ความมั่นคงโลกสะเทือนเมื่อข้อมูลข่าวกรองสหรัฐฯ รั่ว

12 เมษายน 2566 - 04:53

US-classified-documents-leak-SPACEBAR-Thumbnail
  • เอกสารลับสุดยอดของสหรัฐฯ เกิดรั่วไหลออกไปปรากฏในออนไลน์ รวมถึงข้อมูลที่อ่อนไหวทั้งสงครามในยูเครน ประเด็นเกี่ยวกับจีนและพันธมิตรของสหรัฐฯ

  • ผู้ดำเนินการตรวจสอบไม่ได้ตัดความเป็นไปได้ที่ว่า กลุ่มสนับสนุนรัสเซียอาจอยู่เบื้องหลัง

  • กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ กำลังสอบสวนประเด็นนี้ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากกระทรวงกลาโหม ทำเนียบขาว และหน่วยงานส่วนอื่นของรัฐบาลสหรัฐฯ

  • เหตุการณ์นี้ถือเป็นหนึ่งในการละเมิดความมั่นคงที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์

ประเด็นร้อนของโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมา หนีไม่พ้นเรื่องที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ออกมายอมรับว่า เอกสารลับสุดยอดของกระทรวงเกิดรั่วไหลออกไปปรากฏในออนไลน์ ซึ่งรวมถึงข้อมูลที่อ่อนไหวทั้งสงครามในยูเครน ประเด็นเกี่ยวกับจีนและพันธมิตรของสหรัฐฯ 

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยอมรับว่า เอกสารลับนี้เป็นแบบเดียวกับเอกสารที่แจกจ่ายต่อคณะผู้บริหารประเทศระดับอาวุโสให้ได้รับรู้กันเป็นรายวัน เพื่ออัพเดทสถานการณ์ต่างๆ ทั้งสถานการณ์การสู้รบในยูเครน ความเคลื่อนไหวของรัสเซีย และประเด็นข่าวกรองอื่นๆ 

หลังเกิดปัญหานี้ไม่นาน กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ก็เริ่มสอบสวนเพื่อหาแหล่งที่มาของการรั่วไหล ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บอกว่า บางส่วนอาจถูกปรับแก้ และตรวจพบว่ามีคนเอามาเผยแพร่ผ่านทางแพลทฟอร์มออนไลน์ เช่น ทวิตเตอร์ 4 Chan และเทเลแกรม รวมถึงดิสคอร์ด ซึ่งเป็นที่ชุมนุมของเหล่านักเล่นวีดีโอเกม ‘Minecraft’  

เนื้อหาในเอกสาร นอกจากจะระบุถึงสงครามในยูเครนแล้ว ยังกล่าวถึงประเด็นอ่อนไหวที่เชื่อมโยงกับพันธมิตรสหรัฐฯ และบางส่วนยังพุ่งเป้าไปที่ประเด็นความมั่นคงและการทหารในตะวันออกกลาง รวมถึงในภาคพื้นอินโด-แปซิฟิก 

กระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ กล่าวว่า การรั่วไหลของเอกสารเหล่านี้เป็นเรื่องรุนแรงมาก สั่นคลอนความมั่นคงของประเทศ ทำให้ประเทศตกอยู่ในความเสี่ยง เพราะอาจมีคนนำข้อมูลนี้ไปขยายต่อแบบผิดๆ ซึ่งกระทรวงกลาโหมกำลังสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้น และขอบข่ายของประเด็นนี้ 

กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เพิ่งรู้เรื่องเอกสารรั่วเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยรัฐมนตรีกลาโหมได้รับแจ้งเรื่องนี้เมื่อวันที่ 6 เม.ย. ทำให้ทางการสหรัฐฯ ต้องย้ำเตือนต่อบรรดาชาติพันธมิตรว่าจะร่วมมือกันดูแลข่าวกรองให้เข้มงวดมากขึ้น และเป็นหุ้นส่วนด้านความมั่นคงด้วยความจริงใจ 

ขณะที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ กำลังสอบสวนประเด็นนี้ด้วยเช่นกัน ควบคู่ไปกับเจ้าหน้าที่จากกระทรวงกลาโหม ทำเนียบขาว และหน่วยงานในส่วนอื่นของรัฐบาลสหรัฐฯ 

สำนักข่าวบีบีซี ได้ตรวจสอบเอกสารที่รั่วออกมาจำนวนกว่า 20 ฉบับ ส่วนใหญ่เป็นรายละเอียดการเข้าปฏิบัติหน้าที่ของกองกำลังยูเครนและรัสเซีย ก่อนที่ฝั่งยูเครนจะเปิดฉากเคลื่อนพลบุกครั้งใหญ่ในช่วงฤดูใบไม้ผลินี้ 

