ถึงกับอึ้ง! รถตู้ฟ็อลคส์วาเกินรุ่นเก่ารอดไฟป่าลอสแอนเจลิสอย่างน่าอัศจรรย์

ในขณะที่รถยนต์บางคันในลอสแอนเจลิสต่างพังยับเยินถูกปกคลุมไปด้วยขี้เถ้าและเขม่า แต่รถตู้ฟ็อลคส์วาเกินสีน้ำเงินย้อนยุคคันหนึ่งกลับรอดจากไฟป่าไปได้อย่างน่าอัศจรรย์ 

รถคันนี้จอดอยู่ในมาลิบูตั้งตระหง่านท่ามกลางซากปรักหักพัง โดยได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แม้แต่เจ้าของรถก็ยังตกตะลึงที่เห็นภาพรถตัวเองจอดอยู่ “ฉันไม่อาจเชื่อได้เลยว่า…รถตู้ของฉันเป็นสิ่งเดียวที่ยังคงอยู่บนถนนที่ฉันเดินผ่านกับสุนัขของฉันทุกวัน...ฉันพูดไม่ออกเมื่อเห็นบ้านเรือนทั้งหมดถูกเผา และฉันไม่เชื่อเลยว่ารถตู้ที่ฉันตั้งชื่อว่า ‘อาซูล’ จะรอดมาได้” เมแกน คริสตัล ไวน์เราบ์ วัย 29 ปี บอก 

ไม่เพียงเท่านั้นรูปภาพรถตู้สีสันสดใสยังถูกเผยแพร่ทางโทรทัศน์ และโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง สร้างความดีใจให้กับผู้พบเห็น 

“รถตู้คันนั้นเต็มไปด้วยเวทมนตร์ ไม่มีเหตุผลเลยว่าทำไมเรื่องนี้ถึงเกิดขึ้น มันควรจะถูกเผา แต่รถผมก็รอดมาได้” เพรสตัน มาร์ติน (เจ้าของรถตู้คนเก่า) วัย 24 ปี สัมภาษณ์กับสำนักข่าว AP เมื่อวันอังคาร (14 ม.ค.) 

มาร์ตินซื้อรถตู้ฟ็อลคส์วาเกิน Type 2 (ปี 1977) โดยบังเอิญเมื่อตอนที่เขาเรียนปี 3 สาขาวิศวกรรมเครื่องกลที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย แต่เมื่อฤดูร้อนที่แล้ว เขาขายรถตู้ให้กับไวน์เราบ์ (เจ้าของรถคนใหม่) ซึ่งเป็นคนรู้จักกัน 

เมื่อวันที่ 5 มกราคม ทั้งมาร์ติน และไวน์เราบ์ รวมถึงเพื่อนๆ ขับรถตู้ไปเล่นเซิร์ฟ โดยมาร์ตินได้จอดรถตู้ไว้บนพื้นที่ราบบนเนินเขาจากอพาร์ตเมนต์ของไวน์เราบ์ที่ติดกับศูนย์การศึกษาและพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ‘Getty Villa’ ทว่า 2 วันต่อมาก็เกิดเหตุไฟป่ารุนแรงโดยเฉพาะในเขตพาลิเซดส์ ไวน์เราบ์อพยพไปพร้อมกับโบดี สุนัขของเธอ และทิ้งรถตู้ไว้

หลังจากไฟเริ่มดับลงในบางจุด เมื่อวันพฤหัสบดี (16 ม.ค.) เพื่อนบ้านก็ถ่ายส่งรูปรถตู้ส่งมาให้เธอ “ฉันตกใจมาก ฉันอยู่ในห้องน้ำแล้วฉันก็กรี๊ดออกมา” ไวน์เราบ์ เล่า จากนั้นเธอก็โทรหามาร์ตินซึ่งเขาก็ตกใจมากเช่นกัน 

“มันเจ๋งมากที่อาซูล (รถตู้) กลายเป็นเหมือนประภาคารแห่งความหวัง ทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆ รถตู้ไหม้เกรียม พังทลายไปหมด แต่รถตู้สีฟ้าสดใสคันนี้ยังจอดอยู่ตรงนั้น” มาร์ติน กล่าว 

สำหรับสถานการณ์ไฟป่าโดยเฉพาะเขตพาลิเซดส์ซึ่งเป็นเขตไฟป่าขนาดใหญ่ที่สุดยังคงควบคุมได้เพียง 21% โดยเผาผลาญพื้นที่ไปแล้ว 23,713 เอเคอร์ (ราว 95 ล้านตารางเมตร) ส่วนเขตไฟป่าอีตันควบคุมได้เพียง 45% ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 25 ราย และอาคารบ้านเรือนกว่า 12,000 หลังถูกไฟเผาทำลาย ขณะเดียวกันก็มีแจ้งเตือนความเสี่ยงที่ลมจะพัดกระโชกแรงอีกครั้งราว 113 กม./ชม.