สำนักข่าว CNA รายงานว่า ไต้หวันเปิดตัวโดรนโจมตีแบบพกพาลำแรกเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (14 มี.ค.) ซึ่งเป็นยานบินไร้คนขับที่คล้ายกับโมเดลของสหรัฐฯ ที่ใช้ในการต่อสู้ในสงครามรัสเซีย-ยูเครน ขณะที่จีนเพิ่มแรงกดดันทางทหารบนเกาะ
ประชาชน 23.5 ล้านคนของไต้หวันอยู่ภายใต้การคุกคามอย่างต่อเนื่องจากการรุกรานของจีน ซึ่งอ้างว่าระบอบประชาธิปไตยที่ปกครองตนเองนั้นเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนที่ตนจะถูกยึดในสักวันหนึ่ง โดยพวกเขาจะใช้กำลังตอบโต้หากจำเป็น
แสนยานุภาพของปักกิ่งทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงไม่กี่ปีมานี้ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง และการรุกรานยูเครนของรัสเซียได้เพิ่มความกลัวในไต้หวันว่าจีนอาจเคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกัน
สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติจงซาน (NCSIST) ที่ดำเนินการโดยกองทัพเมื่อวันอังคาร พร้อมทั้งแสดงโดรนติดอาวุธทางอากาศรุ่นใหม่ ซึ่งคล้ายกับโดรน Switchblade 300 ของสหรัฐฯ ที่ทหารยูเครนใช้อยู่ในปัจจุบัน
ตามรายงาน NCSIST ระบุว่า โดรนแบบใช้ครั้งเดียวที่ผลิตในไต้หวันได้รับการออกแบบให้มีขนาดเล็กพอที่จะพกพาใส่กระเป๋าเป้ได้ และสามารถลอยอยู่ในอากาศได้นาน 15 นาที
“เพราะมันเบาและพกพาได้ มันเหมือนกับระเบิดมือขนาดใหญ่ที่บินได้ มันมีประสิทธิภาพในการโจมตีเป้าหมายใกล้ชายฝั่งของเราโดยระยะการบินสูงสุดคือ 10 กม…ไต้หวันกำลังพัฒนาโดรนโจมตีทางอากาศ รวมถึงรุ่นใหญ่ที่สามารถใช้ในการโจมตีระยะไกล โดรนโจมตีสามารถลอยอยู่ในอากาศได้ในขณะที่บรรทุกระเบิดก่อนที่จะชนเข้ากับเป้าหมายเพื่อกำจัดมัน” ชีลีปิน หัวหน้าแผนกวิจัยระบบการบินของ NCSIST กล่าว
อย่างไรก็ดี ความตึงเครียดพุ่งสูงขึ้นในปีที่แล้ว หลังจากปักกิ่งเปิดการซ้อมรบครั้งใหญ่เพื่อตอบโต้การเยือนไทเปของ แนนซี เพโลซี อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ณ ขณะนั้น ซึ่งผู้เชี่ยวชาญบางคนมองว่าเป็นการซ้อมรับมือการรุกรานเกาะแห่งนี้ของจีน
ขณะที่พันธมิตรเรียกร้องให้ไต้หวันใช้ ‘กลยุทธ์เม่น’ แบบอสมมาตร ซึ่งจะทำให้กองทัพขนาดใหญ่ของจีนบุกเข้าโจมตีได้ยาก ซึ่งเป็นข้อโต้แย้งที่ได้รับการสนับสนุนจากการป้องกันที่แข็งแกร่งที่กองกำลังขนาดเล็กของยูเครนต่อสู้กับรัสเซีย โดยกลยุทธ์ดังกล่าวเน้นการจัดซื้อระบบอาวุธพกพาราคาไม่แพงและฝึกพลเรือนให้ต่อสู้
ประชาชน 23.5 ล้านคนของไต้หวันอยู่ภายใต้การคุกคามอย่างต่อเนื่องจากการรุกรานของจีน ซึ่งอ้างว่าระบอบประชาธิปไตยที่ปกครองตนเองนั้นเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนที่ตนจะถูกยึดในสักวันหนึ่ง โดยพวกเขาจะใช้กำลังตอบโต้หากจำเป็น
แสนยานุภาพของปักกิ่งทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงไม่กี่ปีมานี้ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง และการรุกรานยูเครนของรัสเซียได้เพิ่มความกลัวในไต้หวันว่าจีนอาจเคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกัน
สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติจงซาน (NCSIST) ที่ดำเนินการโดยกองทัพเมื่อวันอังคาร พร้อมทั้งแสดงโดรนติดอาวุธทางอากาศรุ่นใหม่ ซึ่งคล้ายกับโดรน Switchblade 300 ของสหรัฐฯ ที่ทหารยูเครนใช้อยู่ในปัจจุบัน
ตามรายงาน NCSIST ระบุว่า โดรนแบบใช้ครั้งเดียวที่ผลิตในไต้หวันได้รับการออกแบบให้มีขนาดเล็กพอที่จะพกพาใส่กระเป๋าเป้ได้ และสามารถลอยอยู่ในอากาศได้นาน 15 นาที
“เพราะมันเบาและพกพาได้ มันเหมือนกับระเบิดมือขนาดใหญ่ที่บินได้ มันมีประสิทธิภาพในการโจมตีเป้าหมายใกล้ชายฝั่งของเราโดยระยะการบินสูงสุดคือ 10 กม…ไต้หวันกำลังพัฒนาโดรนโจมตีทางอากาศ รวมถึงรุ่นใหญ่ที่สามารถใช้ในการโจมตีระยะไกล โดรนโจมตีสามารถลอยอยู่ในอากาศได้ในขณะที่บรรทุกระเบิดก่อนที่จะชนเข้ากับเป้าหมายเพื่อกำจัดมัน” ชีลีปิน หัวหน้าแผนกวิจัยระบบการบินของ NCSIST กล่าว
อย่างไรก็ดี ความตึงเครียดพุ่งสูงขึ้นในปีที่แล้ว หลังจากปักกิ่งเปิดการซ้อมรบครั้งใหญ่เพื่อตอบโต้การเยือนไทเปของ แนนซี เพโลซี อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ณ ขณะนั้น ซึ่งผู้เชี่ยวชาญบางคนมองว่าเป็นการซ้อมรับมือการรุกรานเกาะแห่งนี้ของจีน
ขณะที่พันธมิตรเรียกร้องให้ไต้หวันใช้ ‘กลยุทธ์เม่น’ แบบอสมมาตร ซึ่งจะทำให้กองทัพขนาดใหญ่ของจีนบุกเข้าโจมตีได้ยาก ซึ่งเป็นข้อโต้แย้งที่ได้รับการสนับสนุนจากการป้องกันที่แข็งแกร่งที่กองกำลังขนาดเล็กของยูเครนต่อสู้กับรัสเซีย โดยกลยุทธ์ดังกล่าวเน้นการจัดซื้อระบบอาวุธพกพาราคาไม่แพงและฝึกพลเรือนให้ต่อสู้