นักวิเคราะห์เตือนว่า การปรับขึ้นภาษีครั้งล่าสุดของ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่พุ่งเป้าไปที่จีน อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นกับปักกิ่ง ซึ่งอาจต้องดิ้นรนเพื่อปกป้องเศรษฐกิจที่ย่ำแย่อยู่แล้ว
ประธานาธิบดีทรัมป์ซึ่งคาดเดาไม่ค่อยได้กล่าวโจมตีคู้ค่ารายสำคัญของสหรัฐฯ ระหว่างช่วงหาเสียงเลือกตั้ง โดยประกาศว่าจะใช้มาตรการรุนแรงกับจีนหากได้รับเลือก
หลังเข้ารับตำแหน่งได้ 6 สัปดาห์ อัตราภาษีครั้งใหม่ซึ่งทรัมป์บอกว่าเป็นการตอบโต้ที่ปักกิ่งล้มเหลวในการหยุดยั้งวิกฤตเฟนทานิลในสหรัฐฯ ก็แซงหน้าอัตราภาษีในสมัยรัฐบาลทรัมป์ 1.0 ไปเรียบร้อยแล้ว
ถิ่งลู่ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จีนจาก Nomura เผยกับสำนักข่าว AFP ว่า “(นี่คือ) ความเคลื่อนไหวที่เรามองว่าเป็นการส่งสัญญาณถึงจุดยืนที่ก้าวร้าว”
ความเคลื่อนไหวเมื่อวันอังคาร (4 มี.ค.) เป็นการเพิ่มภาษีจากเดือนที่แล้วอีก 10% ทำให้สหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 33% จากการประเมินของ Nomura
“การขึ้นภาษีที่ทรัมป์ดำเนินการกับจีนเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าของการปรับขึ้นภาษีตลอดสมัยแรกของเขา”
— ถิ่งลู่ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จีนจาก Nomura
บรรดาผู้นำในจีนซึ่งเป็นมหาอำนาจด้านการส่งออกที่ไม่สามารถฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหลังการระบาดของโควิด-19 กำลังจับตามองสงครามการค้าที่เกิดขึ้นใหม่กับสหรัฐฯ ภายใต้การนำของทรัมป์อย่างประหม่า
หวงจื่อฉุน จาก Capital Economics เผยว่า การเติบโตในไตรมาสแรกของปีเสี่ยงชะลอตัว “และนั่นคือช่วงก่อนที่ผลกระทบจากภาษีจะเกิดขึ้นอย่างจริงจัง เป็นเรื่องยากที่จะหลีกเลี่ยงการชะลอตัวในปีนี้ นอกเสียจากผู้นำจะเปิดเผยมาตรการกระตุ้นที่เกินความคาดหมายในสภาประชาชนแห่งชาติ”
เพียงสองสามสัปดาห์แรกที่รับตำแหน่ง ทรัมป์ก็ขึ้นภาษีแคนาดาและเม็กซิโกสูงถึง 25% และกระสุนนัดแรกที่ทรัมป์ยิงใส่จีนด้วยการเก็บภาษีจีน 10% 2 รายการก็ต่ำกว่าอัตรา 60% ที่เขาประกาศไว้ตอนหาเสียง
ทำให้บางคนตีความว่าเป็นการส่งสัญญาณว่าวอชิงตันกำลังใช้แนวทางที่นุ่มนวลกว่าที่คาดไว้สำหรับการจัดการความสัมพันธ์ที่ระหองระแหงกับจีน
แต่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า จีนมีแนวโน้มที่จะเป็นศัตรูหลักด้านเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ของรัฐบาลทรัมป์ชุดใหม่ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ซึ่งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมายังไม่ค่อยชัดเจน เนื่องจากสหรัฐฯ ติดพันปัญหาภายในประเทศและความคืบหน้าครั้งสำคัญของสงครามรัสเซีย-ยูเครน
“แม้ในช่วงหลังทรัมป์มีแนวโน้มที่จะทำข้อตกลงใหม่เรื่องการค้ากับจีน แต่ภาพรวมคือสหรัฐฯ ยังอยู่ในเป้าหมายที่ชัดเจน ภัยคุกคามจากภาษีศุลกากร การควบคุมการส่งออก ข้อจำกัดด้านการลงทุน และอื่นๆ ยังคงเป็นความเสี่ยงด้านลบสำหรับนักลงทุนในตลาดจีน”
— โธมัส แมทธิวส์ จาก Capital Economics

“นี่อาจไม่ใช่การขึ้นภาษีศุลกากรครั้งสุดท้ายต่อจีน” จูเลียน อีแวนส์-พริตชาร์ด จาก Capital Economics ระบุ และตั้งข้อสังเกตว่า ทรัมป์ขู่ว่าจะเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ กับประเทศต่างๆ เร็วสุดต้นเดือน เม.ย.
