โลกอาจเผชิญ ‘ความร้อน’ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เมื่อ ‘เอลนีโญ’ กลับมาอีกครั้ง!

21 เมษายน 2566 - 04:27

World-could-face-temperatures-2023-El-Nino-return-SPACEBAR-Thumbnail
  • โลกอาจทำลายสถิติอุณหภูมิเฉลี่ยใหม่ในปี 2023 หรือในปี 2024 ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการกลับมาของปรากฏการณ์สภาพอากาศ ‘เอลนีโญ’ ตามที่นักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพอากาศคาดการณ์ไว้

โลกอาจทำลายสถิติอุณหภูมิเฉลี่ยใหม่ในปี 2023 หรือในปี 2024 ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการกลับมาของปรากฏการณ์สภาพอากาศ ‘เอลนีโญ’ ตามที่นักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพอากาศคาดการณ์ไว้ 

แบบจำลองภูมิอากาศชี้ให้เห็นว่าหลังจากเกิดปรากฏการณ์ลานีญาในมหาสมุทรแปซิฟิกเป็นเวลา 3 ปี ซึ่งโดยทั่วไปแล้วอุณหภูมิโลกจะลดต่ำลงเล็กน้อย โลกจะกลับคืนสู่ปรากฏการณ์เอลนีโญ ซึ่งเป็นสภาพอากาศที่ร้อนขึ้นอีกในปลายปีนี้  ในช่วงเอลนีโญ ลมที่พัดไปทางทิศตะวันตกตามแนวเส้นศูนย์สูตรจะพัดช้าลง และน้ำอุ่นจะถูกผลักไปทางตะวันออก ทำให้อุณหภูมิพื้นผิวมหาสมุทรอุ่นขึ้น 

คาร์โล บูออนเทมโป ผู้อำนวยการโคเปอร์นิคัสของสหภาพยุโรป (EU) กล่าวว่า เอลนีโญมักเกี่ยวข้องกับอุณหภูมิที่ทำลายสถิติในระดับโลก ซึ่งจะเกิดขึ้นในปี 2023 หรือ 2024 แม้ยังไม่ทราบแน่ชัด  

ขณะที่แบบจำลองสภาพภูมิอากาศบ่งชี้ว่าสภาวะเอลนีโญจะกลับคืนสู่ช่วงปลายฤดูร้อนทางเหนือ และมีความเป็นไปได้ที่เอลนีโญจะรุนแรงขึ้นในช่วงปลายปี  

ปีที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์จนถึงตอนนี้คือปี 2016 ซึ่งตรงกับปรากฏการณ์เอลนีโญที่รุนแรง แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศจะกระตุ้นให้อุณหภูมิสูงขึ้นในช่วงหลายปีที่ไม่มีปรากฏการณ์นี้ก็ตาม 

8 ปีที่ผ่านมาเป็น 8 ปีที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ของโลก ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มภาวะโลกร้อนในระยะยาวซึ่งได้แรงหนุนจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 

เฟร็ดเดอร์ริก อ็อตโต อาจารย์อาวุโสของสถาบัน Grantham Institute กล่าวว่า อุณหภูมิที่เกิดจากเอลนีโญอาจทำให้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเลวร้ายลงซึ่งส่งผลกระทบต่อประเทศต่างๆ ที่กำลังประสบอยู่ รวมถึงคลื่นความร้อนรุนแรง ภัยแล้ง และไฟป่า 

“หากเอลนีโญพัฒนา มีโอกาสดีที่ปี 2023 จะร้อนกว่าปี 2016 เมื่อพิจารณาว่าโลกยังคงร้อนขึ้น ขณะที่มนุษย์ยังคงเผาผลาญเชื้อเพลิงฟอสซิล” อ็อตโตกล่าว 

นักวิทยาศาสตร์ของโคเปอร์นิคัส เผยแพร่รายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ประเมินสภาพอากาศสุดขั้วที่โลกประสบเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นปีที่ร้อนที่สุดเป็นอันดับที่ 5 ในประวัติศาสตร์ 

ยุโรปประสบกับฤดูร้อนที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2022 ขณะที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้เกิดฝนตกหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ในปากีสถาน และในเดือนกุมภาพันธ์ ระดับน้ำแข็งในทะเลแอนตาร์กติกแตะระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ 

โคเปอร์นิคัสกล่าวว่า อุณหภูมิโลกโดยเฉลี่ยขณะนี้สูงกว่าในยุคก่อนอุตสาหกรรมถึง 1.2 องศาเซลเซียส 

แม้ว่าผู้ปล่อยก๊าซรายใหญ่ของโลกส่วนใหญ่จะให้คำมั่นว่าจะลดการปล่อยก๊าซสุทธิให้เหลือศูนย์ในที่สุด แต่การปล่อยก๊าซ CO2 ทั่วโลกในปีที่แล้วยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์