ตำรวจนอร์เวย์กำลังพิจารณาที่จะระเบิดเขื่อนเมื่อน้ำจากแม่น้ำ Glåma ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดของประเทศ เริ่มไหลทะลักออกมาด้านข้างของโรงไฟฟ้าพลังน้ำบราสเคอเรดฟอสส์ (Braskereidfoss)
พายุลูกนี้เกิดขึ้นหลังจากพายุลูกใหญ่ ‘ฮันส์’ ซึ่งก่อให้เกิดความโกลาหลทั่วยุโรปเหนือในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และทำให้ทางตอนใต้ของนอร์เวย์อยู่ในภาวะวิกฤตหลังจากเกิดน้ำท่วมและดินถล่มเป็นบริเวณกว้าง โดยคาดว่าระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงวันพฤหัสบดี
หญิงวัย 70 ปีเสียชีวิตเมื่อวันพุธหลังจากตกลงไปในลำธาร และผู้คนราว 700-800 คนถูกอพยพออกจากอินลันเด็ต เขตซึ่งรวมถึงบราสเคอเรดฟอสส์ด้วย ถนนสายหลักทั้งหมดระหว่างออสโลและทรอนด์เฮมถูกปิดในวันพุธ
พอล อีริค ไทเกน หัวหน้าเจ้าหน้าที่ของเขตตำรวจอินลัยเด็ตกล่าวว่า กองกำลังของเขาเฝ้าติดตามเขื่อน บราสเคอเรดฟอสส์และทำงานร่วมกับ Hafslund Eco เจ้าของโรงไฟฟ้า โดยทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้น้ำเริ่มไหลผ่าน … มันเป็นไปอย่างช้าๆ ซึ่งนี่อาจเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในตอนนี้
“เราเกิดดินถล่มทั่วบริเวณ อพยพผู้คนจำนวนมาก ถนนทุกสายถูกปิด และแม่น้ำทุกสายเอ่อล้น มันเป็นวิกฤตครั้งใหญ่สำหรับเรา ผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน” เขากล่าว
ขณะที่บริษัทกล่าวในถ้อยแถลงว่า ขณะนี้น้ำได้ผ่านเขื่อนกั้นน้ำแล้ว ซึ่งตั้งอยู่ถัดจากโรงไฟฟ้า ขณะนี้ปรากฏว่าการผันน้ำผ่านเขื่อนทดน้ำเป็นไปได้ด้วยดี มีน้ำจำนวนมากในกลามาอันเป็นผลมาจากพายุฮันส์ และมีการพิจารณามาตรการต่างๆ หลายอย่างเพื่อให้แน่ใจว่าน้ำถูกผันผ่านโรงไฟฟ้า รวมถึงการระเบิด ซึ่งปัจจุบันถือว่ายังไม่ควรระเบิด โดยเรากำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและกำลังพิจารณามาตรการต่อเนื่องโดยร่วมมือกับตำรวจและการป้องกันในพื้นที่
สถาบันอุทกวิทยาของรัฐบาล ระบุว่า พื้นที่ทางตะวันออกและตอนกลางของนอร์เวย์ยังคงอยู่ในภาวะเตือนภัยระดับสีแดง โดยแม่น้ำหลายสายมีระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในแม่น้ำและทะเลสาบหลายแห่ง ระดับน้ำยังคงเพิ่มขึ้น
ขณะที่ในฝั่งของเอเชียอย่างเกาหลีใต้และญี่ปุ่นเองก็เจอกับ ‘พายุฤดูร้อนขนุน’ ที่พัดถล่มญี่ปุ่นในภูมิภาคมิยาซากิ ทางตอนใต้ของประเทศ และถูกประกาศเตือนภัยระดับสูงในชั่วข้ามคืน รัฐบาลขอให้ประชาชนปกป้องชีวิตของตนเองในทันที เนื่องจากมีความเสี่ยงเรื่องโคลนถล่มจากฝนที่เพิ่มขึ้น กว่า 10,000 ครัวเรือนบนเกาะคิวชูยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้เนื่องจากพายุ
พายุดังกล่าวเคลื่อนตัวอ้อมไปยังคาบสมุทรเกาหลี ทำให้เกิดฝนตกหนักทั่วประเทศ เที่ยวบินและรถไฟความเร็วสูงหลายร้อยเที่ยวถูกยกเลิก ร้านค้าต่างๆ ในเมืองท่าปูซานต้องปิดตัวลงหลังพายุพัดเข้าฝั่งจนทำให้เกิดฝนตกหนักและลมแรงวันนี้
มีการอพยพผู้คนกว่า 10,000 คน โดยนายกรัฐมนตรี ฮานดั๊กซู ได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐท้องถิ่นตรวจสอบผู้อยู่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงสูงสามารถอพยพได้หรือไม่ และช่วยกันอพยพออกไปโดยเร็ว ขณะที่มีการออกคำเตือนไต้ฝุ่นทั่วประเทศ โดยคาดการณ์ว่าฝนจะตกสูงถึง 500 มิลลิเมตรในพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ และ 100 ถึง 200 มิลลิเมตรในกรุงโซลและพื้นที่โดยรอบจนถึงเช้าวันศุกร์