“จีนไม่ใช่เป้าหมายการเก็บภาษีตอบโต้เนื่องจากจีนเก็บภาษีสหรัฐฯ ในอัตราต่ำกว่า” อีแวนส์-พริตชาร์ดระบุ
อีแวนส์-พริตชาร์ดเผยว่า แต่ยังมีวิธีอื่นอีกที่ทรัมป์จะทำให้สงครามการค้ารุนแรงขึ้น อาทิ เก็บภาษีแบบกำหนดเป้าหมายสำหรับสินค้าเฉพาะเจาะจงที่คล้ายกับการจัดเก็บภาษีภายใต้รัฐบาล โจ ไบเดน และกล่าวเสริมว่า ทรัมป์อาจยกเลิกสถานะของจีนที่มี “ความสัมพันธ์ทางการค้าปกติถาวร” กับสหรัฐฯ ซึ่งจะทำให้อัตราภาษีเฉลี่ยต่อสินค้าจีนสูงกว่า 40%
หนังสือพิมพ์ Global Times ซึ่งมีรัฐบาลจีนสนับสนุนรายงานโดยอ้างแหล่งข่าว “ที่น่าเชื่อถือ” เมื่อวันจันทร์ว่า ขณะนี้ปักกิ่งกำลังพิจารณาใช้มาตรการของตัวเองเพื่อตอบโต้อัตราภาษีศุลกากรของทรัมป์
จางจื้อเวย ประธานและฟัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก Pinpoint Asset Management เผยว่า “ผมคิดว่าผู้กำหนดนโยบายและผู้ส่งออกในจีนเตรียมรับมือภาษีศุลกากรที่สูงขึ้นจากสหรัฐฯ ไว้ล่วงหน้าแล้ว และวางแผนตามนั้น”
Photo by NICOLAS ASFOURI / AFP
“ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับจีนจะกลายเป็นประเด็นสำคัญในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า”
— ถิ่งลู่ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จีนจาก Nomura
“นี่อาจไม่ใช่การขึ้นภาษีศุลกากรครั้งสุดท้ายต่อจีน” จูเลียน อีแวนส์-พริตชาร์ด จาก Capital Economics ระบุ และตั้งข้อสังเกตว่า ทรัมป์ขู่ว่าจะเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ กับประเทศต่างๆ เร็วสุดต้นเดือน เม.ย.
“จีนไม่ใช่เป้าหมายการเก็บภาษีตอบโต้เนื่องจากจีนเก็บภาษีสหรัฐฯ ในอัตราต่ำกว่า” อีแวนส์-พริตชาร์ดระบุ
อีแวนส์-พริตชาร์ดเผยว่า แต่ยังมีวิธีอื่นอีกที่ทรัมป์จะทำให้สงครามการค้ารุนแรงขึ้น อาทิ เก็บภาษีแบบกำหนดเป้าหมายสำหรับสินค้าเฉพาะเจาะจงที่คล้ายกับการจัดเก็บภาษีภายใต้รัฐบาล โจ ไบเดน และกล่าวเสริมว่า ทรัมป์อาจยกเลิกสถานะของจีนที่มี “ความสัมพันธ์ทางการค้าปกติถาวร” กับสหรัฐฯ ซึ่งจะทำให้อัตราภาษีเฉลี่ยต่อสินค้าจีนสูงกว่า 40%
หนังสือพิมพ์ Global Times ซึ่งมีรัฐบาลจีนสนับสนุนรายงานโดยอ้างแหล่งข่าว “ที่น่าเชื่อถือ” เมื่อวันจันทร์ว่า ขณะนี้ปักกิ่งกำลังพิจารณาใช้มาตรการของตัวเองเพื่อตอบโต้อัตราภาษีศุลกากรของทรัมป์
จางจื้อเวย ประธานและฟัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก Pinpoint Asset Management เผยว่า “ผมคิดว่าผู้กำหนดนโยบายและผู้ส่งออกในจีนเตรียมรับมือภาษีศุลกากรที่สูงขึ้นจากสหรัฐฯ ไว้ล่วงหน้าแล้ว และวางแผนตามนั้น”
Photo by NICOLAS ASFOURI / AFP