ปีกระต่ายเริ่มต้นขึ้นด้วยความหวาดกลัวสำหรับชาวมอนเทอรีย์พาร์ค ซึ่งเป็นชุมชนชาวเอเชียในย่านชานเมืองของลอสแองเจลิสในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ เนื่องจากเกิดเหตุกราดยิงจนมีผู้เสียชีวิตถึง 10 ราย
ในเมืองซึ่งมีประชากรราว 60,000 คนที่ประดับประดาไปด้วยโคมไฟสีแดงและป้ายตัวอักษรภาษาจีนเพื่อเฉลิมฉลองวันตรุษจีนยังคงโบกสะบัดอยู่ตามท้องถนน ทว่ารอบๆ ห้องเต้นรำซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุกลับถูกล้อมรอบไปด้วยเทปสีเหลืองและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีอาวุธอยู่ในมือเข้ามาแทนที่บรรยากาศการเฉลิมฉลอง
“เรื่องอย่างนี้ไม่เคยเกิดขึ้นที่นี่” วินน์ เลียว ทหารผ่านศึกวัย 57 ปีที่อาศัยอยู่ในมอนเทอรีย์พาร์กมากว่า 4 ทศวรรษเผยกับ AFP เธอแทบจะไม่เชื่อว่าจะเกิดเหตุกราดยิงที่นั่นที่เธอผ่านทุกวันเพื่อออกไปซื้อข้าวของ
“ที่นี่เป็นย่านที่ปลอดภัยมากๆ ฉันสามารถเดินคนเดียวตอนกลางคืน ที่ที่ฉันไม่ต้องกังวลเรื่องความรุนแรงที่เกี่ยวกับการใช้อาวุธปืน” เลียวเผยกับ AFP ขณะที่เฮลิคอปเตอร์ของตำรวจกำลังบินอยู่เหนือศีรษะ
เมื่อคืนวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น มือปืนรายหนึ่งบุกเข้าไปในห้องเต้นรำและเปิดฉากกราดยิงจนมีผู้ชายเสียชีวิต 5 ราย ผู้หญิง 5 ราย และบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 10 ราย
การสังหารหมู่ ซึ่งเป็นเหตุกราดยิงที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในสหรัฐฯ นับตั้งแต่การสังหารหมู่ที่อูวาลเด ซึ่งมีเด็ก 19 คนและครู 2 คนถูกสังหารในโรงเรียนประถมในเท็กซัส ทำให้มอนเทอรีย์พาร์คต้องตกตะลึง
มอนเทอรีย์พาร์กซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองลอสแองเจลิสไปทางตะวันออกเพียงไม่กี่ไมล์ถูกขนานนามว่าเป็น ‘ไชน่าทาวน์แห่งใหม่’ ชาวเมืองที่นั่นอ่านหนังสือพิมพ์ภาษาจีนกลาง ป้ายของห้างร้านต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นภาษาจีน และชาวบ้านส่วนใหญ่ที่ AFP ได้พูดคุยด้วยไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษ
“พื้นที่นี้เป็นหนึ่งในย่านที่ปลอดภัยที่สุดในเขตลอสแองเจลิสเคาน์ตี” จอห์น แม็คคินนีย์ พนักงานอัยการท้องถิ่นประจำแคลิฟอร์เนียใต้เผย
ในเมืองซึ่งมีประชากรราว 60,000 คนที่ประดับประดาไปด้วยโคมไฟสีแดงและป้ายตัวอักษรภาษาจีนเพื่อเฉลิมฉลองวันตรุษจีนยังคงโบกสะบัดอยู่ตามท้องถนน ทว่ารอบๆ ห้องเต้นรำซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุกลับถูกล้อมรอบไปด้วยเทปสีเหลืองและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีอาวุธอยู่ในมือเข้ามาแทนที่บรรยากาศการเฉลิมฉลอง
“เรื่องอย่างนี้ไม่เคยเกิดขึ้นที่นี่” วินน์ เลียว ทหารผ่านศึกวัย 57 ปีที่อาศัยอยู่ในมอนเทอรีย์พาร์กมากว่า 4 ทศวรรษเผยกับ AFP เธอแทบจะไม่เชื่อว่าจะเกิดเหตุกราดยิงที่นั่นที่เธอผ่านทุกวันเพื่อออกไปซื้อข้าวของ