พายุลูกนี้เกิดขึ้นหลังจากพายุลูกใหญ่ ‘ฮันส์’ ซึ่งก่อให้เกิดความโกลาหลทั่วยุโรปเหนือในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และทำให้ทางตอนใต้ของนอร์เวย์อยู่ในภาวะวิกฤตหลังจากเกิดน้ำท่วมและดินถล่มเป็นบริเวณกว้าง โดยคาดว่าระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงวันพฤหัสบดี
หญิงวัย 70 ปีเสียชีวิตเมื่อวันพุธหลังจากตกลงไปในลำธาร และผู้คนราว 700-800 คนถูกอพยพออกจากอินลันเด็ต เขตซึ่งรวมถึงบราสเคอเรดฟอสส์ด้วย ถนนสายหลักทั้งหมดระหว่างออสโลและทรอนด์เฮมถูกปิดในวันพุธ
พอล อีริค ไทเกน หัวหน้าเจ้าหน้าที่ของเขตตำรวจอินลัยเด็ตกล่าวว่า กองกำลังของเขาเฝ้าติดตามเขื่อน บราสเคอเรดฟอสส์และทำงานร่วมกับ Hafslund Eco เจ้าของโรงไฟฟ้า โดยทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้น้ำเริ่มไหลผ่าน … มันเป็นไปอย่างช้าๆ ซึ่งนี่อาจเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในตอนนี้
“เราเกิดดินถล่มทั่วบริเวณ อพยพผู้คนจำนวนมาก ถนนทุกสายถูกปิด และแม่น้ำทุกสายเอ่อล้น มันเป็นวิกฤตครั้งใหญ่สำหรับเรา ผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน” เขากล่าว
ขณะที่บริษัทกล่าวในถ้อยแถลงว่า ขณะนี้น้ำได้ผ่านเขื่อนกั้นน้ำแล้ว ซึ่งตั้งอยู่ถัดจากโรงไฟฟ้า ขณะนี้ปรากฏว่าการผันน้ำผ่านเขื่อนทดน้ำเป็นไปได้ด้วยดี มีน้ำจำนวนมากในกลามาอันเป็นผลมาจากพายุฮันส์ และมีการพิจารณามาตรการต่างๆ หลายอย่างเพื่อให้แน่ใจว่าน้ำถูกผันผ่านโรงไฟฟ้า รวมถึงการระเบิด ซึ่งปัจจุบันถือว่ายังไม่ควรระเบิด โดยเรากำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและกำลังพิจารณามาตรการต่อเนื่องโดยร่วมมือกับตำรวจและการป้องกันในพื้นที่
สถาบันอุทกวิทยาของรัฐบาล ระบุว่า พื้นที่ทางตะวันออกและตอนกลางของนอร์เวย์ยังคงอยู่ในภาวะเตือนภัยระดับสีแดง โดยแม่น้ำหลายสายมีระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในแม่น้ำและทะเลสาบหลายแห่ง ระดับน้ำยังคงเพิ่มขึ้น
ขณะที่ในฝั่งของเอเชียอย่างเกาหลีใต้และญี่ปุ่นเองก็เจอกับ ‘พายุฤดูร้อนขนุน’ ที่พัดถล่มญี่ปุ่นในภูมิภาคมิยาซากิ ทางตอนใต้ของประเทศ และถูกประกาศเตือนภัยระดับสูงในชั่วข้ามคืน รัฐบาลขอให้ประชาชนปกป้องชีวิตของตนเองในทันที เนื่องจากมีความเสี่ยงเรื่องโคลนถล่มจากฝนที่เพิ่มขึ้น กว่า 10,000 ครัวเรือนบนเกาะคิวชูยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้เนื่องจากพายุ
พายุดังกล่าวเคลื่อนตัวอ้อมไปยังคาบสมุทรเกาหลี ทำให้เกิดฝนตกหนักทั่วประเทศ เที่ยวบินและรถไฟความเร็วสูงหลายร้อยเที่ยวถูกยกเลิก ร้านค้าต่างๆ ในเมืองท่าปูซานต้องปิดตัวลงหลังพายุพัดเข้าฝั่งจนทำให้เกิดฝนตกหนักและลมแรงวันนี้
มีการอพยพผู้คนกว่า 10,000 คน โดยนายกรัฐมนตรี ฮานดั๊กซู ได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐท้องถิ่นตรวจสอบผู้อยู่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงสูงสามารถอพยพได้หรือไม่ และช่วยกันอพยพออกไปโดยเร็ว ขณะที่มีการออกคำเตือนไต้ฝุ่นทั่วประเทศ โดยคาดการณ์ว่าฝนจะตกสูงถึง 500 มิลลิเมตรในพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ และ 100 ถึง 200 มิลลิเมตรในกรุงโซลและพื้นที่โดยรอบจนถึงเช้าวันศุกร์
