ประชาชนราว 30,000 ครัวเรือนได้รับคำสั่งให้อพยพในบริติชโคลัมเบียของแคนาดา ซึ่งเกิดสถานการณ์ไฟป่าเกือบ 400 จุด โดยจุดเกิดไฟป่าขนาดใหญ่ 2 แห่ง ในภูมิภาคชูสวาป (Shuswap) ลามมารวมกันในชั่วข้ามคืน ทำลายบ้านเรือนและอาคารอื่นๆ ไปทางทิศใต้ การเดินทางไปยังเมืองริมน้ำของเคโลว์นา (Kelowna) ถูกจำกัด และควันไฟจากไฟป่าในบริเวณใกล้เคียงลอยอยู่เหนือทะเลสาบโอคาเกน (Okanagan) ซึ่งเป็นเมืองใกล้เคียงที่มีประชากร 36,000 คน
ข้อจำกัดการเดินทางรอบเคโลว์นาได้รับการออกแบบมาเพื่อให้แน่ใจว่ามีที่พักเพียงพอสำหรับผู้อพยพและเจ้าหน้าที่ฉุกเฉิน นอกจากนี้ยังใช้กับเมืองต่างๆ ของแคมลูปส์ โอลิเวอร์ เพนทิกตัน และเวอร์นอน และโอซอยออส
ห่างออกไปทางเหนือหลายร้อยไมล์ ไฟขนาดใหญ่ยังคงลุกลามไปทางเมืองเยลโลว์ไนฟ์ ชาวเมืองราว 19,000 คนจากทั้งหมด 20,000 คนอพยพออกจากเมือง เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ผู้ป่วย 39 คนถูกย้ายออกจากโรงพยาบาลไปยังโรงพยาบาลอื่นในเย็นวันศุกร์ ทำให้พวกเขาเป็นคนสุดท้ายที่อพยพออกจากเมือง
แคนาดากำลังมีฤดูไฟป่าที่เลวร้ายที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีไฟป่าอย่างน้อย 1,000 จุดไหม้ทั่วประเทศ ตามรายงานของ Canadian Interagency Forest Fire Center (CIFFC) ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศเพิ่มความเสี่ยงของสภาพอากาศที่ร้อน และแห้งแล้งซึ่งมีแนวโน้มที่จะเป็นเชื้อเพลิงให้เกิดไฟป่า
ความร้อนสูงและยาวนานจะดึงความชื้นจากพื้นดินมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสามารถเป็นเชื้อเพลิงสำหรับไฟที่สามารถลุกลามด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีลมแรง แม้ว่าจะไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตในไฟป่าครั้งล่าสุด แต่นักผจญเพลิงอย่างน้อย 4 คนเสียชีวิตในช่วงฤดูทำลายสถิตินี้
ขณะที่สเปนก็ประสบกับไฟป่าครั้งใหญ่เช่นกัน ประชาชนกว่า 12,000 คนต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัยในเตเนริเฟ หลังไฟป่าลุกลามทั่วเกาะคานารีของสเปน ข้อมูลของตำรวจแสดงจำนวนการอพยพที่เพิ่มขึ้นจาก 4,500 รายที่รายงานเมื่อวันศุกร์ เมืองกว่า 11 แห่งได้รับผลกระทบจากไฟป่า เว้นแต่พื้นที่ท่องเที่ยวที่ยังไม่ได้รับผลกระทบ
รัฐบาลท้องถิ่นของสเปนระบุว่า แม้ว่าสภาพอากาศจะเลวร้ายลงซึ่งจะทำให้ปฏิบัติการดับเพลิงซับซ้อน ในขั้นต้นคาดว่าจะเกิดขึ้นในคืนวันอาทิตย์ แต่คืนนั้นเงียบสงบ และมีสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยมากกว่าที่คาดไว้
ข้อจำกัดการเดินทางรอบเคโลว์นาได้รับการออกแบบมาเพื่อให้แน่ใจว่ามีที่พักเพียงพอสำหรับผู้อพยพและเจ้าหน้าที่ฉุกเฉิน นอกจากนี้ยังใช้กับเมืองต่างๆ ของแคมลูปส์ โอลิเวอร์ เพนทิกตัน และเวอร์นอน และโอซอยออส
ห่างออกไปทางเหนือหลายร้อยไมล์ ไฟขนาดใหญ่ยังคงลุกลามไปทางเมืองเยลโลว์ไนฟ์ ชาวเมืองราว 19,000 คนจากทั้งหมด 20,000 คนอพยพออกจากเมือง เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ผู้ป่วย 39 คนถูกย้ายออกจากโรงพยาบาลไปยังโรงพยาบาลอื่นในเย็นวันศุกร์ ทำให้พวกเขาเป็นคนสุดท้ายที่อพยพออกจากเมือง
แคนาดากำลังมีฤดูไฟป่าที่เลวร้ายที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีไฟป่าอย่างน้อย 1,000 จุดไหม้ทั่วประเทศ ตามรายงานของ Canadian Interagency Forest Fire Center (CIFFC) ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศเพิ่มความเสี่ยงของสภาพอากาศที่ร้อน และแห้งแล้งซึ่งมีแนวโน้มที่จะเป็นเชื้อเพลิงให้เกิดไฟป่า
ความร้อนสูงและยาวนานจะดึงความชื้นจากพื้นดินมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสามารถเป็นเชื้อเพลิงสำหรับไฟที่สามารถลุกลามด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีลมแรง แม้ว่าจะไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตในไฟป่าครั้งล่าสุด แต่นักผจญเพลิงอย่างน้อย 4 คนเสียชีวิตในช่วงฤดูทำลายสถิตินี้
ขณะที่สเปนก็ประสบกับไฟป่าครั้งใหญ่เช่นกัน ประชาชนกว่า 12,000 คนต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัยในเตเนริเฟ หลังไฟป่าลุกลามทั่วเกาะคานารีของสเปน ข้อมูลของตำรวจแสดงจำนวนการอพยพที่เพิ่มขึ้นจาก 4,500 รายที่รายงานเมื่อวันศุกร์ เมืองกว่า 11 แห่งได้รับผลกระทบจากไฟป่า เว้นแต่พื้นที่ท่องเที่ยวที่ยังไม่ได้รับผลกระทบ
รัฐบาลท้องถิ่นของสเปนระบุว่า แม้ว่าสภาพอากาศจะเลวร้ายลงซึ่งจะทำให้ปฏิบัติการดับเพลิงซับซ้อน ในขั้นต้นคาดว่าจะเกิดขึ้นในคืนวันอาทิตย์ แต่คืนนั้นเงียบสงบ และมีสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยมากกว่าที่คาดไว้
