เมื่อพูดถึงร้านสะดวกซื้อที่เราคุ้นหู คุ้นตาที่สุด ก็คงจะหนีไม่พ้น ‘7-Eleven’ เพราะนอกจากจะเห็นได้ทั่วทุกหัวมุมถนนในบ้านเราแล้ว เรายังพบเจอกับร้านสะดวกซื้อร้านนี้ตามประเทศต่างๆ โดย 7-Eleven มีสาขาไปทั่วโลกกว่า 83,000 แห่ง และกว่า 1 ใน 4 ของจำนวนทั้งหมดนี้ ตั้งอยู่ที่ ‘ญี่ปุ่น’
แต่รู้หรือไม่ว่าที่ร้านสะดวกซื้อร้านนี้สามารถยืนหยัด และเติบโตขึ้นมาเป็นธุรกิจใหญ่โตจนถึงปัจจุบันได้ เป็นเพราะมหาเศรษฐีชาวญี่ปุ่นคนหนึ่ง ที่เรียกได้ว่าเป็น ‘บิดาแห่ง 7-Eleven’
‘มาซาโตชิ อิโตะ’ มหาเศรษฐีชาวญี่ปุ่น วัย 98 ปี ผู้ที่ช่วยเปลี่ยนร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ให้กลายเป็นอาณาจักรธุรกิจระดับโลก เสียชีวิตแล้วเมื่อวันศุกร์ (10 มี.ค.) ที่ผ่านมา ด้วยวัยชรา
บริษัท Seven & I Holdings กล่าวในแถลงการณ์ว่า อิโตะในวัย 98 ปี เสียชีวิตด้วยวัยชราเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทางบริษัทขอแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจต่อเขา สำหรับความเมตตาตลอดช่วงเวลาในชีวิตของเขา
ขณะนั้นผู้บริหารของ อิโตะ-โยคาโดะ และโทชิฟูมิ ซูซูกิ พบเห็นร้าน 7-Eleven ในระหว่างการเยือนสหรัฐฯ ต่อมาอิโตะ-โยคาโดะได้ทำข้อตกลงกับเจ้าของ 7-Eleven ซึ่งเป็นของบริษัทเซาธ์แลนด์ คอร์ปอเรชัน (Southland Corporation) ในสหรัฐฯ และเปิด 7-Eleven แห่งแรกในญี่ปุ่นในปี 1974 จนกระทั่งในเดือน มี.ค. ปี 1990 บริษัทของอิโตะได้เข้าครอบครองหุ้นรายใหญ่ของเซาธ์แลนด์ คอร์ปอเรชัน
อิโตะเคยกล่าวในการให้สัมภาษณ์ว่า ผมมักจะถูกถามว่าผมประสบความสำเร็จจากการทำงานหนัก หรือเพราะจริงๆ แล้วผมโชคดีกันแน่ อันที่จริง คำตอบมันก็ใช่ทั้ง 2 อย่างนั่นแหละ ผมโชคดีที่ได้เริ่มธุรกิจทันทีหลังสงครามโลก ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่สังคมผู้บริโภคในวงกว้างเริ่มพัฒนาขึ้นในญี่ปุ่น
ในปี 1992 อิโตะประกาศลาออกจากตำแหน่งที่ อิโตะ-โยคาดะ เนื่องจากมีการกล่าวหาว่าผู้บริหาร 3 คน จ่ายเงินอย่างผิดกฎหมายให้กับยากูซา เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในการประชุมผู้ถือหุ้น
บริษัท อิโตะ-โยคาดะ เปลี่ยนชื่อเป็น Seven & i holdings ในปี 2005 ซึ่งตัวไอ (I) ในชื่อเป็นการยกย่องถึง อิโตะ-โยคาดะ และอิโตะซึ่งเป็นประธานกิตติมศักดิ์ของบริษัท
แต่รู้หรือไม่ว่าที่ร้านสะดวกซื้อร้านนี้สามารถยืนหยัด และเติบโตขึ้นมาเป็นธุรกิจใหญ่โตจนถึงปัจจุบันได้ เป็นเพราะมหาเศรษฐีชาวญี่ปุ่นคนหนึ่ง ที่เรียกได้ว่าเป็น ‘บิดาแห่ง 7-Eleven’
‘มาซาโตชิ อิโตะ’ มหาเศรษฐีชาวญี่ปุ่น วัย 98 ปี ผู้ที่ช่วยเปลี่ยนร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ให้กลายเป็นอาณาจักรธุรกิจระดับโลก เสียชีวิตแล้วเมื่อวันศุกร์ (10 มี.ค.) ที่ผ่านมา ด้วยวัยชรา
บริษัท Seven & I Holdings กล่าวในแถลงการณ์ว่า อิโตะในวัย 98 ปี เสียชีวิตด้วยวัยชราเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทางบริษัทขอแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจต่อเขา สำหรับความเมตตาตลอดช่วงเวลาในชีวิตของเขา
กว่าจะมาเป็น 7-Eleven ในวันนี้
