สายการบินหลายแห่งกำลังเพิ่มข้อจำกัด และออกคำสั่ง ‘ห้ามใช้เครื่องชาร์จพาวเวอร์แบงค์พกพาบนเครื่องบิน’ หลังจากเกิดเหตุไฟไหม้เครื่องบินจนทำให้ต้องอพยพผู้โดยสารฉุกเฉิน
เครื่องบินของแอร์ปูซานเกิดเพลิงไหม้เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งพบว่ามีเปลวไฟพุ่งออกมาจากช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะของผู้โดยสาร เป็นเหตุให้ลูกเรืออพยพผู้โดยสารออกจากเครื่องบิน โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่เครื่องบินได้รับความเสียหายอย่างหนักจากเหตุการณ์ดังกล่าว
การสอบสวนพบว่า ‘พาวเวอร์แบงค์’ เป็นสาเหตุของเพลิงไหม้ นับจากนั้น สายการบินแอร์ปูซานก็ห้ามผู้โดยสารนำพาวเวอร์แบงค์ขึ้นเครื่องบิน
นอกจากนี้ สายการบินอีวีเอแอร์ของไต้หวัน และไชนาแอร์ไลน์ของไต้หวัน ยังได้ออกข้อจำกัดเกี่ยวกับพาวเวอร์แบงค์ด้วย โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมเป็นต้นไป “ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2025 เป็นต้นไป เพื่อความปลอดภัยของเที่ยวบิน ทางสายการบินจะห้ามใช้ และชาร์จพาวเวอร์แบงค์ รวมถึงแบตเตอรี่ลิเธียมสำรองตลอดเที่ยวบิน...ผู้โดยสารจะต้องเก็บแบตเตอรี่ไว้ในสัมภาระถือขึ้นเครื่องและจัดเก็บอย่างเหมาะสมโดยไม่อนุญาตให้จัดเก็บในสัมภาระที่โหลดใต้เครื่อง” แถลงการณ์ของสายการบินอีวีเอแอร์ ระบุ
มาตรการด้านความปลอดภัยที่ปรับปรุงใหม่ของสายการบินอีวีเอแอร์เกิดขึ้นหลังจากที่สายการบินแอร์ปูซานของเกาหลีใต้ออกมาตรการห้ามที่คล้ายกันเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ มาตรการห้ามดังกล่าวเป็นหนึ่งในมาตรการด้านความปลอดภัยที่เข้มงวดยิ่งขึ้นเพื่อรับมือกับเหตุเพลิงไหม้บนเครื่องบินของแอร์ปูซานเมื่อเดือนมกราคม
ขณะที่สายการบินไชนาแอร์ไลน์ออกมาตรการให้ผู้โดยสารหลีกเลี่ยงการชาร์จพาวเวอร์แบงค์บนเครื่องบิน และไม่อนุญาตให้เก็บพาวเวอร์แบงค์ลงในสัมภาระที่โหลดใต้เครื่องด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย
ส่วนสายการบินของออสเตรเลียก็มีกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดเกี่ยวกับพาวเวอร์แบงค์และแบตเตอรี่สำรอง โดยทางสายการบินเวอร์จินออสเตรเลียระบุว่า “แบตเตอรี่สำรอง พาวเวอร์แบงค์ รวมถึงกระเป๋าเงิน จะต้องเก็บไว้ในสัมภาระถือขึ้นเครื่องเท่านั้น และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร ควรเก็บแบตใส่ไว้ในบรรจุภัณฑ์ ใส่แบตเตอรี่แต่ละก้อนในถุงพลาสติกแยกกัน หรือถุงกันกระแทก และใช้เทปติดขั้วแบตเตอรี่ที่เปิดออกเพื่อหุ้มฉนวน”

สายการบินที่ ‘ห้ามใช้พาวเวอร์แบงค์บนเครื่องบินเต็มรูปแบบ’
- อีวีเอแอร์ (ไต้หวัน) : ห้ามใช้และชาร์จพาวเวอร์แบงค์ รวมถึงแบตเตอรี่ลิเธียมสำรองตลอดเที่ยวบิน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2025
- สายการบินเกาหลีใต้ (นโยบายทั่วไป) : ผู้โดยสารไม่สามารถใช้ หรือชาร์จแบตสำรองระหว่างเที่ยวบินได้ นอกจากนี้ยังห้ามนำแบตสำรองและบุหรี่ไฟฟ้าขึ้นเครื่อง ผู้โดยสารต้องพกติดตัวไว้ หรือเก็บไว้ในที่ที่มองเห็นได้ (เช่น ช่องเก็บของที่เบาะนั่ง) อนุญาตให้ใช้พาวเวอร์แบงค์ได้สูงสุด 5 ก้อน (ก้อนละไม่เกิน 100 วัตต์ชั่วโมง) โดยไม่จำเป็นต้องได้รับอนุญาต ส่วนแบตสำรองขนาด 100–160 วัตต์ชั่วโมงต้องได้รับอนุญาตจากสายการบิน พอร์ตต่างๆ ต้องหุ้มฉนวนหรือเก็บไว้ในถุงป้องกัน
- สายการบินสตาร์ลักซ์แอร์ไลน์ (ไต้หวัน) : ห้ามใช้พาวเวอร์แบงค์บนเครื่องบินตั้งแต่เปิดตัวในปี 2018 ผู้โดยสารสามารถนำพาวเวอร์แบงค์ขึ้นเครื่องได้ แต่ไม่สามารถใช้หรือชาร์จระหว่างบินได้
- สายการบินไทเกอร์แอร์ (ไต้หวัน) : ห้ามชาร์จพาวเวอร์แบงค์บนเครื่องบิน
- สายการบินเวอร์จินออสเตรเลีย : แบตเตอรี่สำรอง พาวเวอร์แบงค์ รวมถึงกระเป๋าเงิน จะต้องเก็บไว้ในสัมภาระถือขึ้นเครื่องเท่านั้น
- สายการบินไรอันแอร์ (ไอร์แลนด์) : ไม่อนุญาตให้เก็บพาวเวอร์แบงค์ไว้ในสัมภาระที่โหลดใต้เครื่อง เนื่องจากมีความเสี่ยงที่อาจเกิดเพลิงไหม้ได้
สายการบินที่มีข้อจำกัด (ไม่ได้ห้ามเต็มรูปแบบ)
- สายการบินไชนาแอร์ไลน์ (ไต้หวัน) : สายการบินแนะนำให้ผู้โดยสารหลีกเลี่ยงการใช้แบตเตอรี่สำรองระหว่างเที่ยวบิน แต่ไม่ได้บังคับใช้กฎเกณฑ์ที่เข้มงวด ผู้โดยสารต้องเก็บพาวเวอร์แบงค์ไว้ในสัมภาระถือขึ้นเครื่อง ห้ามโหลดใต้เครื่อง
- สายการบินควอนตัส (ออสเตรเลีย) : ต้องเก็บพาวเวอร์แบงค์ที่ไม่ใช่แบตเตอรี่ลิเธียมสำรอง ไว้ในกระเป๋า และต้องถือขึ้นเครื่อง