WHO เผย โควิด ‘XBB.1.5’ แรงเกินต้าน ยกเป็นสายพันธุ์ที่ติดต่อง่ายที่สุดตั้งแต่มีมา!

5 ม.ค. 2566 - 06:16

  • เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทั่วโลกกังวลว่าไวรัสสายพันธุ์นี้จะแพร่กระจายอย่างรวดเร็วเพียงใดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ จำนวนผู้ติดเชื้อ XBB.1.5 เพิ่มขึ้น 2 เท่าในสหรัฐฯ ทุกๆ สองสัปดาห์ ทำให้มันกลายเป็นสายพันธุ์ที่พบมากที่สุดในประเทศ

  • องค์การอนามัยโลกยังไม่มีข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับความรุนแรงของ XBB.1.5 แต่ไม่มีข้อบ่งชี้ใดๆ ในขณะนี้ว่ามันทำให้คนป่วยมากกว่าเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ก่อนหน้า

  • ในขณะที่ XBB.1.5 กำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในสหรัฐฯ จีนก็กำลังต่อสู้กับจำนวนผู้ติดเชื้อและการรักษาตัวในโรงพยาบาลที่เพิ่มขึ้น หลังจากละทิ้งนโยบายปลอดโควิดเพื่อตอบสนองต่อเหตุการณ์ความไม่สงบเมื่อปลายปีที่แล้ว

XBB-1-5-omicron-subvariant-the-most-transmissible-version-of-Covid-SPACEBAR-Thumbnail
องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า เชื้อโคโรนาไวรัส (โควิด-19) สายพันธุ์โอมิครอน สายพันธุ์ย่อย XBB.1.5 ที่กำลังแพร่ระบาดหนักอยู่ในสหรัฐฯ ขณะนี้ เป็นสายพันธุ์ที่แพร่กระจายและติดต่อกันได้มากที่สุดของโควิด-19 แม้ว่าจะไม่ได้ทำให้ผู้ป่วยมีอาการหนักก็ตาม

มาเรีย แวน เคอร์โคฟ หัวหน้าฝ่ายเทคนิคโควิด-19 ของ WHO กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทั่วโลกกังวลว่าไวรัสสายพันธุ์นี้จะแพร่กระจายอย่างรวดเร็วเพียงใดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ จำนวนผู้ติดเชื้อ XBB.1.5 เพิ่มขึ้น 2 เท่าในสหรัฐฯ ทุกๆ สองสัปดาห์ ทำให้มันกลายเป็นสายพันธุ์ที่พบมากที่สุดในประเทศ 

แวน เคอร์โคฟ กล่าวว่า มันเป็นสายพันธุ์ย่อยที่แพร่เชื้อได้มากที่สุดที่ตรวจพบ ซึ่งการกลายพันธ์ุของโอมิครอนทำให้เชื้อตัวนี้สามารถยึดติดกับเซลล์และเกิดการติกเชื้อซ้ำได้ง่าย จนถึงขณะนี้มีการตรวจพบใน 29 ประเทศ แต่ในความเป็นจริงเชื้ออาจแพร่กระจายไปมากกว่านี้ และการติดตามสายพันธุ์ของโควิดกลายเป็นเรื่องยากเนื่องจากการเรียงลำดับจีโนมทั่วโลกลดลง  

แวน เคอร์โคฟ กล่าวต่อไปว่า องค์การอนามัยโลกยังไม่มีข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับความรุนแรงของ XBB.1.5 แต่ไม่มีข้อบ่งชี้ใดๆ ในขณะนี้ว่ามันทำให้คนป่วยมากกว่าเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ก่อนหน้า และกลุ่มที่ปรึกษาของ WHO ที่ติดตามสายพันธุ์ของโควิดกำลังดำเนินการประเมินความเสี่ยงของ XBB.1.5 ซึ่งจะเผยแพร่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า 