ในปี 1956 อิโตะเข้าซื้อกิจการเครื่องแต่งกายเล็กๆ ในโตเกียว ซึ่งดำเนินการโดยลุงของเขาซึ่งในขณะนั้นเป็นพี่ชายต่างมารดา ต่อมาอิโตะได้เปลี่ยนชื่อกิจการดังกล่าวเป็น อิโตะ-โยคาโดะ และเปลี่ยนธุรกิจให้กลายเป็นเครือข่ายร้านค้าครบวงจรที่ขายของทุกอย่างตั้งแต่ของชำ ไปจนถึงเสื้อผ้า จนกระทั่งเป็นที่รู้จักในปี 1972ขณะนั้นผู้บริหารของ อิโตะ-โยคาโดะ และโทชิฟูมิ ซูซูกิ พบเห็นร้าน 7-Eleven ในระหว่างการเยือนสหรัฐฯ ต่อมาอิโตะ-โยคาโดะได้ทำข้อตกลงกับเจ้าของ 7-Eleven ซึ่งเป็นของบริษัทเซาธ์แลนด์ คอร์ปอเรชัน (Southland Corporation) ในสหรัฐฯ และเปิด 7-Eleven แห่งแรกในญี่ปุ่นในปี 1974 จนกระทั่งในเดือน มี.ค. ปี 1990 บริษัทของอิโตะได้เข้าครอบครองหุ้นรายใหญ่ของเซาธ์แลนด์ คอร์ปอเรชัน
อิโตะเคยกล่าวในการให้สัมภาษณ์ว่า ผมมักจะถูกถามว่าผมประสบความสำเร็จจากการทำงานหนัก หรือเพราะจริงๆ แล้วผมโชคดีกันแน่ อันที่จริง คำตอบมันก็ใช่ทั้ง 2 อย่างนั่นแหละ ผมโชคดีที่ได้เริ่มธุรกิจทันทีหลังสงครามโลก ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่สังคมผู้บริโภคในวงกว้างเริ่มพัฒนาขึ้นในญี่ปุ่น
ในปี 1992 อิโตะประกาศลาออกจากตำแหน่งที่ อิโตะ-โยคาดะ เนื่องจากมีการกล่าวหาว่าผู้บริหาร 3 คน จ่ายเงินอย่างผิดกฎหมายให้กับยากูซา เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในการประชุมผู้ถือหุ้น
บริษัท อิโตะ-โยคาดะ เปลี่ยนชื่อเป็น Seven & i holdings ในปี 2005 ซึ่งตัวไอ (I) ในชื่อเป็นการยกย่องถึง อิโตะ-โยคาดะ และอิโตะซึ่งเป็นประธานกิตติมศักดิ์ของบริษัท
วัฒนธรรมที่ถูกสร้างขึ้นพร้อมกับ ‘ร้านสะดวกซื้อ’
บางทีผลงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาที่มีต่อญี่ปุ่นยุคใหม่อาจเริ่มขึ้นในช่วงที่เขานำ 7-Eleven เข้ามาเปิดในญี่ปุ่น เขาได้ปฏิวัติวงการค้าปลีกของญี่ปุ่น และเปลี่ยนทุกอย่างตั้งแต่วิธีที่บริษัทต่างๆ เคลื่อนย้ายสินค้าไปจนถึงวิธีการรับประทานอาหารของผู้คนในปี 1978 บริษัทเปิดตัวข้าวปั้นพร้อมทานบนชั้นวางในร้าน ทำให้ของว่าง และของทานเล่นธรรมดาๆ กลายเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมอาหารจานด่วนของประเทศไปเลยทีเดียว
ในทศวรรษต่อมา 7-Eleven และร้านสะดวกซื้ออื่นๆ นับหมื่นแห่งทั่วประเทศญี่ปุ่น นำเสนอสินค้าและบริการที่หลากหลาย ร้านค้าต่างๆ ซึ่งเปิดตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันตลอดปี กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันจนรัฐบาลประกาศให้เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ
มิตรภาพ
อิโตะได้รับอิทธิพลจากมิตรภาพของเขากับ ปีเตอร์ ดรักเกอร์ กูรูด้านการจัดการชาวออสเตรีย-อเมริกันอีกด้วยตามรายงานของฝ่ายบริหารของวิทยาลัยดรักเกอร์ ระบุว่า ในช่วงปีแรกๆ ที่พวกเขารู้จักกัน ทั้ง 2 มักจะพบเจอกันไม่ว่าจะในสหรัฐฯ หรือญี่ปุ่น และใช้เวลาช่วงเย็นในการพูดคุยกันถึงเรื่องเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจญี่ปุ่น และทิศทางที่อิโตะควรวางแผน
อิโตะถือเป็นผู้บริจากรายใหญ่ของวิทยาลัยดรักเกอร์ และดรักเกอร์ก็เรียกอิโตะว่าเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการและผู้สร้างธุรกิจที่โดดเด่นที่สุดในโลก
