นักวิจัยฮ่องกงคาดจีนอาจเสียชีวิต 1 ล้านคน หากเปิดประเทศโดยไม่ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น

16 ธ.ค. 2565 - 08:48

  • หากประเทศเปิดอย่างเต็มรูปแบบระหว่างเดือนธันวาคม-มกราคมปีหน้า ระบบสาธารณสุขในทุกมณฑลจะไม่สามารถรับมือกับการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นได้

  • นักวิจัยแนะนำให้ปักกิ่งออกโปรแกรมการฉีดวัคซีนสำหรับโดสที่ 4 ประมาณ 30-60 วันก่อนที่จะเปิดประเทศอีกครั้ง และดำเนินการให้เสร็จภายใน 60 วัน

Hong-Kong-university-predicts-1-million-deaths-if-China-reopens-without-fourth-Covid-booster-SPACEBAR-Hero
สำนักข่าว South China Morning Post รายงานผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยฮ่องกงที่คาดการณ์ว่า ประชาชนเกือบ 1 ล้านคนในจีนแผ่นดินใหญ่อาจเสียชีวิตจากโควิด-19 หากเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบทั้งๆ ที่ยังไม่มีแผนการฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 ให้ประชาชน และมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม 

นักวิจัยซึ่งรวมถึงศาสตราจารย์เกเบรียล เหลียง อดีตคณาจารย์แพทย์ของมหาวิทยาลัย เขียนไว้ในงานวิจัยว่า “กลยุทธ์เพื่อหลีกเลี่ยงระบบการรักษาพยาบาลที่ล้นหลามและอัตราการเสียชีวิตสูงนั้นจำเป็นเร่งด่วน หลังจากที่ประเทศผ่อนคลายนโยบายปลอดโควิดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว” 

“อันดับแรก เราพิจารณาสภาพที่เป็นอยู่โดยปราศจากการฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 ทั้งยังไม่มียาต้านไวรัส และมาตรการด้านสาธารณสุขและสังคม ประกอบกับโรคระบาดก็เกิดขึ้นพร้อมๆ กันในทุกมณฑล…ในกรณีนี้ การเปิดประเทศอีกครั้งในสภาพที่เป็นอยู่นี้ อาจส่งผลให้เกิดการเสียชีวิต 684 รายต่อประชากร 1 ล้านคน” 

จากผลการวิจัยซึ่งยังไม่ได้รับการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า หากแผ่นดินใหญ่ยังคงรักษามาตรการโควิด-19 ที่ปรับปรุงล่าสุดและกลับมาเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบระหว่างเดือนธันวาคมม-มกราคมปีหน้า ระบบการรักษาพยาบาลในทุกมณฑลจะไม่สามารถรับมือกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นได้ 

“อย่างไรก็ดี การก้าวออกจากระบบ Zero-Covid ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นนั้นสามารถทำได้โดยการนำแนวทางที่หลากหลายซึ่งประกอบด้วยการฉีดวัคซีน การรักษาด้วยยาต้านไวรัส มาตรการด้านสาธารณสุขและสังคม และการกลับมาเปิดประเทศตามลำดับ” รายงานระบุ 

เหลียง ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการด้านอาหารและสุขภาพ ได้ลองใช้แบบจำลองคอมพิวเตอร์เพื่อคาดการณ์ในช่วงการระบาดระลอกที่ 5 ของฮ่องกง พบว่า ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เขาคาดการณ์ว่าจำนวนผู้เสียชีวิตอาจถึง 7,000 คนี้ภายในกลางเดือนมิถุนายนหากระบบสาธารณสุขล้มเหลว ซึ่งในช่วงเวลานั้นก็มีผู้เสียชีวิตประมาณ 9,000 ราย 

ทั้งนี้ แผ่นดินใหญ่ผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ทำให้ประเทศเข้าใกล้การกลับมาเปิดประเทศ โดยมีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมด 1,944 รายบนแผ่นดินใหญ่เมื่อวันพฤหัสบดี (15 ธ.ค.) แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 

ภายใต้กฎใหม่ ชาวจีนที่มีอาการเล็กน้อยหรือไม่มีอาการจะได้รับอนุญาตให้แยกตัวที่บ้านเป็นเวลา 7 วัน แทนที่จะอยู่ที่ส่วนกลาง ส่วนผู้สัมผัสใกล้ชิดอาจต้องกักตัวที่บ้านเป็นเวลา 5 วัน แทนที่จะเป็น 8 วัน  

นอกจากนี้ ผู้คนไม่จำเป็นต้องแสดงผลการทดสอบปฏิกิริยาลูกโซ่โพลิเมอเรสเป็นลบ หรือรหัสสุขภาพเมื่อเข้าไปในสถานที่สาธารณะหรือเดินทางข้ามประเทศอีกต่อไป ยกเว้นที่โรงพยาบาล โรงเรียน และบ้านพักคนชรา 

ก่อนหน้านี้ จีน้ประกาศให้ผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปมีสิทธิ์ได้รับวัคซีนเข็มที่ 4 โดยเริ่มตั้งแต่วันพุธ (14 ธ.ค.) ที่ผ่านมา ขณะที่ยาต้านไวรัสแพ็กซ์โลวิด (Paxlovid) ก็ได้รับการอนุมัติตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 

การศึกษาใช้การจำลองสถานการณ์เพื่อสร้างสถานการณ์ต่างๆ เพื่อค้นหาประสิทธิภาพของการฉีดวัคซีนรวมเข็มที่ 4 การรักษาด้วยยาต้านไวรัสในวงกว้าง และมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม เพื่อให้แผ่นดินใหญ่สามารถปรับกฎเพิ่มเติมเกี่ยวกับโควิด-19 และยกเลิกนโยบายปลอดโควิดได้อย่างปลอดภัย 

การศึกษายังระบุอีกว่า “ด้วยความครอบคลุมการฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 ที่ 85% และยาต้านไวรัสครอบคลุม 60% การเสียชีวิตสะสมจะลดลง 26-35% เหลือ 448-503 รายต่อประชากร 1 ล้านคน ส่วนมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมในระดับปานกลางนั้นยังช่วยลดการแพร่เชื้อได้ 47-69%” 

นักวิจัยแนะนำให้ปักกิ่งเร่งฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 ประมาณ 30-60 วันก่อนที่จะเปิดประเทศอีกครั้ง และดำเนินการให้เสร็จภายใน 60 วัน 

นักวิจัยเสริมว่า รัฐควรแจกจ่ายยาต้านไวรัสในเวลาที่เหมาะสมและมีความครอบคลุมสูง มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมควรอยู่ในระดับปานกลางเพื่อลดการหยุดชะงักทางเศรษฐกิจและสังคม แต่ควรบังคับใช้กฎที่เข้มงวดที่สุดหากโรงพยาบาลมีผู้ป่วยมากเกินไป 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์