กองทุนโลกเตือน! การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกระตุ้นให้เกิดโรคติดเชื้อมากขึ้น

23 พ.ย. 2565 - 07:50

  • หัวหน้ากองทุนโลก (Global Fund) เพื่อการต่อสู้โรคเอดส์ วัณโรค และมาลาเรีย กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศจะจบลงด้วยการคร่าชีวิตผู้คนโดยกระตุ้นให้เกิดการติดเชื้อมากขึ้น

  • ปีเตอร์ แซนด์ส กล่าว “ในชุมชนที่ยากจนที่สุดในโลก เอชไอวี วัณโรค และมาลาเรียกำลังคร่าชีวิตผู้คนมากกว่าโควิด-19 เสียอีก”

Global-Fund-warns-Climate-change-will-fuel-diseases -SPACEBAR-Hero
สำนักข่าว AFP รายงานว่า หัวหน้ากองทุนโลก (Global Fund) เพื่อการต่อสู้โรคเอดส์ วัณโรค และมาลาเรีย กล่าวเมื่อวันอังคาร (22 พ.ย.) ที่ผ่านมาว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศจะจบลงด้วยการคร่าชีวิตผู้คนโดยกระตุ้นให้เกิดโรคติดเชื้อมากขึ้น  

ปีเตอร์ แซนด์ส กรรมการบริหารของ Global Fund กล่าวว่า “ในปี 2022 กองทุนได้เห็นผลกระทบที่เพิ่มขึ้นของการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศต่อสุขภาพ ในขณะที่โรคไข้มาลาเรียพุ่งสูงขึ้นมา จนบัดนี้เห็นได้จากความถี่ที่เพิ่มขึ้นและการทำลายล้างของพายุโซนร้อน ตลอดจนน้ำท่วมในปากีสถาน มันได้เปลี่ยนไปในระดับที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง” 

“สิ่งที่เราเห็นสำหรับกลไกการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศจะลงเอยด้วยการคร่าชีวิตผู้คน นั่นก็คือ ผลกระทบต่อโรคติดเชื้อนั่นเอง” แซนด์ส กล่าวเสริมอีกว่า “บางส่วนของแอฟริกาซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ได้รับผลกระทบจากโรคมาลาเรีย กำลังตกอยู่ในความเสี่ยงเนื่องจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นและทำให้ยุงสามารถเจริญเติบโตได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ระดับความสูงที่สูงขึ้น” 

อย่างไรก็ดี ประชากรในพื้นที่ดังกล่าวจะไม่มีภูมิต้านทาน ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงต่ออัตราการเสียชีวิตที่สูงขึ้น แซนด์ส กล่าวกับสมาคมผู้สื่อข่าวแห่งสหประชาชาติว่า “มันค่อนข้างน่าตกใจ…ภัยคุกคามอื่นๆ ได้แก่ วัณโรคที่แพร่กระจายในหมู่ผู้พลัดถิ่นจำนวนมากขึ้นทั่วโลก ซึ่งวัณโรคเป็นโรคที่เติบโตจากการกระจุกตัวรวมกันของกลุ่มคนที่มีความเครียดสูงในพื้นที่จำกัด โดยมีอาหารและที่พักอาศัยไม่เพียงพอ”  

“ยิ่งเราเห็นการพลัดถิ่นของผู้คนจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งคิดว่านั่นจะแปลเป็นเงื่อนไขที่อย่างน้อยก็จะทำให้ผู้คนมีโอกาสติดโรคมากขึ้น ประกอบกับความไม่มั่นคงทางอาหารก็มีส่วนทำให้ผู้คนเสี่ยงต่อโรคมากขึ้นด้วยเช่นกัน” 

แซนด์ส กล่าวต่อว่า “โลกเตรียมพร้อมรับมือกับโรคระบาดครั้งต่อไปได้ดีกว่าโควิด-19 หรือไม่ และเสริมว่า นั่นไม่ได้หมายความว่าเราเตรียมความพร้อมดี เราแค่ไม่ได้เตรียมตัวแย่เหมือนคราวก่อน” 

ก่อนสิ้นปี 2022 แซนด์ส กล่าวว่า Global Fund จะลงทุนประมาณ 5.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 195,000,000,000 บาท) ซึ่งมากกว่าที่เคยทำมาก่อนอย่างมาก โดยผู้บริจาครายใหญ่ที่สุดขององค์กรในเจนีวา คือ รัฐบาล G7 ซึ่งนำโดยสหรัฐฯ และฝรั่งเศส 

“เราดูแลผู้คนที่อาศัยอยู่ในชุมชนที่ยากจนที่สุด ชายขอบที่สุด เปราะบางที่สุดในโลก และปี 2022 ก็เป็นปีที่โหดร้าย…ในชุมชนที่ยากจนที่สุดในโลก เอชไอวี วัณโรค และมาลาเรียกำลังคร่าชีวิตผู้คนมากกว่าโควิด-19 เสียอีก” แซนด์ส กล่าวทิ้งท้าย 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์