สำนักข่าว EXPRESS รายงานว่า เจ้าชายแอนดรูว์ทรงบ่นกับพระสหายว่าไม่ได้รับทรัพย์สมบัติที่เป็นมรดกจำนวน 650 ล้านปอนด์ (ราว 2.7 หมื่นล้านบาท) จากควีนเอลิซาเบธ โดยขณะนี้กษัตริย์ชาร์ลส์ทรงควบคุมเงินมรดกก้อนนี้แต่เพียงผู้เดียวและไม่ต้องจ่ายภาษีใดๆ จากเงินจำนวนนี้ และพระองค์ยังหลีกเลี่ยงการแบ่งเงินนี้ให้กับพระอนุชาของพระองค์
แหล่งข่าวระบุว่า ดยุกแห่งยอร์กกำลังงุนงงกับสภาวะที่ไม่มีเงิน เนื่องจากพระองค์ไม่ได้รับการคุ้มครองด้านความปลอดภัยที่ใช้เงินภาษีของประชาชนและที่พัก หลังจากพระองค์ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะสมาชิกราชวงศ์แล้ว
นอกจากนี้ เจ้าชายแอนดรูว์อาจจะเสีย Royal Lodge บ้านพักมูลค่า 30 ล้านปอนด์ (ราว 1.2 พันล้านบาท) ในอุทยาน Windsor Great Park ที่พระองค์ประทับกับ ซาราห์ ดัชเชสแห่งยอร์กอดีตภรรยา และเงินสนับสนุนประจำปีจำนวน 249,000 ปอนด์ (ราว 10 ล้านบาท) ของพระองค์จะถูกตัดออกในเดือนเมษายนนี้
หากไม่มีเงินช่วยเหลือ เจ้าชายแอนดรูว์จะต้องลำบากในการจ่ายค่าบำรุงรักษาทรัพย์สิน โดยก่อนหน้านี้เจ้าชายแอนดรูว์ทรงใช้เงินส่วนพระองค์หลายล้านปอนด์บูรณะ Royal Lodge
ขณะที่เจ้าหญิงแอนน์และเจ้าชายเอ็ดเวิร์ดก็ทรงเก็บงำความขุ่นเคืองใจที่ไม่ได้รับมรดก อย่างไรก็ตาม ในฐานะราชวงศ์ที่ทรงงานนั้น ทั้ง 2 พระองค์ก็ได้รับการสนับสนุนจากเงินรายได้ส่วนพระมหากษัตริย์
จากรายงานระบุว่า เจ้าหญิงแอนน์เป็นเจ้าของสวนสาธารณะ Gatcombe Park ขนาด 700 เอเคอร์ในเขต Cotswolds ขณะที่เจ้าชายเอ็ดเวิร์ดซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นดยุกแห่งเอดินบะระเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และมีสัญญาเช่า 150 ปีในพระราชวัง Bagshot Park ในเขตเทศมณฑล Surrey
พระสหายของเจ้าชายแอนดรูว์กล่าวกับ The Sun เมื่อวันอาทิตย์ (12 มี.ค.) ที่ผ่านมาว่า “พระองค์ (เจ้าชายแอนดรูว์) อยู่ในความสิ้นหวัง พระองค์เป็นสมาชิกของครอบครัว ให้ตายเถอะ”
เมื่อสมเด็จพระราชินียังมีพระชนม์อยู่ พระองค์ทรงเตรียมมรดกไว้สำหรับลูกๆ ทุกพระองค์ แต่กษัตริย์ชาร์ลส์ทรงประกาศอย่างชัดเจนว่าต้องประหยัดงบประมาณของราชวงศ์ ซึ่งมีรายงานในสัปดาห์นี้ว่าพระองค์ปฏิเสธที่จะจ่ายค่าจ้างโยคีมาที่บ้านเจ้าชายแอนดรูว์เพื่อบำบัดจำนวน 32,000 ปอนด์ และกษัตริย์ชาร์ลส์ทรงสัญญาว่าเจ้าชายแนดรูว์จะไม่ถูกทอดทิ้งให้อยู่โดยไม่มีบ้าน
ด้าน ฮิวโก วิคเกอรส์ ผู้เชี่ยวชาญของราชวงศ์ กล่าวกับ Daily Mail ว่า “ราชวงศ์เคยทำสิ่งนี้มาก่อน พระราชมารดาทิ้งทุกอย่างไว้กับพระราชธิดาของพระองค์ (ราชินี) ในปี 2002”
“เนื่องจากพระมหากษัตริย์ไม่ต้องเสียภาษี จึงเป็นวิธีการหลีกเลี่ยงภาษีมรดก พระราชมารดาออกคำสั่งว่าญาติคนไหนควรได้รับอะไร แต่พระธิดาของพระองค์ถูกควบคุม”
ตามกฎภาษีของราชวงศ์ หากกษัตริย์ประสงค์จะให้มรดกเป็นเงินสดแก่พระสหายหรือสมาชิกในครอบครัว ยกเว้นเจ้าชายวิลเลียมรัชทายาท พวกเขาจะไม่ต้องจ่ายจ่ายภาษีก็ต่อเมื่อกษัตริย์ชาร์ลส์มีชีวิตอยู่ต่ออีก 7 ปี
ไมค์ วอร์เบอร์ตัน นักบัญชีและผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีชั้นนำกล่าวว่า “ในฐานะกษัตริย์ พระองค์จะไม่ต้องเสียภาษีมรดกใดๆ ในทรัพย์สินของราชินี เมื่อถูกส่งต่อจากจักรพรรดิสู่จักรพรรดิ พระองค์มีสิทธิ์มอบมรดกตลอดชีวิตแก่สมาชิกในครอบครัว แต่ถ้ากษัตริย์สิ้นพระชนม์ภายในระยะเวลา 7 ปีก็จะถือว่ายังคงเป็นส่วนหนึ่งของมรดก”
