กลุ่มสิทธิมนุษยชน แอมเนสตี้ กล่าวหากัมพูชาว่าละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ด้วยการขับไล่ครอบครัว 10,000 ครอบครัวออกจากบริเวณรอบๆ นครวัด
ปีที่ผ่านมากัมพูชาย้ายครอบครัวที่อาศัยอยู่ในพื้นที่มรดกโลกขององค์การยูเนสโกไปยังชุมชนใหม่ที่สร้างขึ้นบนพื้นที่ที่เคยเป็นทุ่งนาซึ่งอยู่ห่างออกไปจากพื้นที่ดังกล่าวราว 25 กิโลเมตร
เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า ครอบครัวต่างๆ กำลังเคลื่อนย้ายโดยสมัครใจ แต่ในรายงานที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร (14 พ.ย.) ที่ผ่านมา องค์การแอมเนสตี้ ระบุว่า หลายคนประสบกับภัยคุกคามโดยตรง และเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
“พวกเขาต้องยุติการบังคับขับไล่ผู้คนและการละเมิดกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศโดยทันที” มงต์เซ เฟอร์เรอร์ จากแอมเนสตี้กล่าว
เพ็น โบนา โฆษกรัฐบาลกัมพูชา ระบุว่า รายงานดังกล่าว ‘ไม่ถูกต้อง’ โดยยืนยันว่า การย้ายถิ่นฐานของชาวบ้านเป็นการดำเนินการบนพื้นฐานความสมัครใจ และสอดคล้องกับกฎเกณฑ์ของยูเนสโก
ด้าน ยูเนสโก (UNESCO) ระบุว่า รายงานดังกล่าวเป็นข้อที่น่ากังวลอย่างยิ่ง ซึ่งมีขึ้นก่อนการประชุมระหว่างรัฐบาล ที่จัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ขององค์กรวัฒนธรรมในกรุงปารีส
นครวัดที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของกัมพูชา และดึงดูดชาวต่างชาติมากกว่า 2 ล้านคนต่อปี ก่อนเกิดโรคระบาด
นักท่องเที่ยวเหล่านี้ก่อให้เกิดเศรษฐกิจระดับจุลภาคซึ่งประกอบด้วยร้านขายอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และประชากรในท้องถิ่นก็เพิ่มขึ้นจากประมาณ 20,000 คนในช่วงต้นทศวรรษ 1990 เป็นประมาณ 120,000 คนภายในปี 2013
ทางการกัมพูชา ระบุว่า พวกเขากำลังดำเนินการเพื่อปกป้องซากปรักหักพังด้วยการเคลื่อนย้ายผู้บุกรุกที่มีการตั้งถิ่นฐานอย่างไม่เป็นทางการซึ่งทำลายสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นด้วยการผลิตขยะและการใช้ทรัพยากรน้ำมากเกินไป
ข้อกังวลของยูเนสโก
รายงานของแอมเนสตี้เรียกร้องให้ยูเนสโกประณามการกระทำของรัฐบาลกัมพูชา และเตือนว่าสถานการณ์จะบานปลายต่อไปหากไม่ทำเช่นนั้น
แอมเนสตี้กล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานอัปสราแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลอุทยานโบราณคดี และกระทรวงที่ดิน กำลังใช้ยูเนสโกเพื่อชี้แจงเหตุผลในการย้ายที่ตั้ง
ผู้อยู่อาศัยรายหนึ่งกล่าวว่า ทางการกัมพูชาบอกเธออย่างชัดเจนว่า ‘ยูเนสโกต้องการให้คุณออกไป’ ไม่เช่นนั้นจะสูญเสียสถานะมรดกโลกของสถานที่นี้
AFP รายงานว่า มีชาวบ้านอย่างน้อย 7 คน ที่อาศัยอยู่รอบๆ นครวัด ถูกหน่วยงานอัปสราฟ้องร้องในข้อหายุยงและขัดขวางการทำงานสาธารณะ
คดีดังกล่าว เป็นการฟ้องร้องหลังจากที่มีชาวบ้านหลายร้อยคนประท้วงต่อต้านเจ้าหน้าที่อัปสราเมื่อเดือนสิงหาคม ที่จะรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่ถูกกล่าวหาว่าผิดกฎหมาย
“ยูเนสโกมีความกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับโครงการย้ายประชากรในนครวัดที่ดำเนินการโดยทางการกัมพูชา” หน่วยงานของสหประชาชาติ ระบุในถ้อยแถลงพร้อมเสริมว่า ไม่เคยร้องขอ หรือสนับสนุน หรือไม่ได้เป็นภาคีของโครงการนี้
ยูเนสโกเรียกร้องให้กัมพูชาใช้มาตรการแก้ไข และตอบสนองต่อข้อกล่าวหาของแอมเนสตีในรายงานฉบับต่อไปเกี่ยวกับนครวัด ด้าน เพ็น โบนา โฆษกรัฐบาลกล่าวว่า รัฐบาลกำลังปฏิบัติตามกฎของยูเนสโก
“กัมพูชาต้องเคารพเงื่อนไขที่กำหนดโดยยูเนสโก” เขากล่าวกับเอเอฟพี และเสริมว่าเงื่อนไขดังกล่าวกำหนดให้ต้องไม่มีสิ่งปลูกสร้าง การก่อสร้าง หรือผู้คนอาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว
Photo by TANG CHHIN SOTHY / AFP