‘วากเนอร์’ มือสังหารในเกมสงคราม กับบทบาทเบื้องหน้าในยูเครนและกองหนุนของซูดาน

21 เม.ย. 2566 - 07:28

  • กลุ่มทหารรับจ้าง ‘วากเนอร์’ (Wagner) ของรัสเซียได้จัดส่งขีปนาวุธให้กับกองกำลังสนับสนุนเคลื่อนที่เร็วของซูดาน (RSF) เพื่อช่วยในการต่อสู้กับกองทัพที่ขัดแย้งกันจนเกิดการปะทะกลางเมืองหลวง

Russias-Wagner-arming-militia-leader-battling-Sudan-SPACEBAR-Hero
กลุ่มทหารรับจ้าง ‘วากเนอร์’ (Wagner) ของรัสเซียได้จัดส่งขีปนาวุธให้กับกองกำลังสนับสนุนเคลื่อนที่เร็วของซูดาน (RSF) เพื่อช่วยในการต่อสู้กับกองทัพที่ขัดแย้งกันจนเกิดการปะทะกลางเมืองหลวง 

แหล่งข่าวทางการทูตของซูดานและภูมิภาคบอกกับ CNN ว่า ขีปนาวุธที่ยิงจากพื้นสู่อากาศได้สร้างความแข็งแกร่งให้ทหารของ RSF และโมฮาเหม็ด ฮัมดัน ดากาโล ผู้บัญชาการ RSF  ในการต่อสู้เพื่อแย่งชิงอำนาจกับ อับเดล ฟัตตาห์ อัล-บูร์ฮาน ผู้บัญชาการกอทัพซูดาน 

ในเขตแดนของลิเบีย ที่ซึ่งคาลิฟา ฮัฟตาร์ นายพลที่ได้รับการสนับสนุนจากวากเนอร์ ได้ควบคุมพื้นที่ในวงกว้าง โดยภาพถ่ายดาวเทียมสนับสนุนคำกล่าวอ้างเหล่านี้ แสดงให้เห็นกิจกรรมฐานทัพวากเนอร์ที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ 

ทั้งหมดทั้งมวลนี้ เรากำลังพูดถึงกลุ่มวากเนอร์ ที่รวบรวมกำลังแข็งแกร่งขึ้นทุกวัน ได้แสดงบทบาทต่อสาธารณะ และมีบทบาทสำคัญในวงการทหารของรัสเซีย ซึ่งก็คือการปฏิบัติหน้าที่ในยูเครน อีกทั้งยังถูกกล่าวหาอยู่บ่อยๆ ว่ามีการกระทำที่ทารุณโหดร้าย

กลุ่มวากเนอร์คือใคร?  

กลุ่มนี้ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางครั้งแรกในปี 2014 เนื่องจากเชื่อกันว่าทหารรับจ้างวากเนอร์มีส่วนเกี่ยวข้องในการผนวกไครเมียของรัสเซียและการสู้รบในภาคตะวันออกของยูเครน นอกจากนี้ยังเชื่อว่ากลุ่มวากเนอร์มีส่วนร่วมในสงครามซีเรีย โดยสนับสนุนกองกำลังรัสเซีย ซึ่งเข้าแทรกแซงอยู่ข้างประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดในปี 2015 

วากเนอร์กรุ๊ป บริหารงานโดย เยฟกินี ปริโกชิน นักธุรกิจผู้ร่ำรวย และได้รับสมญานามเป็น ‘พ่อครัวของปูติน’ ความร่ำรวยอู้ฟู้ของเขาเพิ่มขึ้น รวมถึงกองทัพของเขาก็เช่นกัน  เนื่องจากกองทัพของเขาได้ปรากฏตัวขึ้นในลิเบีย ซึ่งต่อสู้ในสงครามกลางเมืองเพื่อสนับสนุนนายพลกบฎ

วากเนอร์มีบทบาทอย่างไรในซูดาน? 