แหล่งข่าวระบุว่า ดยุกแห่งยอร์กกำลังงุนงงกับสภาวะที่ไม่มีเงิน เนื่องจากพระองค์ไม่ได้รับการคุ้มครองด้านความปลอดภัยที่ใช้เงินภาษีของประชาชนและที่พัก หลังจากพระองค์ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะสมาชิกราชวงศ์แล้ว
นอกจากนี้ เจ้าชายแอนดรูว์อาจจะเสีย Royal Lodge บ้านพักมูลค่า 30 ล้านปอนด์ (ราว 1.2 พันล้านบาท) ในอุทยาน Windsor Great Park ที่พระองค์ประทับกับ ซาราห์ ดัชเชสแห่งยอร์กอดีตภรรยา และเงินสนับสนุนประจำปีจำนวน 249,000 ปอนด์ (ราว 10 ล้านบาท) ของพระองค์จะถูกตัดออกในเดือนเมษายนนี้
หากไม่มีเงินช่วยเหลือ เจ้าชายแอนดรูว์จะต้องลำบากในการจ่ายค่าบำรุงรักษาทรัพย์สิน โดยก่อนหน้านี้เจ้าชายแอนดรูว์ทรงใช้เงินส่วนพระองค์หลายล้านปอนด์บูรณะ Royal Lodge
ขณะที่เจ้าหญิงแอนน์และเจ้าชายเอ็ดเวิร์ดก็ทรงเก็บงำความขุ่นเคืองใจที่ไม่ได้รับมรดก อย่างไรก็ตาม ในฐานะราชวงศ์ที่ทรงงานนั้น ทั้ง 2 พระองค์ก็ได้รับการสนับสนุนจากเงินรายได้ส่วนพระมหากษัตริย์
จากรายงานระบุว่า เจ้าหญิงแอนน์เป็นเจ้าของสวนสาธารณะ Gatcombe Park ขนาด 700 เอเคอร์ในเขต Cotswolds ขณะที่เจ้าชายเอ็ดเวิร์ดซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นดยุกแห่งเอดินบะระเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และมีสัญญาเช่า 150 ปีในพระราชวัง Bagshot Park ในเขตเทศมณฑล Surrey
พระสหายของเจ้าชายแอนดรูว์กล่าวกับ The Sun เมื่อวันอาทิตย์ (12 มี.ค.) ที่ผ่านมาว่า “พระองค์ (เจ้าชายแอนดรูว์) อยู่ในความสิ้นหวัง พระองค์เป็นสมาชิกของครอบครัว ให้ตายเถอะ”
เมื่อสมเด็จพระราชินียังมีพระชนม์อยู่ พระองค์ทรงเตรียมมรดกไว้สำหรับลูกๆ ทุกพระองค์ แต่กษัตริย์ชาร์ลส์ทรงประกาศอย่างชัดเจนว่าต้องประหยัดงบประมาณของราชวงศ์ ซึ่งมีรายงานในสัปดาห์นี้ว่าพระองค์ปฏิเสธที่จะจ่ายค่าจ้างโยคีมาที่บ้านเจ้าชายแอนดรูว์เพื่อบำบัดจำนวน 32,000 ปอนด์ และกษัตริย์ชาร์ลส์ทรงสัญญาว่าเจ้าชายแนดรูว์จะไม่ถูกทอดทิ้งให้อยู่โดยไม่มีบ้าน
ด้าน ฮิวโก วิคเกอรส์ ผู้เชี่ยวชาญของราชวงศ์ กล่าวกับ Daily Mail ว่า “ราชวงศ์เคยทำสิ่งนี้มาก่อน พระราชมารดาทิ้งทุกอย่างไว้กับพระราชธิดาของพระองค์ (ราชินี) ในปี 2002”
“เนื่องจากพระมหากษัตริย์ไม่ต้องเสียภาษี จึงเป็นวิธีการหลีกเลี่ยงภาษีมรดก พระราชมารดาออกคำสั่งว่าญาติคนไหนควรได้รับอะไร แต่พระธิดาของพระองค์ถูกควบคุม”
ตามกฎภาษีของราชวงศ์ หากกษัตริย์ประสงค์จะให้มรดกเป็นเงินสดแก่พระสหายหรือสมาชิกในครอบครัว ยกเว้นเจ้าชายวิลเลียมรัชทายาท พวกเขาจะไม่ต้องจ่ายจ่ายภาษีก็ต่อเมื่อกษัตริย์ชาร์ลส์มีชีวิตอยู่ต่ออีก 7 ปี
ไมค์ วอร์เบอร์ตัน นักบัญชีและผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีชั้นนำกล่าวว่า “ในฐานะกษัตริย์ พระองค์จะไม่ต้องเสียภาษีมรดกใดๆ ในทรัพย์สินของราชินี เมื่อถูกส่งต่อจากจักรพรรดิสู่จักรพรรดิ พระองค์มีสิทธิ์มอบมรดกตลอดชีวิตแก่สมาชิกในครอบครัว แต่ถ้ากษัตริย์สิ้นพระชนม์ภายในระยะเวลา 7 ปีก็จะถือว่ายังคงเป็นส่วนหนึ่งของมรดก”