เอกสารบางชุดยังเป็นร่างเอกสารที่ระบุถึงข้อมูลในการฝึกและอุปกรณ์ที่สหรัฐจัดหาให้ยูเครน ก่อนเคลื่อนพลครั้งใหญ่ รวมถึงประเด็นความพร้อมของยูเครนและวันเวลาที่คาดหมายว่าจะได้รับความช่วยเหลือทางทหาร 

การสืบสวนเรื่องนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ซึ่งผู้ดำเนินการตรวจสอบไม่ได้ตัดความเป็นไปได้ที่ว่า กลุ่มสนับสนุนรัสเซียอาจอยู่เบื้องหลังการรั่วไหลของเอกสารลับเหล่านี้ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการละเมิดความมั่นคงที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ นับตั้งแต่เอกสาร วิดีโอ และข้อมูลทางการทูตมากกว่า 700,000 รายการ ปรากฏบนเว็บไซต์วิกิลีกส์ เมื่อปี 2013 

เอกสารลับสุดยอดของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ที่ถูกนำออกเผยแพร่ทางออนไลน์ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้คนทั้งโลกเห็นว่า สหรัฐฯ สอดแนมพันธมิตรและศัตรูอย่างไร สร้างความไม่พอใจแก่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่กลัวว่าการเปิดเผยครั้งนี้อาจเป็นอันตรายต่อแหล่งข่าวที่มีความอ่อนไหว และกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ 

เอกสารอีกฉบับหนึ่ง อธิบายรายละเอียดการสนทนาระหว่างเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านความมั่นคงแห่งชาติของเกาหลีใต้สองคน เกี่ยวกับข้อกังวลของสภาความมั่นคงแห่งชาติเกาหลีใต้ เกี่ยวกับคำขอเครื่องกระสุนของรัฐบาลสหรัฐฯ โดยเจ้าหน้าที่กังวลว่า การจัดหากระสุน ซึ่งสหรัฐฯ จะส่งไปยังยูเครน จะเป็นการละเมิดนโยบายของเกาหลีใต้ ที่จะไม่ให้ความช่วยเหลือร้ายแรงแก่ประเทศที่อยู่ในภาวะสงคราม 

ตามข้อมูลในเอกสาร เจ้าหน้าที่คนหนึ่งแนะนำวิธีเลี่ยงนโยบายดังกล่าว โดยไม่ต้องแก้ไขจริง ด้วยการขายเครื่องกระสุนให้กับโปแลนด์ 

เอกสารฉบับนี้้ทำให้เกิดความขัดแย้งในเกาหลีใต้ โดยเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้บอกว่า พวกเขาเตรียมยกประเด็นนี้ขึ้นหารือกับสหรัฐฯ เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่จากประเทศอื่นๆ ก็วางแผนที่จะยกเรื่องนี้ขึ้นหารือกับสหรัฐฯ ด้วยเหมือนกัน พวกเขารอดูว่าฝ่ายบริหารของประธานาธิบดี โจ ไบเดน จะมีความเห็นอย่างไร เกี่ยวกับเอกสารที่รั่วไหลออกมา 

นอกจากนั้น รายงานข่าวกรองเกี่ยวกับอิสราเอลก็สร้างความไม่พอใจ โดยรายงานที่จัดทำโดยสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ (ซีไอเอ) และจัดทำขึ้นเพื่อส่งสัญญาณข่าวกรอง ระบุว่า “มอสซาด” หน่วยข่าวกรองหลักของอิสราเอล สนับสนุนการประท้วงต่อต้านรัฐบาล 

แถลงการณ์ระบุว่า “มอสซาดและเจ้าหน้าที่ระดับสูง ไม่ได้และไม่สนับสนุนให้บุคลากรของหน่วยงาน เข้าร่วมการเดินขบวนต่อต้านรัฐบาล การเดินขบวนทางการเมือง หรือกิจกรรมทางการเมืองใดๆ มอสซาดและเจ้าหน้าที่อาวุโส ไม่ได้มีส่วนร่วมในประเด็นการประท้วง และอุทิศตนเพื่อคุณค่าของการบริการแก่รัฐ ที่ชี้แนะแนวทางของมอสซาด นับตั้งแต่การก่อตั้ง” 

ขณะที่เอกสารลับอีกฉบับหนึ่งเสนอว่า สหรัฐฯ ประเมินนโยบายของพันธมิตรอย่างไร และสหรัฐฯ จะใช้อิทธิพลเพื่อเปลี่ยนแปลงนโยบายเหล่านี้ได้อย่างไร 

กรณีเอกสารลับรั่วครั้งนี้ น่าจะทำให้ชาติพันธมิตรของสหรัฐฯ ได้รับบทเรียนมากขึ้นว่า การมีเพื่อนอย่างสหรัฐฯ นั้น ย่อมหมายความว่า มีความเสี่ยงสูงที่จะถูกล้วงตับได้ทุกเมื่อ

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์