ทำไม ‘โซเลดาร์’ สวรรค์เหมืองเกลือ จึงกลายเป็นสังเวียนรบอันดุเดือดของรัสเซีย-ยูเครน?

12 ม.ค. 2566 - 09:45

  • โซเลดาร์อยู่ห่างจากเมืองใหญ่อย่าง ‘บัคมุต’ ไปทางตะวันอองเฉียงเหนือเพียงไม่กี่ไมล์ ทำให้เมืองเล็กๆ แห่งนี้กลายเป็นสมรภูมิรบที่ดุเดือดระหว่างรัสเซียและยูเครน

  • เมืองนี้ตกเป็นหนึ่งเป้าหมายของกองกำลังรัสเซียตั้งแต่ในเดือนพ.ค. ปีที่แล้ว ด้วยจำนวนประชากรราว 10,000 คน จึงทำให้มีคุณค่าทางยุทธศาสตร์น้อย

  • ทว่า โซเลดาร์เป็นเหมือนพื้นที่แสดงแสนยานุภาพของรัสเซียเลยก็ว่าได้ เพราะหากรัสเซียสามารถยึดพื้นที่ดังกล่าวนี้ได้ อย่างน้อยๆ รัสเซียก็สามารถเข้าใกล้เมืองอื่นๆ จากเส้นทางอื่นได้

Why-Russia-keen-to-capture-town-of-Soledar-SPACEBAR-Thumbnail
‘โซเลดาร์’ เมืองเหมืองเกลือ ที่มีความสำคัญทางการทหารน้อยมาก แต่กลับกลายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีให้ ‘รัสเซียและยูเครน’ กลับมาโจมตีกันอย่างดุเดือด 

โซเลดาร์อยู่ที่ไหน และมีอะไรอยู่ที่นั่น? 

เมืองโซเลดาร์ตั้งอยู่ใจกลางของภูมิภาคดอนบาสที่กว้างใหญ่ทางตะวันออกของยูเครน ซึ่งปัจจุบันหลายๆ พื้นที่ในภูมิภาคนี้ถูกยึดครองโดยรัสเซียมาตั้งแต่ฤดูร้อนปีที่แล้ว โดยรัสเซียเองก็ถือว่าพื้นที่ตรงนี้เป็นของตน และอ้าง (แบบผิดกฏหมาย) ว่าได้ผนวกแคว้นโดเนตสก์ทั้งหมดแล้วว ซึ่งมันรวมถึงอีก 40% ที่อยู่นอกการควบคุมของรัสเซียด้วย  
 
โซเลดาร์อยู่ห่างจากเมืองใหญ่อย่าง ‘บัคมุต’ ไปทางตะวันอองเฉียงเหนือเพียงไม่กี่ไมล์ ทำให้เมืองเล็กๆ แห่งนี้กลายเป็นสมรภูมิรบที่ดุเดือดระหว่างรัสเซียและยูเครน และเมืองนี้ตกเป็นหนึ่งเป้าหมายของกองกำลังรัสเซียตั้งแต่ในเดือน พ.ค. ปีที่แล้ว ด้วยจำนวนประชากรราว 10,000 คน จึงทำให้มีคุณค่าทางยุทธศาสตร์น้อย

ทว่าโซเลดาร์เป็นเหมือนพื้นที่แสดงแสนยานุภาพของรัสเซียเลยก็ว่าได้ เพราะหากรัสเซียสามารถยึดพื้นที่ดังกล่าวนี้ได้ อย่างน้อยๆ รัสเซียก็สามารถเข้าใกล้เมืองอื่นๆ จากเส้นทางอื่นได้ 

เมืองนี้มีชื่อที่แปลว่า ‘ของขวัญแห่งเกลือ’ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยส่งเกลือบริโภคให้แก่สหภาพโซเวียตมากถึง 40% 

พื้นที่รอบๆ ในเมืองโซเลดาร์มีเหมืองเกลือขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นธุรกิจรัฐวิสาหกิจของ Artemsil ผู้ผลิตเกลือรายใหญ่ที่สุดในยุโรป ซึ่งต้องหยุดการผลิตไปเมื่อเดือนก.พ.ปีที่แล้ว เนื่องจากการโจมตีของรัสเซีย ทั้งนี้ พื้นที่โดยรอบของเมืองยังเป็นแหล่งเกลือบริสุทธิ์จำนวนมาก ซึ่งถูกนำไปใช้ประโยชน์ในระดับอุตสาหกรรมเพียงแค่ในปี 1881 ตามเส้นทางมรดกอุตสาหกรรมแห่งยุโรป (European Route of Industrial Heritage) 

