จุดกำเนิดของเรื่องนี้เกิดจากที่เจ้าหน้าที่ของยูเครนรายหนึ่ง โพสต์ภาพ ‘คาง’ ของปูติน 3 ภาพ และตั้งคำถามว่า เป็นคางจากชาย (ปูติน) คนเดียวกันหรือไม่
คางเจ้าปัญหา ที่นำไปสู่การ ‘จับโป๊ะ’
‘ดูเหมือนว่าช่างแต่งหน้าของปูตินต้องทำงานร่วมกับปูติน 2 ซึ่งน่าสงสัยสุดๆ ว่าอันไหนคือของจริง?’ เจ้าหน้าที่รายนั้นโพสต์
ภาพที่หนึ่งแสดงให้เห็นปูตินวัย 70 ปี ในหนึ่งเดือนก่อนในการปราศรัยต่อสมัชชาแห่งสหพันธรัฐในกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย รูปต่อมา คือรูปปูตินไปเยือนท่าเรือเซวาสโทพอลในไครเมียเมื่อวันที่ 18 มีนาคม และรูปล่าสุดที่มาเยือนมารีอูโปล
เมื่อเปรียบเทียบกันทั้ง 3 ภาพ จะเห็นได้ชัดว่า ภาพที่หนึ่งคางของปูตินเป็นรูปชัดเจน ต่อมาในภาพที่สอง จะเห็นว่าคางของเขามีความหย่อนคล้อย ขณะที่ภาพล่าสุด คางของเขาดูกระชับขึ้น แต่ก็ยังน้อยกว่าภาพแรก
แหล่งข่าวชาวรัสเซียกล่าวว่า ‘เขาดูมีช่วงเวลาที่เป็น บาบุชกา’ หรือพูดง่ายๆ ว่า เขาเหมือนคุณย่าที่ไม่มีฟัน
นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวอ้างจากหลายๆ แหล่งว่า ปูตินมีตัวปลอมที่ 2, 3, 4 ไว้ใช้สำหรับเดินทางไปนอกกรุงมอสโก หรือในพื้นที่ที่มีคนมากมาย นอกจากนี้ยังมียืนยันจากวงในด้วยว่า ปูตินไม่เคยเดินทางไปที่เซวาสโทพอล หรือมารีอูโปลเลยด้วยซ้ำ
ทฤษฎี ‘ตัวปลอม’ ของปูติน
พลตรี คีร์โล บูดานอฟ หัวหน้าหน่วยข่าวกรองทางทหารของยูเครน กล่าวกับ Daily Mail ในการให้สัมภาษณ์ว่า ผู้นำรัสเซียใช้ทีมงานถึง 2 เท่าเพื่อปกปิดการสูญเสียการควบคุมของปูตินในรัสเซีย อีกทั้งเขายังเคยตรวจพบว่า ก่อนหน้านี้ปูตินใช้ ‘ปูตินตัวปลอม’ เฉพาะในโอกาสพิเศษ แต่หลังจากที่มีสงครามเกิดขึ้น เขาก็ใช้ตัวปลอมไปที่นั่นที่นี่เหมือนเป็นเรื่องปกติ
บูดานอฟ บอกว่า เรารู้เรื่องที่ว่ามีตัวปลอมปรากฏขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วมีกี่คนกันแน่ ซึ่งพวกเขาทั้งหมดไปศัลยกรรมใบหน้า เพื่อให้หน้าดูเหมือนกัน ซึ่งสิ่งที่ทำให้มันแตกต่างคือ ‘ความสูง’ ซึ่งปรากฏให้เห็นในวิดีโอและรูปภาพ นอกจากนี้ยังมีท่าทาง ภาษากาย และติ่งหู เนื่องจากสิ่งเหล่านี้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
หลักฐานที่มองเห็นอยู่บน ‘หู’
แม้ว่าคำกล่าวอ้างของบูดานอฟเกี่ยวกับสุขภาพของปูตินหรือการอวัยวะส่วนต่างๆ จะไม่ได้รับการยืนยัน แต่ ‘หู’ เป็นหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ได้รับการบันทึกมานานหลายทศวรรษแล้ว