“ยิ่งไวรัสนี้แพร่ระบาดมากเท่าไหร่ โอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น เราคาดว่าคลื่นของการติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นทั่วโลก แต่นั่นไม่จำเป็นว่าจะต้องมีระลอกของการเสียชีวิตแต่อย่างใด เพราะมาตรการรับมือของเราจะยังคงดำเนินต่อไป” แวน เคอร์โคฟกล่าว 

นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า XBB.1.5 สามารถหลบเลี่ยงแอนติบอดีจากวัคซีนและการติดเชื้อได้ดีพอๆ กับ XBB และ XBB.1 ซึ่งเป็น 2 สายพันธุ์ย่อย แต่ XBB.1.5 มีการกลายพันธุ์ที่ทำให้มันจับกับเซลล์แน่นขึ้น ซึ่งทำให้ได้เปรียบในการแพร่กระจาย 

ในขณะที่ XBB.1.5 แพร่กระจายอย่างรวดเร็วในสหรัฐฯ จีนก็กำลังต่อสู้กับจำนวนผู้ติดเชื้อและการรักษาตัวในโรงพยาบาลที่เพิ่มขึ้น หลังจากละทิ้งนโยบายปลอดโควิดหลังเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบเมื่อปลายปีที่แล้ว เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของสหรัฐฯ และทั่วโลกกล่าวว่า จีนไม่ได้แบ่งปันข้อมูลที่เพียงพอเกี่ยวกับคลื่นการระบาดดังกล่าวกับประชาคมระหว่างประเทศ 

เทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ของ WHO กล่าวว่า เรายังคงขอให้จีน ให้ข้อมูลการรักษาในโรงพยาบาลและการเสียชีวิตอย่างสม่ำเสมอและรวดเร็วมากขึ้น รวมทั้งการจัดลำดับของไวรัสตามเวลาจริงที่ครอบคลุมมากขึ้น 

ประเทศจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงสหรัฐฯ กำหนดให้ผู้โดยสารสายการบินจากจีนตรวจหาเชื้อโควิดก่อนขึ้นเครื่อง ขณะที่กระทรวงต่างประเทศของจีนกล่าวว่า มาตรการดังกล่าวขาดพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และกล่าวหาว่ารัฐบาลจัดการกับโควิดเพื่อจุดประสงค์ทางการเมือง แต่ผู้อำนวยการใหญ่ของ WHO กล่าวว่าข้อกำหนดดังกล่าวสามารถเข้าใจได้ เนื่องจากข้อมูลที่ออกมาจากจีนมีจำกัด 

“ด้วยการไหลเวียนของข้อมูลในจีนที่สูงและมีข้อมูลไม่ครบถ้วน เป็นที่เข้าใจได้ว่าบางประเทศกำลังดำเนินการตามขั้นตอนที่พวกเขาเชื่อว่าจะปกป้องพลเมืองของตนเองได้” เทดรอสกล่าว

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งปักกิ่งแบ่งปันข้อมูลกับ WHO ซึ่งระบุสายพันธุ์ย่อยของ BA.5, BA.5.2 และ BF.7 ซึ่งคิดเป็นประมาณ 98% ของการติดเชื้อทั้งหมดในประเทศ แต่แวน เคอร์โคฟกล่าวว่า จีนไม่ได้แบ่งปันข้อมูลการจัดลำดับพันธุกรรมไวรัสที่เพียงพอจากทั่วประเทศ 

แวน เคอร์โคฟ กล่าวว่า มันไม่ใช่แค่เรื่องของการรู้ว่าสายพันธุ์ใดกำลังแพร่ระบาดอยู่ เราต้องการให้ประชาคมโลกประเมินสิ่งเหล่านี้ ไม่ใช่แค่ดูการกลายพันธุ์เพื่อพิจารณาว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสายพันธุ์ใหม่ที่แพร่ระบาดในจีน แต่มันรวมถึงทั่วโลกด้วย 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์