาที” ชาร์มากล่าว การโจมตีซึ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงดึกของคืนวันเสาร์ ได้รับการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์โดยผู้แพร่ภาพกระจายเสียงหลายรายที่อยู่ในที่เกิดเหตุ
ผู้ก่อเหตุ 3 ราย วัย 23 ปี, 22 ปี และ 18 ปี ขณะที่มีรายงานว่า พวกเขาบอกกับตำรวจว่าพวกเขาได้ติดตามพี่น้องอาห์เหม็ด มาราวๆ 2 วัน ตั้งแต่พวกเขาถูกควบคุมตัว และต้องการดำเนินการสังหารเพื่อชื่อเสียง
ผู้ก่อเหตุรายหนึ่งถูกยิงเข้าที่มือในระหว่างการยิงตอบโต้ของตำรวจ และตำรวจได้รับบาดเจ็บจากกระสุนในการโจมตีเช่นกัน ขณะที่ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ กับทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจ 20 นายที่ดูแลพี่น้องอาเหม็ด
ครอบครัวอาห์เหม็ดเป็นครอบครัวที่กว้างขวาง และเป็นอาชญากรชื่อกระฉ่อนในอุตตรประเทศ ถูกกล่าวหาว่าจัดตั้งกลุ่มอาชญากรที่พัวพันกับการฆาตกรรมและการขู่กรรโชก และอดีตนักการเมืองรายนี้มีคดีต่างๆ กว่า 100 คดีที่ยื่นฟ้องเขา รวมทั้งคดีทำร้ายร่างกายและฆาตกรรม เขาถูกจำคุกตลอดชีวิตในปี 2019 หลังจากถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานร่วมกันลักพาตัวขณะอยู่ในคุก
พี่น้องตระกูลอาห์เหม็ดอยู่ในการควบคุมตัวของตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการสังหารทนายความ ซึ่งเป็นพยานคนสำคัญในคดีการสังหารอื่นที่พวกเขามีส่วนเกี่ยวข้อง
เมื่อเดือนที่แล้ว อาเหม็ดได้ยื่นคำร้องต่อศาลสูงสุดโดยอ้างว่า ชีวิตของเขาถูกคุกคามจากตำรวจ ทนายความของเขากล่าวว่าเหตุการณ์ดังกล่าวน่าตกใจเนื่องจาก เป็นความล้มเหลวที่ชัดเจนของตำรวจในการรับรองความปลอดภัยของลูกความของเขา
อุตตรประเทศ ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากกว่า 200 ล้านคนของอินเดีย มีชื่อเสียงในด้านอาชญากร และเกือบครึ่งหนึ่งของรัฐมนตรี ซึ่งรวมถึงนายกรัฐมนตรีด้วย กำลังดำเนินคดีอาญากับพวกเขา
อติค อาห์เหม็ด อดีต ส.ส. ที่ต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต และอัสชราฟ อาห์เหม็ด น้องชายของเขา อยู่ในการควบคุมตัวของตำรวจนอกโรงพยาบาลในอิลลาฮาบาด (Prayagraj) ในรัฐอุตตรประเทศ ทางตอนเหนือของอินเดีย โดยชาย 3 คน สาดกระสุนมากกว่า 20 นัด ใส่พวกเขาแบบระยะประชิด ขณะที่ผู้ก่อเหตุแฝงตัวเป็นนักข่าว
เจ้าหน้าที่ตำรวจ รามิท ชาร์มา กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คนขี่รถจักรยานยนต์โดยสวมรอยเป็นนักข่าว และถืออุปกรณ์กล้อง ไมโครโฟนที่มีโลโก้ของเครือข่ายโทรทัศน์ และบัตรประจำตัวนักข่าวปลอม
“พวกเขาพยายามเข้าใกล้อคิตและน้องชายของเขาโดยอ้างว่าจะทำการสัมภาษณ์ และยิงพวกเขาจากระยะใกล้ ทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนที่ศีรษะ… ทุกอย่างเกิดขึ้นในไม่กี่วินาที” ชาร์มากล่าว การโจมตีซึ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงดึกของคืนวันเสาร์ ได้รับการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์โดยผู้แพร่ภาพกระจายเสียงหลายรายที่อยู่ในที่เกิดเหตุ
ผู้ก่อเหตุ 3 ราย วัย 23 ปี, 22 ปี และ 18 ปี ขณะที่มีรายงานว่า พวกเขาบอกกับตำรวจว่าพวกเขาได้ติดตามพี่น้องอาห์เหม็ด มาราวๆ 2 วัน ตั้งแต่พวกเขาถูกควบคุมตัว และต้องการดำเนินการสังหารเพื่อชื่อเสียง
ผู้ก่อเหตุรายหนึ่งถูกยิงเข้าที่มือในระหว่างการยิงตอบโต้ของตำรวจ และตำรวจได้รับบาดเจ็บจากกระสุนในการโจมตีเช่นกัน ขณะที่ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ กับทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจ 20 นายที่ดูแลพี่น้องอาเหม็ด
ครอบครัวอาห์เหม็ดเป็นครอบครัวที่กว้างขวาง และเป็นอาชญากรชื่อกระฉ่อนในอุตตรประเทศ ถูกกล่าวหาว่าจัดตั้งกลุ่มอาชญากรที่พัวพันกับการฆาตกรรมและการขู่กรรโชก และอดีตนักการเมืองรายนี้มีคดีต่างๆ กว่า 100 คดีที่ยื่นฟ้องเขา รวมทั้งคดีทำร้ายร่างกายและฆาตกรรม เขาถูกจำคุกตลอดชีวิตในปี 2019 หลังจากถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานร่วมกันลักพาตัวขณะอยู่ในคุก
พี่น้องตระกูลอาห์เหม็ดอยู่ในการควบคุมตัวของตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการสังหารทนายความ ซึ่งเป็นพยานคนสำคัญในคดีการสังหารอื่นที่พวกเขามีส่วนเกี่ยวข้อง
เมื่อเดือนที่แล้ว อาเหม็ดได้ยื่นคำร้องต่อศาลสูงสุดโดยอ้างว่า ชีวิตของเขาถูกคุกคามจากตำรวจ ทนายความของเขากล่าวว่าเหตุการณ์ดังกล่าวน่าตกใจเนื่องจาก เป็นความล้มเหลวที่ชัดเจนของตำรวจในการรับรองความปลอดภัยของลูกความของเขา
อุตตรประเทศ ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากกว่า 200 ล้านคนของอินเดีย มีชื่อเสียงในด้านอาชญากร และเกือบครึ่งหนึ่งของรัฐมนตรี ซึ่งรวมถึงนายกรัฐมนตรีด้วย กำลังดำเนินคดีอาญากับพวกเขา