มีการคาดการณ์ว่า ชาวรัสเซีย และเยฟกินี ปริโกชิน ผู้นำกลุ่มทหารรับจ้าง Wagner จับตามองโซเลดาร์ เป็นพื้นที่สำหรับแร่ยิปซัม และใช้ทหาร Wagnerในแอฟริกาและซีเรียเป็นกองกำลังรับจ้างเพื่อใช้ประโยชน์ในการเข้าถึงทรัพยากรต่างๆ เช่น เพชร และน้ำมัน  

อย่างไรก็ดี การสู้รบยังคงดำเนินอยู่ในโซเลดาร์ แม้ว่ารัสเซียจะอ้างว่าคุมได้แล้วก็ตาม  
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/3RgbIzxhO159514M7Ggp3H/d034406ec19e337b5734efa6657e3b67/Why-Russia-keen-to-capture-town-of-Soledar-SPACEBAR-Photo01
Photo: Genya SAVILOV / AFP

เกิดอะไรขึ้นในโซเลดาร์?

มีรายงานที่ขัดแย้งกันจากทั้งฝ่ายยูเครนและรัสเซียเกี่ยวกับการยึดครองพื้นที่ในโซเลดาร์ เนื่องจากล่าสุดกองทัพยูเครนบอกกับ CNN ว่า กองทหารรัสเซียไม่ได้ควบคุมโซเลดาร์ 

เซอร์ไฮ เชเรวาตยี โฆษกของกลุ่มกองกำลังยูเครนตะวันออกกล่าวกับ CNN ว่า การสู้รบกำลังดำเนินอยู่ที่นั่น กองทัพยูเครนและกองกำลังป้องกันอื่นๆ กำลังจัดกลุ่มใหม่กันอยู่ 

เชเรวาตยีบอกเกี่ยวกับข้อมูลที่รัสเซียบอกว่าควบคุมโซเลดาร์ได้แล้วว่าเป็น ‘ปฏิบัติการทางข้อมูล’ พร้อมอธิบายเพิ่มเติมว่า ปริโกชินจัดฉากว่าควบคุมเหมืองเกลือได้ทั้งหมดแล้ว แต่จริงๆ ยูเครนกำลังส่งกระสุนและอาหารให้กับทหาร อีกทั้งสถานการ์ณมันก็ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของยูเครน 

ขณะที่นักวิจารณ์ของรัสเซียเอง อิกอร์ เกอร์กิน ของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย กล่าวว่า การยึดพื้นที่ศูนย์กลางและพื้นที่ส่วนใหญ่ของโซเลดาร์ โดยหน่วย Waner เป็นความสำเร็จทางยุทธวิธีที่ปฏิเสธไม่ได้้ และการต่อสู้นี้ยังไม่จบ 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/3UcMHnoYCixZTAL6YYb6aX/768a983c0791f02d5a5bf2f48b2691c8/Why-Russia-keen-to-capture-town-of-Soledar-SPACEBAR-Photo02
Photo: ANATOLII STEPANOV / AFP

โซเลดาร์สำคัญยังไง?

ความสำคัญของโซเลดาร์ในแง่ของการทหารนั้นมีน้อยมาก อย่างไรก็ตาม การยึดเมืองนี้จะทำให้กองกำลังรัสเซียได้แต้มต่อ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่ม Wagner  ที่จะหันเหความสนใจไปที่เมืองบัคมุตใหญ่ที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งเป็นเมืองที่รัสเซียปักหมุดให้เปนเป้าหมายมาตั้งแต่ฤดูร้อนปีที่แล้ว  

ยูเครนปกป้องภูมิภาคนี้อย่างไร? 

ปัจจุบันกองกำลังของยูเครนยังยึดครองบางส่วนในโซเลดาร์ แต่ในใจกลางของเมืองยังคงมีการสู้รบกันอย่างหนัก  

ขณะที่ยุทธวิธีของยูเครนอาจเป็นการเชื้อเชิญการโจมตีของทหารรัสเซียครั้งแล้วครั้งเล่า โดยรู้ว่ายูเครนสามารถสร้างความเสียหายอย่างหนักให้แก่ข้าศึก ซึ่งเป็นยุทธวิธีที่เคยใช้งานและประสบความสำเร็จในเมืองวูห์เลดาร์เมื่อปลายปีที่แล้ว ด้านกองพลที่ 46 ของยูเครนพาดพิงถึงยุทธวิธีนี้ในโพสต์ออนไลน์เมื่อวันอังคาร (10 ม.ค.) ที่ผ่านมาว่า สถานการณ์ยากลำบากมาก แต่ก็สามารถจัดการได้ เราเพียงแต่ละทิ้งสิ่งที่เราคิดว่าไม่สมควรจะรักษาไว้

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์