วากเนอร์กรุ๊ปเริ่มประจำการในซูดานในสมัยการปกครองของอดีตประธานาธิบดี โอมาร์ อัล-บาชีร์ ซึ่งถูกบีบให้ลงจากอำนาจในปี 2019 ระหว่างการประท้วงครั้งใหญ่ 

ด้วยความกลัวว่าการปกครองของเขาจะสั่นคลอน อัล-บาชีร์จึงเดินทางไปรัสเซียในปี 2017 เพื่อพบกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน และเสนอให้ซูดานเป็น ‘ประตูสู่แอฟริกา’ ของรัสเซียเป็นการตอบแทนที่รัสเซียสนับสนุน หลังจากนั้นไม่นาน Meroe Gold ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองแร่แห่งใหม่ของบริษัท M Invest ของรัสเซียได้เริ่มนำผู้เชี่ยวชาญชาวรัสเซียเข้าสู่ประเทศซูดาน และเป็นผู้ผลิตทองคำรายใหญ่อันดับ 3 ของแอฟริกา 

ในปี 2020 กระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ได้คว่ำบาตร M Invest และ Meroe Gold โดยกล่าวว่าการสืบสวนได้เปิดเผยว่า M Invest มีส่วนในการปกปิดกลุ่มวากเนอร์ 

“กลุ่มวากเนอร์ มีเป้าหมายหลักในการปกป้องทรัพยากรแร่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแหล่งขุดทอง และทำหน้าที่เป็นกองกำลังสนับสนุนรัฐบาลบาชีร์ในแง่ของการปกป้องจากการต่อต้านระหว่างประเทศ” ซามูเอล รามาดี ผู้เขียนหนังสือรัสเซียในแอฟริกากล่าว 

ในระหว่างการประท้วงต่อต้านอัล-บาชีร์ในปี 2019 รามาดีเล่าว่า กลุ่มวากเนอร์เปลี่ยนจากการเป็นกองทัพผู้พิทักษ์ มาเป็นผู้เล่นโดยตรงอย่างแท้จริงในการพยายามปราบปรามการประท้วง 

หลังจากอัล-บาชีร์ถูกปลดออกจากอำนาจ ปริโกชินพยายามปรับตัวเองให้สอดคล้องกับผู้บัญชาการกองทัพ อับเดล ฟัตตาห์ อัล-บูร์ฮาน อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์แย่ลงหลังจากการสังหารหมู่ที่คาร์ทูมในปี 2019 เมื่อหน่วยรักษาความปลอดภัยของซูดานสลายการชุมนุมอย่างรุนแรง ผลักดันให้ กลุ่มวากเนอร์กลับเข้าสู่บทบาทผู้พิทักษ์ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ในเหมือง 

รายงานของ CNN อ้างแหล่งข่าวและข้อมูลการบินของทางการซูดาน ระบุว่า เครื่องบินทหารลำหนึ่งลักลอบขนทองคำบินอย่างน้อย 16 เที่ยวบินจากซูดานไปยังลาตาเกีย เมืองท่าของซีเรียที่รัสเซียมีฐานทัพ เพื่อช่วยสนับสนุนเงินทุนในการรุกรานยูเครนของรัสเซีย 

ขณะที่ทางสหภาพยุโรปก็ได้คว่ำบาตร Meroe Gold โดยระบุว่า ด้วยความร่วมมือกับกองทัพซูดาน วากเนอร์ (Wagner Group) ได้รับสิทธิ์ในการขุดทองคำซูดานและส่งออกไปยังรัสเซีย 

ผลประโยชน์ของรัสเซียในซูดานไม่ได้หยุดอยู่ที่ทองคำ รัสเซียเตรียมลงนามข้อตกลงกับซูดานเพื่อสร้างฐานทัพในพอร์ตซูดานในทะเลแดง เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน รัสเซียจะส่งอาวุธและอุปกรณ์ทางทหารไปยังซูดาน 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์