“ที่นี่เป็นย่านที่ปลอดภัยมากๆ ฉันสามารถเดินคนเดียวตอนกลางคืน ที่ที่ฉันไม่ต้องกังวลเรื่องความรุนแรงที่เกี่ยวกับการใช้อาวุธปืน” เลียวเผยกับ AFP ขณะที่เฮลิคอปเตอร์ของตำรวจกำลังบินอยู่เหนือศีรษะ
เมื่อคืนวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น มือปืนรายหนึ่งบุกเข้าไปในห้องเต้นรำและเปิดฉากกราดยิงจนมีผู้ชายเสียชีวิต 5 ราย ผู้หญิง 5 ราย และบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 10 ราย
การสังหารหมู่ ซึ่งเป็นเหตุกราดยิงที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในสหรัฐฯ นับตั้งแต่การสังหารหมู่ที่อูวาลเด ซึ่งมีเด็ก 19 คนและครู 2 คนถูกสังหารในโรงเรียนประถมในเท็กซัส ทำให้มอนเทอรีย์พาร์คต้องตกตะลึง
มอนเทอรีย์พาร์กซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองลอสแองเจลิสไปทางตะวันออกเพียงไม่กี่ไมล์ถูกขนานนามว่าเป็น ‘ไชน่าทาวน์แห่งใหม่’ ชาวเมืองที่นั่นอ่านหนังสือพิมพ์ภาษาจีนกลาง ป้ายของห้างร้านต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นภาษาจีน และชาวบ้านส่วนใหญ่ที่ AFP ได้พูดคุยด้วยไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษ
“พื้นที่นี้เป็นหนึ่งในย่านที่ปลอดภัยที่สุดในเขตลอสแองเจลิสเคาน์ตี” จอห์น แม็คคินนีย์ พนักงานอัยการท้องถิ่นประจำแคลิฟอร์เนียใต้เผย
ปืนเยอะมาก
“คุณไม่เห็นมันเกิดขึ้นที่นี่มากนัก” เคน นัม พนักงานไอทีวัย 38 ปีเผยกับ AFP และเล่าต่อว่า ในช่วง 20 ปีที่เขาอยู่ที่นั่น อาชญากรรมเดียวที่เขาเคยประสบคือ การขโมยเครื่องฟอกไอเสียจากรถของเขา “มันเศร้ามากๆ ประเทศนี้มันบ้าไปแล้ว เราพบเห็นการกราดยิงในหลายๆ เมืองและในรัฐอื่น แต่ตอนนี้มันมาถึงตัวเราแล้ว”เดวิด ควอน พนักงานรักษาความปลอดภัยที่เกิดในมาเลเซียเป็นอีกหนึ่งคนที่ตกตะลึงกับเหตุกราดยิงนี้ เขาเผยว่า “ผมมักจะเผชิญกับความรุนแรงแต่เป็นในพื้นที่อื่นของลอสแองเจลิส นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นมันเกิดขึ้นในชุมชนของตัวเอง”
ตลอดถนนที่ปิดล้อม ผู้คนในพื้นที่พยายามทำความเข้าใจถึงเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นฉับพลัน ในโทรศัพท์พวกเขาเห็นภาพศพนอนอยู่บนพื้นในห้องที่มีไฟสปอตไลต์หลากสี
ตอนแรกหลายคนกลัวว่าจะเป็นอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชัง แต่เชื้อสายเอเชียของผู้ต้องสงสัยที่เจ้าหน้าที่ยืนยันในตอนเช้า ทำให้เกิดความสงสัยในการตีความดังกล่าว
“ผมรู้สึกว่านี่เป็นเรื่องส่วนตัว” เจร์รี หลิว คนขับรถบรรทุกวัย 26 ปีเผย
1 วันก่อนเกิดเหตุผู้คนหลายพันคนมารวมตัวกันที่ตลาดหลักของย่านนี้ที่อยู่ระหว่างร้านขายเนื้อย่างเสียบไม้และบริเวณจัดงาน
“มันต้องเหตุผลที่เขาพุ่งเป้ามาที่ห้องเต้นรำ ไม่งั้นเขาน่าจะบุกเข้ามาที่งานก่อนหน้านี้แล้วตอนกลางวันและสังหารคนมากกว่านี้” หลิวเผย
ด้าน เชสเตอร์ จง ประธานหอการค้าจีนประจำลอสแองเจลิสเดามูลเหตุจูงใจว่า คนร้ายโกรธที่ตัวเองไม่ได้รับเชิญให้ร่วมปาร์ตีที่ภรรยาของเขาไปร่วมอย่างสนุกสนาน “ปัญหาคือ เรามีปืนมากมายเหลือเกินในประเทศนี้ มันง่ายมากๆ ที่จะหยิบปืนออกมาและทำอะไรโง่ๆ”