ตั้งแต่ทศวรรษ 1950 นักนิติวิทยาศาสตร์ใช้การวัดหูเพื่อระบุผู้ต้องสงสัยในคดีอาชญากรรม และในยุคของอัลกอริทึม Wired รายงานว่า การใช้หูระบุตัวตนโดยซอฟต์แวร์ อาจเป็นตัวระบุตัวตนที่ได้ผลการตรวจที่เป็นเอกลักษณ์มากกว่าลายนิ้วมือ
International Business Times ในปี 2018 เรียกแนวคิดของปูติน ที่ใช้ตัวปลอมนี้ว่าเป็นหนึ่งใน ‘ทฤษฎีสมคบคิดที่ไม่ธรรมดา’ หลังจากชาวเน็ตได้แชร์ภาพถ่ายที่กลายเป็นไวรัลบนโซเชียลมีเดีย โดยเน้นที่หูของปูตินอีกครั้งและวิเคราะห์เพื่อหาเบาะแสที่เป็นไปได้ แม้ว่าชาวเน็ตผู้นี้จะไม่มั่นใจก็ตาม
“เมื่อคุณโตขึ้น หูของคุณจะไม่เปลี่ยนแปลง มันจะใหญ่ขึ้นแต่สัดส่วนยังคงเท่าเดิม” มาร์ก นิกสัน ผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์วิทัศน์แห่งมหาวิทยาลัยเซาแธมป์ตันและนักวิจัยชั้นนำด้านการจดจำหู กล่าวกับ BBC
ขณะที่ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการสแกน 3 มิติทำให้สามารถระบุตัวบุคคลได้แม้จากภาพที่เลือนราง โดยการวัดระยะห่างจากติ่งหูถึงขอบบนของหู ด้วยความแม่นยำ 99.6% ในเวลาเพียง 0.02 มิลลิวินาที
เล่ห์เหลี่ยมทางการเมือง
แม้ว่าคำกล่าวอ้างที่ว่าปูตินใช้ตัวปลอม นับตั้งแต่การรุกรานยูเครนของรัสเซียเริ่มขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว แต่ไม่ใช่เรื่องใหม่และไม่ได้จำกัดเฉพาะผู้นำรัสเซียเท่านั้น
เมื่อเดือนที่แล้ว Newsweek รายงานข่าวลือที่ว่า ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ใช้ตัวปลอม ขณะที่พบกับประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ในระหว่างการเยือนยูเครนของไบเดน นอกจากนี้ไบเดนยังถูกนักทฤษฎีสมคบคิดกล่าวหาว่า ใช้ตัวปลอมในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ตามรายงานของ PolitiFact อีกด้วย
ขณะที่ภาพถ่ายในปี 2017 ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ คิม จอง อึน ที่ถูกเผยแพร่ออกมา ยิ่งกระพือข่าวลือเรื่องที่ว่า คิมกำลังจะเสียชีวิต หรืออาจจะเสียชีวิตไปแล้ว
บูดานอฟ เชื่อว่าปูตินกำลังป่วยหนัก เป็นอีกทฤษฎีหนึ่งที่มีผู้วิพากษ์วิจารณ์ผู้นำรัสเซียมาอย่างยาวนาน ซึ่งคิดว่าเขาอาจจะกำลังทนทุกข์ทรมานจากอาการป่วยต่างๆ ตั้งแต่มะเร็งไปจนถึงอาการป่วยที่ยังคลุมเครือ ที่ทำให้สภาพร่างกายและจิตใจของเขาแย่มาก
ทฤษฎีของบุคคลสำคัญทางการเมืองที่ใช้ตัวปลอมมักดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์กับข่าวลือเรื่องความเจ็บป่วยหรือความอ่อนแอต่างๆ ที่จะกระทบต่อภาพผู้นำของพวกเขา