หลังจากปราศจากความรุนแรงทางการเมืองที่มุ่งเป้าไปที่ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคการเมืองใหญ่พรรคใดพรรคหนึ่งมาหลายทศวรรษ ขณะนี้สหรัฐฯ ต้องเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ถึงสองครั้งสองคราในระยะเวลาเพียง 2 เดือนเท่านั้น โดยมีอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ตกเป็นเป้าทั้งสองครั้ง
เมื่อกลางเดือนกรกฎาคม ทรัมป์รอดจากการถูกยิงศีรษะอย่างเฉียดฉิวระหว่างปราศรัยหาเสียงที่เมืองบัตเลอร์ ในรัฐเพนซิลเวเนีย ครั้งนั้นมือปืนวัย 20 ปีถูกสไนเปอร์ยิงเสียชีวิตในที่ก่อเหตุ
สองเดือนต่อมา ช่วงบ่ายของวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น (15 ก.ย.) ทรัมป์ตกเป็นเป้าของการพยายามลอบสังหารอีกครั้ง ขณะกำลังออกรอบตีกอล์ฟที่สนามกอล์ฟ Trump International Golf Course ในเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา กับสตีฟ วิตคอฟฟ์ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นผู้บริจาคสนับสนุนพรรครีพับลิกันรายใหญ่
การลอบสังหารทรัมป์ครั้งก่อน เจ้าหน้าที่ Secret Service ต้องรับผิดชอบไปเต็มๆ ในเรื่องของ ประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ ทำให้ คิมเบอร์ลี ชีทเทิล ผู้อำนวยการต้องรับผิดชอบด้วยการลาออก
แต่เหตุการณ์ที่ฟลอริดานี้ เจ้าหน้าที่ Secret Service รายหนึ่งที่รับหน้าที่เคลียร์พื้นที่ด้วยการทำทีเป็นคนเล่นกอล์ฟล่วงหน้ากลุ่มของทรัมป์ไปหนึ่งหรือสองหลุมสังเกตเห็นลำกล้องปืนของคนร้ายที่โผล่ขึ้นมาก่อน จึงลงมือยิงไปที่คนร้าย 4-6 นัด
เมื่อถูกยิงคนร้ายจึงทิ้งปืนไรเฟิล AK-47 รวมทั้งกล้องส่องทางไกล กระเป๋าสัมภาระ 2 ใบ และกล้องโกโปรไว้ในที่ก่อเหตุ แล้วขึ้นรถที่จอดทิ้งไว้หนีไป แต่บังเอิญพลเมืองดีเห็นตอนที่คนร้ายกำลังหนีจึงถ่ายรูปทะเบียนรถไว้ ภายในมีกี่นาทีเจ้าหน้าที่ก็ตามตัวคนรายได้
สำนักข่าว BBC ระบุว่า คนอเมริกันต้องปรับตัวเข้ากับ “ความปกติใหม่” (new normal) ในทางการเมือง ทั้งเล็กและใหญ่ เป็นประจำในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา วาทกรรมต่างๆ เริ่มมีความรุนแรง การแบ่งฝักแบ่งฝ่ายรุนแรง และมาตรฐานพฤติกรรมของผู้สมัครชิงตำแหน่งก็เสื่อมถอย
และเมื่อพิจารณาจากเหตุความรุนแรงเกี่ยวกับอาวุธปืนของสหรัฐฯ แล้ว การลงมือเช่นนี้อาจกลายเป็น “ความปกติใหม่” ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่สำหรับตอนนี้เรื่องนี้ยังสร้างความช็อกให้ผู้คนอยู่
หลังความพยายามลอบสังหารทรัมป์ที่ฟลอริดา กมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีและผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตกล่าวว่า “ไม่มีที่สำหรับความรุนแรงในอเมริกา” ถึงอย่างนั้นก็ดูเหมือนว่าความรุนแรงแบบนี้กำลังกลายเป็นส่วนหนึ่งของอเมริกาในปัจจุบัน
คำถามที่ตามมาตัวโตๆ คือ ทรัมป์มีโอกาสตกเป็นเป้าได้มากน้อยแค่ไหน แม้ว่าจะเพิ่มการรักษาความปลอดภัยหลังเหตุลอบสังหารครั้งแรกที่เพนซิลเวเนียแล้วก็ตาม และการที่บุคคลที่มีอาวุธหนักจะเข้าไปในสนามกอล์ฟแล้วซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้เป็นเรื่องง่ายเพียงนั้นเชียวหรือ
หากทรัมป์ยังเป็นประธานาธิบดี เจ้าหน้าที่ Secret Service จะไม่มีทางอนุญาตให้เจ้าตัวได้ออกรอบตีกอล์ฟในพื้นที่เปิดซึ่งยากต่อการรักษาความปลอดภัยแบบนั้นเด็ดขาด
แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับประเทศที่เคยผ่านความเจ็บปวดจากการลอบสังหารบุคคลสำคัญทางการเมืองอย่างสหรัฐฯ ที่อดีตประธานาธิบดีตกเป็นเป้าถึงสองครั้งในวลาไล่เลี่ยกัน
โฆษกหน่วย Secret Service สรุปเหตุการณ์พยายามลอบสังหารทรัมป์ในฟลอริดาระหว่างแถลงข่าวไว้สั้นๆ ว่า “เราอยู่ในช่วงเวลาอันตราย”
Photo by Patrick T. Fallon / AFP